Toyota Highlander 2020

เห็นภาพครั้งแรก หลายคนคงนึกว่าเป็นรถยนต์ Subaru หรือบางคนอาจจะทายว่าเป็น Mazda หรือ Ford แต่ที่จริงมันคือ "Toyota Highlander 2020" โฉมใหม่ ซึ่งสลัดภาพลักษณ์เดิมๆ ไปจนหมด

  Toyota Highlander เป็นเอสยูวีขนาดกลางที่ใช้โครงสร้างพื้นฐาน TNGA ที่ Toyota นำไปใช้ในรถตั้งแต่ Prius, C-HR ไปจนถึง RAV4, Camry, Avalon     การออกแบบภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ นอกจากทำให้ลดเสียงลมที่เข้ามายังห้องโดยสารแล้ว ยังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ที่มีรูปทรงหกเหลี่ยม HighLander Gen 4 มีความยาวกว่ารุ่นเดิม 60 มม. และมีขนาดกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย แต่มีความสูงเท่าเดิม     เบาะแถว 2 สามารถเลื่อนขึ้นหน้าได้ 1.2 นิ้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่ legroom ของที่นั่งแถวที่ 3 มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 450 ลิตร เมื่อพับเบาะเเถว 3 แต่ถ้าพับเบาะแถว 2 ลงจะได้พื้นที่เพิ่มเป็น 2,075 ลิตร   จอทัชสกรีน 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto หน้าจอฝั่งคนขับขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ภาพกราฟิคคมชัดมีพอร์ท USB 3 ช่องทางด้านหน้า รองรับการชาร์จแบบไร้สาย สามารถส่ง Wi-Fi ได้ถึง 5 device ระบบเสียง JBL Premium 1,200 วัตต์ และลำโพง 11 ตัว กระจกมองหลังแบบดิจิทอล พร้อมกล้องช่วยมอง พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ เครื่องยนต์ v6 3.5 ลิตร 295 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All Wheel Drive Dynamic Torque Vectoring     ที่ช่วยให้ลากได้สูงถึง 5,000 ปอนด์ เมื่อติดตั้งชุดลากจูง ระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD ที่สามารถแยกแรงบิดด้านหน้าและด้านหลัง ไปยังล้อขวาหรือซ้าย เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนที่สามารถเรียกใช้เพียงล้อหน้าอย่างเดียว เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จะมีอยู่ในรุ่น V6 เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่คล้ายกับ Toyota Camry รุ่นล่าสุด เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร DOHC Dynamic Force i Four รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 240 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลือง 14.45 กม./ลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 17 % จากรุ่นที่แล้ว รุ่นไฮบริดมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อจ่ายกำลังให้กับเพลาล้อหลังเมื่อจำเป็น     Predictive Efficient Drive (PED) ของ Highlander จะวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ประจำวันของผู้ขับขี่ และสภาพถนนและการจราจรที่จะเกิดขึ้น เพื่อชาร์จและคายประจุแบทเตอรีไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยิ่งขับเคลื่อนยานพาหนะมากเท่าไร ข้อมูลก็ยิ่งถูกสะสมมากขึ้นเท่านั้น เช่น ในเมืองที่แออัด หรือถนนบนภูเขา ข้อมูลการขับขี่จะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นระบบเดียวกับที่พบใน RAV4 Hybrid ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมด Normal, Eco และ Sport สำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ     Toyota Highlander 2020 มาพร้อมกับ Toyota Safety Sense 2.0 Safety ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDA (Lane Departure Alert), ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน (Lane Tracing Assist), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam), ระบบเตือนสัญญาณจราจร (Road Sign Assist), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor)