ชไนเดอร์ อีเลคทริค โชว์ศักยภาพ "อีโคสตรัคเจอร์" ด้านระบบสาธารณูปโภคของระบบราง ในงาน RAIL Asia 2019

  ชไนเดอร์ อีเลคทริค จัดทัพ EcoStruxure ด้านระบบสาธารณูปโภคของระบบราง ชูนวัตกรรม 3 ระดับ เพื่อให้วงการเข้าสู่ยุคดิจิทอลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมาทั้งผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อกันได้ ทั้งระบบใหม่และต่อยอดระบบเก่า รวมไปถึงซอฟท์แวร์และอุปกรณ์ที่ช่วยในการควบคุมและมอนิเตอร์ระบบไฟฟ้าได้ทั้งระบบ พร้อมการนำเสนอศักยภาพอีกระดับในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ทั้งหมดในภาพรวม ด้วยระบบการดำเนินงานส่วนกลางที่สามารถบริหารจัดการระบบต่างๆ ได้ในจุดเดียว รวมไปถึงระบบสำรองไฟยุคใหม่ ที่ง่ายในการเชื่อมต่อลดเวลาการติดตั้ง สร้างความต่อเนื่องให้ระบบพลังงานอันเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนรถไฟฟ้าระบบราง และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย   มาร์ค เพลิทิเยร์ ประธาน ชไนเดอร์ อีเลคทริค ประเทศไทย เผยว่า EcoStruxure ของ ชไนเดอร์ อีเลคทริค เป็นสถาปัตยกรรมและพแลทฟอร์มด้าน IoT โดยใช้นวัตกรรมการเชื่อมต่อและรับ/ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อประสิทธิภาพด้านบริหารจัดการพลังงานและความยั่งยืนสูงสุด ด้วยนวัตกรรมใน 3 ระดับ ตั้งแต่การเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ การควบคุมพร้อมมอนิเตอร์ที่อุปกรณ์ปลายทาง และซอฟท์แวร์การวิเคราะห์ ทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือ สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเดิม และเทคโนโลยีใหม่ของค่ายใดก็ได้ ซึ่งในงาน RAIL Asia 2019 ชไนเดอร์ อีเลคทริค ได้นำเทคโนโลยีไฮไลท์ภายใต้ EcoStruxure มาแสดงถึงศักยภาพด้านดิจิทอลมากมาย อาทิ

• Wonderware System Platform ระบบดำเนินงานแบบรวมศูนย์ ช่วยในการควบคุม มอนิเตอร์ วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จากอุปกรณ์ทั้งระบบได้ในแบบเรียลไทม์ ให้ความสะดวก และป้องกันการผิดพลาดในการดำเนินงาน โดยใช้ผู้ดูแลเพียงไม่กี่คนก็ดูแลได้ทุกโครงข่ายของระบบไฟฟ้า
• Easy UPS 3S ถูกออกแบบให้ติดตั้งสะดวก รูปลักษณ์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัดให้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ถอดเปลี่ยนหรือปรับเพิ่มแบทเตอรีได้รวดเร็ว มีให้เลือกตั้งแต่ 10-40 kVA ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรและสร้างความต่อเนื่องของระบบ
• Modicon M580 ePAC (Ethernet Programmable Automation Controller) คอนทโรลเลอร์ควบคุมระบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงรับ/ส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไปยังศูนย์ควบคุมในแบบเรียลไทม์ มาพร้อมฟังค์ชัน Hot Standby (HSBY) หรือฟังค์ชันระบบสำรองฉุกเฉินในกรณีคอนทโรลเลอร์ตัวหลักเกิดปัญหา ระบบสำรองสามารถทำงานแทนได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีอีเธอร์เนทและระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ (Cyber Security) ฝังอยู่ในตัว นับเป็นคอนทโรลเลอร์ตัวแรกที่สร้างมาเพื่อรองรับการใช้งานการเชื่อมต่อ IoT
• ตู้จ่ายไฟ Prisma เป็นตู้ไฟที่มีความง่ายในการประกอบติดตั้ง ทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าได้ดี ได้รับมาตรฐาน IEC 61439-1 และ 2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดใหม่สำหรับการประกอบตู้คอนทโรลเกียร์ (Controlgear) และตู้สวิทช์เกียร์แรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low-voltage switchgear) นอกจากนี้ Prisma ยังสามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 4,000 แอมพ์
• Smart Panel ปรับเปลี่ยนตู้จ่ายไฟฟ้าให้มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น ทั้งตู้เดิมที่มีอยู่แล้ว หรือตู้ใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมความสามารถในการเปิด-ปิดแบบไร้สายผ่านสมาร์ทโฟน หรือแทบเลทได้อีกด้วย

  นอกจากนี้ ภายในงาน RAIL Asia 2019 ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ของ ชไนเดอร์ อีเลคทริค ที่น่าจับตามอง ด้วยความพร้อมของเทคโนโลยีบริหารจัดการพลังงานและออโทเมชัน โดยนับเป็นอีกหนึ่งในผู้ผลิตในไม่กี่รายในโลกที่มี โซลูชันแบบ End to End ของระบบการจัดการพลังงานที่ให้ความสามารถทั้งการมอนิเตอร์ ควบคุม และให้ประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ได้ในแบบเรียลไทม์ ให้ความเสถียรและความต่อเนื่องในการใช้งานสำหรับยุค 4.0   “การยกระดับประเทศไปสู่ยุคดิจิทอลอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้อยู่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้เพียงอย่างเดียว แต่เทคโนโลยีนั้นต้องมีความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อีกด้วย” มาร์ค เพลิทิเยร์ กล่าวทิ้งท้าย