ทดลองขับ
Ford Ranger Raptor สิงห์ทะเลทราย
หลังจากที่ Ford Ranger Raptor ผ่านการทดสอบในพื้นที่ทุรกันดารและทะเลทรายในประเทศออสเตรเลีย กระบะแกร่งพันธุ์ใหม่ มุ่งสู่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อพบกับบททดสอบบนเส้นทางโหดระดับเดียวกับการแข่งขัน BAJA 1000 และ DAKAR Rally สนามทดสอบเดียวกับ F-150 Raptor และได้รับการยอมรับจากทีม Ford Performance ก็ถึงเวลาที่คนไทยจะได้พิสูจน์สมรรถนะของ "สิงห์ทะเลทราย"
ภายนอกเท่ ดุดัน ใหญ่กว่า Ranger ในทุกมิติ ยาว 5,398 มม. กว้าง 2,180 มม. และสูง 1,873 มม. ช่วงล้อหน้าและหลัง 1,710 มม. กว้างกว่า 150 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 283 มม. มุมไต่ 32.5 องศา มุมคร่อม 24 องศา และมุมจาก 24 องศา มีสีภายนอกให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ฟ้า แดง ดำ ขาว และสีพิเศษเฉพาะ คือ เทา (Conquer Grey) ทำให้ตัวรถดูเด่นมากยิ่งขึ้น คุ้มกับราคา 1,699,000 บาท มากขึ้น
กระจังหน้า Ford ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก F-150 Raptor รถกระบะสมรรถนะสูงคันแรกของโลกจากโรงงาน ชุดกันชนด้านหน้าออกแบบติดกับเฟรมรถเพื่อความแข็งแกร่ง ทนทาน มาพร้อมไฟตัดหมอกแบบแอลอีดี และช่องรีดอากาศ ที่ช่วยลดการต้านลม แก้มข้างรถคู่หน้าแบบใหม่ผลิตจากวัสดุคอมโพสิท แข็งแกร่ง และทนต่อการบุบและรอยขีดข่วน ที่มักจะเกิดจากการใช้งานลุย และขยายโป่งออกไปด้านละ 75 มม. เพื่อรองรับระยะยุบตัวของชอคอับที่เพิ่มมากขึ้น และยางขนาดใหญ่
บันไดข้างออกแบบป้องกันไม่ให้เศษหินกระแทกตัวถังด้านหลัง และรูเพื่อระบาย ทราย โคลน และหิมะ ผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยรับน้ำหนัก 100 กก. และเคลือบถึง 2 ชั้น โดยการพ่นสี Powder-Coated ก่อนพ่น Grit-Paint ทับอีกชั้น ทนทานต่อการขีดข่วนและรอยเปื้อนที่เกิดจากอากาศและสภาพแวดล้อม กันชนท้ายเพิ่มชุดตะขอเกี่ยว 2 ชุด รองรับการลากจูงได้ถึง 3.8 ตัน ส่วนกระบะท้ายมีขนาดบรรทุก 1,560×1,743 มม. พื้นที่ใช้งานกว้าง
ภายในสปอร์ท เบาะมีความหนาเป็นพิเศษรองรับการขับขี่แบบลุยในความเร็วสูง รองรับด้านข้างและลดการสะเทือนของรถ เลือกใช้หนังกลับ ไม่ลื่น ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่าย ผู้โดยสารนั่งสบาย
คอนโซลหน้าบุหนังเดินด้ายสีน้ำเงิน แผงหน้าปัดแสดงฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบต่างๆ พวงมาลัยจาก Ford Performance พร้อมแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแมกนีเซียมน้ำหนักเบา อันเป็น DNA ใหม่ของ Raptor เพิ่มความแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการ
Ford สลักโลโก Raptor บนขอบพวงมาลัย และแถบแดง On-Centre Marker ด้านบนของพวงมาลัย ช่วยให้นักขับทราบถึงตำแหน่งองศาของพวงมาลัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
Ranger Raptor มีเทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อ ซิงค์ 3 (Sync 3) ระบบสั่งงานด้วยเสียง ผู้ขับขี่สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้แม้มือยังจับพวงมาลัยและตาจับจ้องอยู่ที่ถนน กล้องมองหลังแสดงภาพบนจอแอลซีดีขนาด 8 นิ้ว ทำงานร่วมกันกับสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
Ranger Raptor มีระบบอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ สามารถลอค/ปลดลอค และสตาร์ทรถได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ นอกจากนี้ ยังมีระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย ด้วยกลไกผ่อนแรง ช่วยผ่อนแรงไป 66 %
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 51 กก.-ม. หรือ 500 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ให้สมรรถนะและการตอบสนองที่ดีเท่าเครื่องยนต์ใหญ่ แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และน้ำหนักน้อยลง
เทอร์โบแรงดันสูง ทำงานเชื่อมต่อกับเทอร์โบแรงดันต่ำ ที่มีขนาดใหญ่กว่า ผ่านวาล์วบายพาสส์ทำหน้าที่ควบคุมลำดับการทำงานของเทอร์โบทั้ง 2 ลูก โดยขึ้นอยู่กับความเร็วของเครื่องยนต์ เมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำ เทอร์โบทั้ง 2 ตัว จะทำงานตามลำดับเพื่อช่วยเพิ่มแรงบิดและการตอบสนอง เมื่อช่วงรอบเครื่องยนต์สูง อากาศจะไม่ไหลผ่านเทอร์โบแรงดันสูง ทำให้เทอร์โบแรงดันต่ำที่ใหญ่กว่าช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น
เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ซึ่งมาจาก Raptor F-150 มีความทนทานและมีน้ำหนักเบา มีอัตราทดที่แคบลง จึงส่งผลให้มีอัตราเร่งและการตอบสนองดี อัตราเร่งมาแบบลื่นไหล แต่ต้องการขับสนุกขึ้นผู้ขับขี่ยังสามารถใช้แป้น Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้ แม้จะอยู่ในเกียร์ D
Ranger Raptor มาพร้อมกับระบบ Terrain Management System (Tms) มีโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกจากปุ่มบนพวงมาลัย ประกอบด้วย
โหมดการขับขี่ทางเรียบ Normal เน้นความสบาย นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน Sport เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง
ส่วนโหมดการขับขี่ทางลุย ก็ยังมีให้เลือกอีก 4 โหมด
Grass/Gravel/Snow ออกแบบมาให้ขับขี่บนพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ พร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่ 2
Mud/Sand เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน
Rock ใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ
Baja การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลีกลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ ลดการทำงานระบบป้องกันล้อหมุนฟรี รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้รวดเร็วกว่าเดิม
Ranger Raptor มีระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอีเลคทรอนิค (Electronic Steering Program) สำหรับการขับขี่แบบลุยโดยเฉพาะ แชสซีส์ของได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ลุยด้วยความเร็วสูง และทนต่อแรงกระแทกที่อาจเกิดจากการขับขี่
ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์ และสปริงคอยล์โอเวอร์ชอค ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น คาลิเพอร์เบรคคู่หน้าเป็นแบบลูกสูบคู่ ที่เพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขึ้น 9.5 มม. จานเบรคคู่หน้าแบบมีครีบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่ถึง 332×32 มม. ส่วนด้านหลังมีระบบ Brake Actuation Master Cylinder ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรคให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีจานเบรคแบบมีครีบระบายความร้อนขนาด 332×24 มม. คู่กับคาลิเพอร์เบรคใหม่ขนาด 54 มม.
ระบบช่วงล่างออกแบบมารับมือกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงบนสภาพพื้นผิวขรุขระ โดยที่ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์แบบและได้รับความสบายอย่างเต็มที่ ด้วยชอคอับแบบ Position Sensitive Damping (Psd) ที่จะเพิ่มแรงต้านเมื่อมีการกระแทกเต็มช่วงยุบกระบอกสูบ ให้ประสิทธิภาพการขับขี่แบบ 4WD ที่ดียิ่งขึ้น และจะลดแรงต้านเมื่อขับขี่บนถนนทางเรียบ เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ชอคอับผลิตเป็นพิเศษโดย Fox Shox ใช้ลูกสูบขนาด 46.6 มม. ทั้งคู่หน้าและหลัง มีระยะการให้ตัวของล้อสูงเพื่อความสามารถในการซับแรงกระแทกขณะขับลุย แต่ด้วยระบบบายพาสส์ภายใน (Internal Bypass Technology) จึงทำให้การขับขี่บนถนนทางเรียบเป็นไปอย่างราบรื่น
ปีกนกทำจากอลูมิเนียม ตัวบนแบบฟอร์จและตัวล่างแบบหล่อ เพื่อให้ระบบช่วงล่างทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แข็งแรงทนทาน ด้านหน้า อิสระ ปีกนกอลูมิเนียม 2 ชั้น พร้อมชอคอับ Fox Shox แบบมีระบบบายพาสส์ภายใน พร้อมด้วยเหล็กกันโคลง ด้านหลัง คอยล์โอเวอร์ชอค พร้อมชอคอับ Fox Shox แบบมีซับแทงค์ และระบบบายพาสส์ภายใน พร้อมด้วยวัตต์ลิงค์
Ranger Raptor ใช้ยาง All-Terrain Bf Goodrich 285/70 R17 ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับ Ranger Raptor โดยเฉพาะ เพื่อเสริมสมรรถนะการขับขี่ ยางมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 838 มม. กว้าง 285 มม. แก้มยางมีความแข็งแรงสูง ซึ่งเหมาะในการลุยทุกสภาพพื้นผิว ดอกยางขนาดใหญ่พิเศษ ผู้ขับขี่จึงสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะบนทางเปียกลื่น โคลน พื้นทราย และหิมะ
แผงกันกระแทกด้านล่างผลิตจากเหล็กกล้า (High-Strength Steel) หนา 2.3 มม. และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของ Ford Performance ช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ เช่น หม้อน้ำ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (Epas: Electric Power Assisted Steering) ชุดสายพานหน้าเครื่อง (Fead: Front End Accessory Drive) คานล่างด้านหน้า (Front Cross-Member) อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองขับส่วนหน้า
ระบบความปลอดภัยระดับสูงทั้งแบบแอคทีฟ และพาสสีฟ รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยทำงานร่วมกับฟังค์ชันลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) จะคอยช่วยเมื่อเข้าโค้ง หรือเบรคกะทันหันจนรถเริ่มเสียการทรงตัว นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (Trailer Sway Control) ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการบรรทุก (Load Adaptive Control) เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานแล้ว
หลังจากผ่านการขับทั้งบนถนน และเส้นทางทุรกันดาน หรือลุยโคลน Ranger Raptor ขับสนุกทั้งในเมือง และนอกเมือง นุ่มหนึบทรงตัวดี และไม่กระด้างเหมือนพิคอัพที่ใส่แหนบ อีกทั้งสามารถผ่านทางลุยไปได้สบายด้วยใต้ท้องรถที่สุูง แต่สิงห์ทะเลทราย อาจจะไม่ลงตัวสำหรับที่แคบ และป่าทึบ เพราะความกว้างของตัวรถที่มากกว่าพิคอัพทั่วไป
ABOUT THE AUTHOR
thanasan saowamol
ภาพโดย : ford