สำนักข่าว Nikkei รายงานข่าวการให้สัมภาษณ์ของ Carlos Ghosn ซีอีโอ ค่าย Nissan-Renault และ Mitsubishi ในงานของ Nissan ที่ ฮ่องกง ระบุว่า การใช้งานของรถไฟฟ้า น่าจะเดินทางได้ระยะทางราว 188 ไมล์ หรือประมาณ 300 กม. ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถลดราครถไฟฟ้าลงได้อีกค่าย Nissan นับเป็นค่ายที่เริ่มต้นการผลิตรถไฟฟ้า เจ้าแรกๆ ของโลกใบนี้ และถ้อยแถลงของ Ghosn ในครั้งนี้ เปรียบเสมือนกุญแจทางการตลาดจากผู้ผลิตรถไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลก “จะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันนี้ เลิกสอบถามเกี่ยวกับระยะการเดินทางของรถไฟฟ้าแล้ว ตราบเท่าที่ผู้ผลิตยืนยันว่า จะสามารถเดินทางได้มากกว่า 300 กม. สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน” Ghosn กล่าวว่า “แม้ผลจากการศึกษาก็เช่นกัน เราขายรถไฟฟ้าไปมากกว่า 500,000 คัน และพบว่า ผู้บริโภคไม่ได้คิดว่าระยะการเดินทางต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง จะเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อรถไฟฟ้า ตราบเท่าที่เขาทราบดีว่า จะสามารถเดินทางได้มากกว่า 300 กม.” นับตั้งแต่รถไฟฟ้าออกสู่ตลาด ข้อมูลเรื่องการเดินทางได้ระยะทางเท่าใด ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาก เพราะในขณะนั้น รถไฟฟ้ารุ่นแรกๆ จะเดินทางได้ประมาณ 80 ไมล์ หรือ ประมาณ 130 กม. จากการศึกษาข้อมูล พบว่า เพียงพอต่อการเดินทางไปในที่สาธารณะได้ 90 % ต่อ 1 วัน นับจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าผู้บริโภคบางกลุ่ม จะยังมีข้อต่อรองให้การเดินทางได้มากกว่านั้นสักเล็กน้อย อาจใช้เดินทางไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอีกสักนิดหน่อย หรือแวะศูนย์การค้า เพื่อจะได้ระยะทางเพิ่มขึ้น Ghosn ระบุว่า "ผู้บริโภคในปัจจุบัน ต่างเลิกกังวลกับระยะการเดินทาง ตราบเท่าที่สามารถยืนยันได้ว่า จะเดินทางได้ระยะทางมากกว่า 300 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งแม้จะน้อยกว่าการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในก็ตาม" ปัจจุบันนี้ รถไฟฟ้า ที่ออกจำหน่ายในตลาด สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 300 กม. แทบทุกยี่ห้อ แม้แต่คู่แข่งของ Nissan Leaf คือ Chevrolet Bolt ที่เดินทางได้ถึง 238 ไมล์ หรือ ประมาณ 380 กม. ส่วนค่าย Tesla รถทุกรุ่นก็เดินทางได้อย่างน้อย 200 ไมล์ หรือ ประมาณ 320 กม. และ Nissan Leaf รุ่นปัจจุบัน ก็สามารถเดินทางได้ถึง 225 ไมล์ หรือประมาณ 360 กม. ส่วน Hyundai ค่ายรถยนต์เกาหลี ก็นำเสนอรถไฟฟ้าในรุ่น Ioniq ก็ประกาศว่าระยะการเดินทาง/การชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 236 ไมล์ หรือประมาณ 380 กม. พัฒนาการทางเทคโนโลยีของแบทเตอรี ก้าวรุดหน้าไปเร็วมาก สามารถได้พละกำลังจากแบทเตอรีเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ขนาดของแบทเตอรี ยังคงเท่าเดิม รวมทั้งสามารถผลิตได้ด้วยการไม่เพิ่มราคาแบทเตอรีอีกด้วย Ghosn กล่าวว่า "รถไฟฟ้า ในปัจจุบันนี้ ยังคงมีราคาแพง ซึ่งขึ้นอยู่กับการอุดหนุนของรัฐบาลของแต่ละประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคใช้รถไฟฟ้า ที่ไม่สร้างมลภาวะ และราคาของแบทเตอรีของค่าย Nissan เอง ก็ลดลงมามาก และเราก็จะแข่งขันกันด้วยระยะทางที่สามารถเดินทางได้มากขึ้นในอนาคต"