ทดลองขับ โตโยตา ซี-เอชอาร์ หน้าตาดี ช่วงล่างหนึบ มั่นใจทุกโค้ง

"autoinfo.co.th" ร่วมทริพทดสอบ โตโยตา ซี-เอชอาร์ เส้นทาง น่าน-แพร่-ลำปาง ระยะทางกว่า 220 กม. เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางโค้ง ลัดเลาะไปตามเชิงเขา ขึ้น-ลง เนินชัน จึงทำให้การทดสอบครั้งนี้ รู้ถึงสมรรถนะทุกสัดส่วนของ ซี-เอชอาร์

ที่มาของชื่อรุ่น "C-HR" ย่อมาจาก Coupe High Rider ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีที่มีการออกแบบคล้ายกับรถสไตล์คูเป มี 4 รุ่นย่อย คือ รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท รุ่น HV Mid ราคา 1,069,000 และ HV Hi ราคา 1,159,000 บาท โดยรุ่นที่เราทดสอบเป็นตัวทอพ HV-Hi เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าระบบไฮบริด ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของ โตโยตา ภายนอก ดูดี มีลูกเล่น รูปลักษณ์ภายนอก ฉีกกฎครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีแบบเดิมๆ ด้วยเส้นสายที่ดูทันสมัย เฉียบคม มิติภายนอก 4,360 มม./1,795 มม./1,565 มม. (ยาว/กว้าง/สูง) ความยาวฐานล้อ 2,640 มม. สูงจากพื้น 154 มม. ติดตั้งไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ฝังไฟเลี้ยวอยู่ในโคมเดียวกัน ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะวิ่งเป็นเส้นตรง ดูสวยงาม สะดุดตา คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง เลกซัส ด้านข้างโดดเด่นด้วยที่เปิดประตูข้างบานท้าย ที่ถูกซ่อนอยู่ด้านบน หลังคาสีดำ เส้นสายเทลาดเอียงมาทางด้านหลัง ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว แบบ 5 ก้าน สีเงิน ซึ่งลวดลายอาจดูธรรมดาไปนิด รัดด้วยยาง 215/60/17 ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายรมดำ เสาอากาศแบบครีมฉลาม พร้อมสปอยเลอร์ด้านบนสีดำ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพ เทคโนโลยีจัดเต็ม สัมผัสแรกที่เข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร เห็นได้ชัดในเรื่องของวัสดุที่มีคุณภาพ ติดตั้งได้อย่างเรียบเนียน ในรุ่นทอพ ภายในจะเป็น 2 สีทูโทน ดำและน้ำตาล แผงคอนโซลหน้าหุ้มวัสดุคล้ายหนัง เนียนนุ่ม เสริมด้วยแผงพลาสติคสีดำเงาเป็นแถบยาวตั้งแต่ช่องแอร์ด้านซ้าย ไปถึงด้านขวา รวมถึงบนพวงมาลัยด้วย ส่วนแผงประตูด้านข้างทั้ง 4 บาน ก็เป็นหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ มีแผงพลาสติคสีน้ำตาลขึ้นรูปเป็นมิติคล้ายเหลี่ยมเพชรขนาดเล็กอยู่ติดกัน นอกจากนี้ภายใต้หลังคายังบุด้วยฟองน้ำสีดำ มีลวดลายลึกตื้น ให้ภายในรถดูลึกมีมิติ ติดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ T-Connect Telematics สามารถเชคตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชัน Fine My Car หรือ Apple Watch รวมไปถึงติดตั้งระบบกระจายสัญญาณ Wi-Fi เชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 9 อุปกรณ์ และยังสามารถโทรไปยังคอลล์เซนเตอร์ของผู้ให้บริการได้ เพื่อขอตำแหน่งจุดหมายปลายทาง โดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์บนหน้าจอเพื่อค้นหาสถานที่ การทำงานคล้ายกับโทรศัพท์มือถือ โดยติดตั้งซิมคาร์ดไว้ในระบบเครื่องเสียง ซึ่งผู้ใช้งานไม่ต้องจ่ายค่าบริการตลอดระยะเวลา 1 ปี เทคโนโลยีความความปลอดภัยมีมาให้ครบ อาทิ ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, เบรคมือไฟฟ้า, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมดึงพวงมาลัยกลับมาเล็กน้อย, ระบบ EV MODE รวมไปถึงระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมทั้งลดความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วและปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยฝังเรดาร์ไว้ที่ด้านหลังโลโกหน้ารถ ทำงานร่วมกับกล้องตรวจจับที่ติดไว้หลังกระจกส่องหลัง เมื่อทดลองนั่งจากเบาะด้านหน้า สามารถมองทัศนวิสัยภายนอกได้ดี เบาะนั่งสบาย มีสันปีกหนาขึ้นมาเล็กน้อย กระชับสัดส่วนของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าได้เป็นอย่างดี การปรับเบาะยังเป็นคันโยก ไม่ได้เป็นระบบไฟฟ้า เช่นเดียวกับคู่แข่งค่ายอื่น สำหรับพื้นที่นั่งด้านหลัง หากคนสูง 170 ซม. ก็ยังสามารถนั่งได้สบายๆ หัวไม่ชนกับเพดานด้านบนของรถ แต่ทัศนวิสัยของผู้โดยสารตอนหลังที่มองไปด้านข้าง อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะมีช่องกระจกที่แคบกว่ารถทั่วไป แต่นั่นก็เพราะการออกแบบที่เน้นให้รถมีรูปทรงคล้ายกับคูเปนั่นเอง แต่เมื่อลองลดกระจกลงมา ก็ลดกระจกได้หมดไม่ติดช่วงซุ้มล้อของประตู ทำให้ไม่เกะกะสายตา ลองขับขึ้น-ลงเขา ระยะทางกว่า 220 กม. เริ่มทริพทดสอบ ออกเดินทางจาก จ. น่าน มุ่งหน้าสู่สนามบินลำปาง ระยะทางกว่า 220 กม. ขับผ่านเนินเขา และโค้งจำนวนมาก ซึ่งทำให้รู้ถึงพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 3,600 รตน. ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ให้กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูง 122 แรงม้า ใช้แบทเตอรีไฮบริดแบบนิคเคิล เมทัล ไฮดไรด์ จำนวน 28 โมดูล ความจุไฟฟ้า 3.5 แอมพ์ป์ ซึ่งเป็นระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 ของ โตโยตา ที่ออกแบบให้แบทเตอรีมีขนาดเล็กลง มีระบบดูดอากาศจากห้องโดยสารเพื่อระบายความร้อน ติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลัง ทาง โตโยตา เคลมว่าประหยัดน้ำมันได้มากถึง 24.4 กม./ลิตร ซึ่งจากการทดลองขับ ก็ทำได้ไม่ยาก ให้พละกำลังขับเคลื่อนในช่วงทางราบที่ดี  ขับสนุก ออกตัวด้วยระบบไฟฟ้าได้เงียบ หากค่อยๆ เหยียบคันเร่งขึ้นไป ช่วงความเร็ว 0-100 กม. เสียงเครื่องยนต์เข้ามาห้องโดยสารน้อยมาก ขับได้เพลิดเพลิน แต่เมื่อเรียกพละกำลังที่ใช้รอบเครื่องสูงในช่วงขึ้นเขา เสียงเครื่องยนต์จะเข้ามายังห้องโดยสารมากขึ้น ให้พละกำลังการขับเคลื่อนช่วงขึ้นเขาได้ดี แต่ไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าด ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้สบาย ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบปีกนก เซทออกมาได้อย่างลงตัว ไม่นุ่ม และแข็งจนเกินไป เข้าโค้งลงเนินเขา ผ่านทางขรุขระ คอสะพาน ได้อย่างนุ่มนวล มั่นใจ การบังคับควบคุมพวงมาลัย เลี้ยวได้เฉียบคมทุกโค้ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ทั้งระบบช่วงล่างและการบังคับเลี้ยว ส่วนระบบเบรคเป็นแบบจานทั้ง 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อน เบรคได้นุ่มเท้า หยุดได้มั่นใจ สรุป : โตโยตา ซี-เอชอาร์ จัดเป็นรถที่หน้าตาดี ขับแล้วเท่ รูปลักษณ์ล้ำสมัย ช่วงล่างหนึบ แถมประหยัดน้ำมัน ถ้าใครชอบแนวนี้ ก็น่าจะตัดสินใจได้ไม่ยาก