ที่ประชุมสามัญประจำปี 2561 ของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กรรมการกลุ่มฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก ครรชิต ไชยสุโพธิ์ จากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ วาระปี 2561 - 2563 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป แทน องอาจ พงศ์กิจวรสิน ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานคนใหม่ของกลุ่มฯ ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งรับไม้ต่อมาจาก องอาจ พงศ์กิจวรสิน จะอยู่ในวาระการทำงาน 2 ปีนับจากนี้ไป นอกจากงานในตำแหน่งประธานกลุ่มฯ ยานยนต์คนใหม่ ท่านยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกตำแหน่ง จนกว่าสมาคมฯ จะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนเมษายนนี้
ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานคนใหม่ของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯ ไม่ใช่คนใหม่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อยู่ในวงการนี้มาเกือบ 30 ปี ตั้งแต่การเข้าทำงานครั้งแรกที่ โตโยตา สำนักงานใหญ่ที่สำโรง หลังจากนั้นเข้ามามีส่วนในการก่อตั้งโรงงานจีเอม ที่ระยอง ในช่วงที่ จีเอม และเชฟโรเลต์ กลับมาลงทุนใหม่ที่ประเทศไทยเมื่อปี 2539 ปัจจุบัน ครรชิต ไชยสุโพธิ์ เป็นผู้บริหารของ นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ ที่มาทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
จากประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมอย่างยาวนานจากยักษ์ใหญ่ในวงการ ทั้งฝั่งญี่ปุ่นและฝั่งสหรัฐอเมริกา เป็นการยืนยันการตัดสินใจของกรรมการกลุ่มฯ ยานยนต์ ที่ได้เลือก ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ให้มารับตำแหน่งประธานกลุ่มฯ คนใหม่ในครั้งนี้
ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญที่จะขับเคลื่อนกลุ่มฯ ยานยนต์ ในวาระการทำงาน ปี 2561 – 2563 คือ 1. สร้างบทบาทของกลุ่มฯ ยานยนต์ ภายใต้สภาอุตสาหกรรมฯ ให้เป็นที่พึ่งของสมาชิก เป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสีย ในฐานะองค์กรตัวแทนอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง แสดงภาพลักษณ์ที่ชัดเจนต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติ
2. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์สมัยใหม่ที่ภาครัฐกำลังส่งเสริม หรือยานยนต์เทคโนโลยีปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การรู้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงความพร้อมของสมาชิกคลัสเตอร์ยานยนต์ทั้งระบบ
3. นำเสนอนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างกลุ่มฯ กับองค์กรภายนอกและกับสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในการติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมด้วยข้อมูลที่รอบด้าน เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิก
4. สร้างบทบาทการเป็นผู้ชี้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในทุกด้าน ให้ความสำคัญเทคโนโลยีทุกประเภท เพื่อสร้างโอกาสให้กับสมาชิกอุตสาหกรรม ทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิตชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมสนับสนุน โดยมุ่งประโยชน์สูงสุดในการรักษาฐานการผลิตในประเทศ เพิ่มทางเลือกให้กับภาคเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรมไทย
5. สร้างพันธมิตรกับสถาบันการศึกษา บริษัทที่ปรึกษา หน่วยงานวิจัยอิสระ และองค์กรนานาชาติ เพื่อสร้างเครือข่ายที่ปรึกษา พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญจากบุคคลภายนอก เพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่ครอบคลุมรอบด้านและเป็นข้อเสนอแนะที่ดีที่สุดเพื่ออุตสาหกรรม
6. จัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ ความรู้ สร้างการรับรู้ในบทบาทของกลุ่มฯ ยานยนต์ให้สาธารณชนได้รับทราบ รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และนำความรู้ที่ได้รับเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไป
7. พัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและความพร้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เข้ามาร่วมทำงาน และมีบทบาทในการสานต่อการทำงานในคณะทำงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มฯ มีความเข้มแข็งต่อไป ในระยะยาว
8. กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกกลุ่มฯ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง สร้างความร่วมมือบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันทั้งผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มีความเป็นกลาง อันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ