ธุรกิจ
มาซดา สุดปลื้ม ! ยอดขายรถเดือนกุมภาพันธ์ โต 65 % ครองส่วนแบ่งตลาด 7.1 %
มาซดา สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ยอดขายสูงสุดทะลุ 5,400 คัน ครองส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 7.1 % จากกระแสความร้อนแรงและผลตอบรับจากลูกค้าแบบฉุดไม่อยู่ในรถทุกรุ่น โดยเฉพาะ มาซดา 2 ขึ้นครองอันดับ 1 ของตลาดรถเล็กเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เคียงคู่มากับความสำเร็จของมาซดา CX-5 ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการบุกหนักด้านสื่อสารทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เดินหน้าปรับปรุงการบริการหลังการขายและโชว์รูมใหม่ที่สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เข้ามาใช้บริการ ทำให้ยอดขาย 2 เดือนแรกเติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบแรนด์ มาซดา ที่ลูกค้าให้การตอบรับเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งานจริงและเกิดการบอกต่อ
กระแสความนิยมของรถยนต์พรีเมียมสัญชาติญี่ปุ่นบแรนด์ มาซดา ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ มาซดา 2 ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดขายจำนวน 3,448 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 84 % ครองแชมพ์อันดับ 1 ในเซกเมนท์รถนั่งขนาดเล็กรวมกับอีโคคาร์ 2 เดือนติดต่อกันได้สำเร็จ ส่วนอีกรุ่นที่มาแรงไม่แพ้กันกับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มาซดา ซีเอกซ์-5 จำนวน 752 คัน มีอัตราการเติบโตมากที่สุดถึง 231 % ส่วนรถรุ่นอื่นๆ ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น มาซดา ซีเอกซ์-3 จำนวน 333 คัน เพิ่มขึ้น 52 % รถกระบะ มาซดา บีที-50 พโร มียอดขายเพิ่มขึ้น จำนวน 477 คัน เพิ่มขึ้น 8 % ส่วน มาซดา 3 ยอดขายอยู่ที่ 391 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถ มาซดา ทั้งหมดในเดือนกุมภาพันธ์ ปิดตัวเลขอยู่ที่ 5,401 คัน หรือเติบโตสูงถึง 65 % ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในด้านยอดขายรวมที่เติบโตสูงสุดในรอบ 3 ปี
ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาซดา กำลังมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจจนมาถึงวันนี้ที่เราได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 7.1 % ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ มาซดา ผมมีความภูมิใจที่เราได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มาซดา เป็นบแรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ทันสมัยที่สุดในโลก เทคโนโลยี i-Activsense ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลก และยังเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกที่สุดที่มาพร้อมความแรง ความประหยัดน้ำมันและการออกแบบที่ล้ำสมัยตามแบบฉบับของโคโดะ ดีไซจ์น นอกจากนี้ เรายังได้เร่งการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดหรือ Mazda Corporate Identity ที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย พร้อมให้บริการลูกค้าเกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวังไว้ ส่งผลให้วันนี้ มาซดา กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะ มาซดา 2 ขึ้นครองอันดับ 1 ในตลาดรถนั่งขนาดเล็กเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ชาญชัย ตระการอุดมสุข ยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยปี 2561 มีแนวโน้มสดใสขึ้น หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลมองว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP จะขยายตัวที่ 3.8 % สำหรับทิศทางตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2561 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 37.8 ล้านคน ขยายตัวประมาณร้อยละ 7.0 จากปี 2560 ซึ่งปัจจัยที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ การขยายเส้นทางการบินของธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายเส้นทางการบินของไทยที่เชื่อมไปยังเมืองรองของจีน เป็นต้น และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดของประเทศไทย
สอดคล้องกับผลงานการวิจัยและจัดอันดับจากสถาบัน เจดี เพาเวอร์ ได้พิจารณารางวัล APEAL หรือ Automotive Performance, Execution and Layout ซึ่งได้สำรวจเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้ซื้อรถคันใหม่ในช่วงระยะเวลา 90 วันจากการได้เป็นเจ้าของ และในครั้งนี้รถที่ครองอันดับ 1 ในหัวใจของผู้บริโภค คือ มาซดา ซีเอกซ์-3 ซึ่งสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้เบื้องต้นโดยคำนึงถึง 5 ปัจจัย อันได้แก่ 1. การวางแผนผลิตภัณฑ์ โดยคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการ 2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ พิจารณาถึงการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความสำเร็จสูงสุด 3. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ พิจารณาด้านการปรับปรุงและพัฒนายานพาหนะที่ใช้ในปัจจุบัน 4. การขายและการตลาด 5. รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ โดยพิจารณาถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์ที่พนักงานขายควรให้ความสนใจ โดยจุดประสงค์ของ APEAL นั้น เป็นการศึกษาถึงความน่าดึงดูดใจและความพึงพอใจของเจ้าของที่มีต่อรถยนต์คันใหม่ในหลากหลายด้าน ซึ่งความหมายของคำว่าคุณภาพนั้นมิใช่พิจารณาเรื่องข้อผิดพลาด หรือการออกแบบที่ล้มเหลวเท่านั้น แต่รวมถึงการออกแบบ สมรรถนะ และประโยชน์ใช้สอยด้วย ทั้งนี้ในภาพรวมของ มาซดา สามารถทำคะแนนรวมได้ 906 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน ขึ้นแท่นอันดับที่ 5 ในปี 2560 ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพด้านความพึงพอใจสูงสุดที่ มาซดา มอบให้แก่ลูกค้า ตอกย้ำจุดแข็งเรื่อง Feel the passion หรือการเน้นในเรื่องบริการหลังการขาย
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด แสดงความเห็นว่า มาซดา มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นทุกปีในเรื่องของการส่งเสริมกิจกรรมด้านการตลาด ทั้งในเรื่องของสื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์ และสื่อดิจิทอล โดยในปีนี้เราได้ทำกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องและเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นเพื่อให้เกิดการเข้าถึงความต้องการและการรับรู้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านทาง Mazda Digital platform ทั้งช่องทางของเวบไซท์ โซเชียลมีเดีย ที่จะรวมเอาข้อมูลของ มาซดา สำหรับผู้ที่สนใจและกลุ่มผู้ใช้รถสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ รวมถึงการใช้ Content-based Marketing ที่ให้เกิดความสนใจและตอบสนองความสนใจของผู้บริโภคได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นล่าสุดของ มาซดา 2 ที่เน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นจนถึงวัยเริ่มต้นทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกเร้าใจในแบบที่ไม่ซ้ำทางใคร มีกิจกรรมท้าทายแบบใหม่ๆ ที่มีพลังและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชื่นชอบความสนุกเร้าใจ ผ่านสโลแกน “เร้าใจไม่เคยหยุด” นอกจากนี้ เรายังสื่อสารผ่านช่องทางของสื่อสิ่งพิมพ์ สปอทโฆษณาทางวิทยุ โฆษณาสื่อกลางแจ้ง สื่อโฆษณา ณ จุดขาย (POP) โฆษณาทางสื่อออนไลน์ในเวบไซท์ต่างๆ และสื่อของ มาซดา
ยอดการจำหน่ายรถ มาซดา ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เปรียบเทียบกับปี 2560
ข้อมูลการขายรถ กุมภาพันธ์ 2561 กุมภาพันธ์ 2560 % เปลี่ยนแปลง
มาซดา 2 3,448 1,874 + 84
มาซดา 3 391 499 - 22
มาซดา ซีเอกซ์-3 333 219 + 52
มาซดา ซีเอกซ์-5 752 227 + 237
มาซดา บีที-50 พโร 477 443 + 8
ยอดรวม 5,401 3,264 + 65
ABOUT THE AUTHOR
ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)