Lexus LS ซีดานตัวธง หรู เฉียบ ทุกอณู สมกับยานยนต์สายเลือดญี่ปุ่น

https://youtu.be/H1T4t-T8xIc  

Lexus LS รุ่นล่าสุด บ่งบอกความเป็นซีดานตัวธง ด้วยเส้นสายที่พริ้วไหว โฉบเฉี่ยว แฝงความสปอร์ททันสมัย ภายใต้ตัวถังที่มีขนาดตัวใหญ่โต ภูมิฐาน ผสมผสานศิลปะการออกแบบ และรูปแบบของวัฒนธรรมจากซีกโลกตะวันออกจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นของตัวถังภายนอกดังนี้

    แนวคิดการออกแบบที่เร้าใจ (Sensual Aggressive) ตัวรถได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่พริ้วไหวสวยงาม ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้เป็นซีดานหรูที่แฝงมาดสปอร์ทตั้งแต่แรกเห็นชุดไฟหน้ากระจายความสว่างได้อย่างยอดเยี่ยม ไฟเลี้ยวแบบ แอลอีดี 16 ดวง ส่องสว่างเรียงทีละดวงจากมุมด้านในจนถึงด้านนอกของตัวรถชุดโคมไฟท้ายรวมถึงไฟบนฝากระโปรงหลังเป็นแบบ แอลอีดี ทั้งหมด เน้นความคมชัด     ภายในผสานความหรูหราเข้ากับความสะดวกสบายเหนือระดับ ห้องโดยสารจึงออกแบบให้มีเทคโนโลยีด้านความสะดวกสบายสูงสุด ตกแต่งอย่างประณีต และไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยกลิ่นอายศิลปกรรมที่พิถีพิถันตามแบบฉบับของความเป็นญี่ปุ่น     เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับ 22 ทิศทาง และพนักวางขาไฟฟ้า ระบบสามารถสูบลมเข้าออกถุงลมเพื่อปรับองศาเก้าอี้ได้ในทุกมุม เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด เบาะนั่งหลังด้านซ้ายสามารถปรับพื้นที่วางขาสูงสุดได้ถึง 1,020 มม. มาพร้อมกับพนักวางขาไฟฟ้าที่ช่วยรองรับช่วงขาด้านล่างทำให้ผู้นั่งผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่     ระบบความบันเทิงของเบาะนั่งตอนหลัง ประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ ปรับตำแหน่งอัตโนมัติให้สอดคล้องกับตำแหน่งของเบาะนั่งเพื่อให้เห็นหน้าจอชัดเจน พร้อมด้วยเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ช่องใส่ SD card และสายต่อ HDMI สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้สะดวก เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ Miracast หรือ DLNA (Digital Living Network Alliance)     ระบบนวดผ่อนคลายพร้อมฟังก์ชั่นกดจุดแบบร้อน (เบาะที่นั่งด้านหลังซ้ายและขวา) ระบบถุงลมที่ติดตั้งภายในเบาะที่นั่งและพนักพิงจะพองลมเพื่อนวดหลังและต้นขาของผู้นั่ง  นอกจากนั้นยังสามารถทำความร้อนเพื่อเพิ่มความสบายตัวผ่อนคลาย โดยสามารถเลือกโปรแกรมสำหรับการผ่อนคลายทั่วร่าง (Full Body Refresh, Full Body Stretch และ Full Body Simple) หรือผ่อนคลายเฉพาะส่วน (ร่างกายส่วนบน ร่างกายส่วนล่าง ไหล่และสะโพก)  รวม 7 พโรแกรม     แผงควบคุมอเนกประสงค์ด้านหลังแบบสัมผัส จัดวางอยู่ในที่วางแขนตรงกลางเบาะหลังให้คุณควบคุมเสียงเพลง ระบบปรับอากาศ เก้าอี้และฟังก์ชั่นผ่อนคลาย ม่านกันแดดและไฟได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว     ระบบเสียงรอบทิศทาง Mark Levinson QLI  ระบบเสียงสามมิติ 16 ช่องทาง พร้อม ลำโพง 23  และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง QLI (Quantum Logic Immersion) เติมเต็มห้องโดยสารด้วยเสียงคุณภาพคมชัด โอบล้อมผู้ฟังด้วยเสียงสมจริงเป็นธรรมชาติพร้อมตำแหน่งของเสียงที่แม่นยำ มีมิติชัดเจน     เบาะนั่งตอนหน้าไฟฟ้าปรับ 28 ทิศทาง รองรับสรีระทุกส่วนของร่างกายอย่างพอดี เบาะรองไหล่ช่วยเสริมการขับขี่ และยังช่วยรองรับสะโพกช่วงหลังเป็นพิเศษ รวมถึงเบาะรองรับด้านข้างช่วยกระชับให้ร่างกายทรงตัวนิ่งในช่วงเข้าโค้ง     ระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะ สามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้นั่งแต่ละคน ปรับความสบายให้เหมาะสมกับผู้นั่งโดยทันที ทั้งนี้ยังตรวจจับแสงอาทิตย์ในช่วงเช้าและช่วงพลบค่ำ เพื่อควบคุมอุณหภูมิในรถให้ความสบายอย่างต่อเนื่อง     ระบบถุงลมช่วงล่างควบคุมไฟฟ้า ช่วยยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติเมื่อผู้โดยสารต้องการขึ้นหรือลง ทำให้การเข้าออกเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น     ระบบเบาะยกตัวเลื่อนรองรับอัตโนมัติ ทำให้การเข้าออกจากรถเป็นไปได้อย่างราบรื่น ระบบจะยกตัวเบาะนั่งขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ออกจากรถ และจะคืนตำแหน่งเดิมเมื่อผู้ขับขี่ขึ้นรถ เบาะเสริมด้านข้างจะเปิดเบาะด้านนอกออกเพื่อลดการกดทับที่บริเวณต้นขาในขณะที่ขึ้นและลงรถ     LS 350 Luxury : เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร (รหัส 8GR-FKS) กำลังสูงสุด 315 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 38.8 กก.-ม. ที่ 4,800-4,900 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.5 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.8 กม./ลิตร     LS 500 Executive :  เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (รหัส V35A-FTS) กำลังสูงสุด 421 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. ที่ 1,600-4,800 รตน.  เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.0 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.3 กม./ลิตร     LS 500h Executive และ Executive Pleat : เครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด V6 ขนาด 3.5 ลิตร (รหัส 8GR-FXS) กำลังสูงสุด 299 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่ 5,100 รตน. มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 177 แรงม้า คิดเป็นกำลังทั้งระบบที่ 359 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบ Multi Stage Hybrid อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 14.9 กม./ลิตร     ระบบ Multi Stage Hybrid ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ 10 ระดับ ตอบสนองคันเร่งได้อย่างฉับไว เปลี่ยนจังหวะเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง สลับการตอบสนองอัตราเร่งระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์และเพิ่มแรงขับขี่อีก 24 % โดยใช้ประโยชน์ความเร็วของเครื่องยนต์ที่หลากหลายจากความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง     ตัวถังรถทำจากวัสดุหลากหลาย โดยใช้โครงรถเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง เช่น แผงบันได โครงเสาตัวกลางและหลังคา เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงรถ นอกจากนี้ยังใช้วัสดุอลูมิเนียตักับโครงสร้างตัวถัง และตามจุดต่างๆ เช่น ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย บังโคลน ประตู และระบบรองรับ     โหมดเลือกการขับได้แก่ โหมด Normal , Eco , Comfort , Sport S และ Sport S+ นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับแต่งอิสระ (Customize) ยังทำให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระบบส่งกำลังรถยนต์ โครงสร้างตัวถังรถ และระบบปรับอากาศได้ตามที่ต้องการ     ระบบความปลอดภัยของ Lexus LS ที่น่าสนใจมีตามนี้ ระบบ Pre-Collision System เมื่อสัญญาณเรดาร์และกล้องหน้าตรวจจับได้ว่ารถมีแนวโน้มที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับและสั่งการตัวช่วยเบรคก่อนชนเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรค ถ้าผู้ขับขี่ไม่สามารถเหยียบเบรคได้ ก็จะสั่งการใช้งานเบรคโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ   ระบบ Dynamic Radar Cruise Control นอกจากรักษาระดับความเร็วแล้ว ยังสามารถควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยจะใช้เรดาร์และเซนเซอร์กล้องเพื่อตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถให้พอดีด้วยความเร็วคงที่   ระบบ Lane Keeping Assist (LKA) เมื่อตรวจพบว่ารถกำลังแล่นออกนอกเลนโดยไม่เจตนา (ไม่เปิดไฟเลี้ยว) ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยการสั่นที่พวงมาลัย และขึ้นเตือนที่หน้าจอแสดงผล ถ้าระบบประเมินว่าตัวรถยนต์กำลังจะข้ามเส้นแบ่งช่องจราจรโดย ระบบจะช่วยประคองพวงมาลัยไม่ให้รถออกนอกเลน   ระบบ Two-Stage Adaptive High Beam System (AHS) เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์เข้ามาในรัศมีที่เปิดไฟสูง ระบบจะเปิดปิดไฟ LED ไฟสูง 8 ดวง และไฟต่ำ 16 ดวง ในแต่ละข้าง เพื่อกันไม่ให้ไฟสูงจากหน้ารถสาดไปยังรถที่วิ่งสวนมา แต่ยังสามารถส่องไฟไปยังป้ายจราจรและวัตถุอื่นๆ ที่อยู่ข้างหน้ารถ   ระบบ Panoramic View Monitor หน้าจอแสดงผลแสดงทัศนวิสัยรอบทิศทาง ผ่านหน้าจอ EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบรถ     ระบบ Automatic Rear Seat Reclining เมื่อไม่มีผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง ระบบจะปรับเบาะให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองกระจกหลังได้ทัศนวิสัยกว้างขึ้น     Lexus LS  รุ่น LS 350 Luxury ราคา 11,530,000 บาท รุ่น LS 500 Executive ราคา 13,080,000 บาท รุ่น LS 500h Executive ราคา 14,500,000 บาท  รุ่น LS 500h Executive Pleat ราคา 15,830,000 บาท