ระเบียงรถใหม่
เปิดตัวครั้งแรกในโลก โพร์เช คาเยนน์ สปอร์ทตัวลุย สุดไฮเทค คันล่าสุดของ โพร์เช
“ฟอร์มูลา” ตอบรับคำเชิญจาก โพร์เช ร่วมงานเปิดตัว Porsche Cayenne แบบ World Premiere หรือ “ครั้งแรกในโลก” งานนี้เขาจัดขึ้นที่ Porsche Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่เมืองชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของ โพร์เชคาเยนน์ รุ่นนี้ นับเป็นทายาทลำดับที่ 3 หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน การตัดสินใจทำรถเอสยูวีของ โพร์เช นั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา ผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งมีชื่อเสียงยาวนานด้านการทำรถสปอร์ทสมรรถนะสูง แต่หันมาทำรถลุย มันเป็นความคิดที่ไม่มีใครเคยคาดเดา แต่ด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยาวนานของ คาเยนน์ (นับว่าเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งรุ่นแรกของ โพร์เช) สร้างชื่อเสียง และทำกำไรให้แก่บริษัทอย่างมาก จนทำให้ผู้ผลิตรถสปอร์ทหรูรายอื่นต้องหันมามอง ปรับแผน และจับเอารถแบบนี้ (SUV) ใส่ในสายการผลิตกันเกือบทุกราย (ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ราย ที่ยังใจแข็ง ซึ่งพอจะใช้นิ้วนับได้) คาเยนน์ รุ่นใหม่นี้ มีมิติตัวถังยาว 4,918 มม. (ยาวขึ้น 63 มม.) กว้าง 1,983 มม. (ไม่รวมกระจกมองข้าง) และสูง 1,696 มม. (เตี้ยกว่ารุ่นเดิม 9 มม.) ฐานล้อเท่าเดิม 2,895 มม. ช่องเก็บสัมภาระหลัง 770 ลิตร (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 100 ลิตร) รูปทรงภายนอกดูแล้วคล้ายรุ่นเดิมมาก เรามีความเห็นว่าส่วนท้ายของ คาเยนน์ ใหม่นี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ พานาเมรา สปอร์ทหรู 4 ที่นั่ง คันโตจากค่ายเดียวกัน พแลทฟอร์มรุ่นนี้ถูกพัฒนาและใช้งานร่วมกับ เอาดี คิว 7 (Audi Q7) และเบนท์ลีย์ เบนเทย์กา (Bentley Bentayga) รถกิจกรรมกลางแจ้งหรูภายใต้หลังคาเดียวกัน แต่จะยืดหดบางส่วนลง น้ำหนักของ คาเยนน์ ลดลงเหลือไม่ถึง 2 ตัน (เบาลงกว่าเดิม 65 กิโลกรัม) เป็นผลมาจากการเลือกใช้วัสดุช่วงล่าง และตัวถังแบบเบา และเลือกใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในหลายจุด ส่งผลให้ขับสนุกยิ่งขึ้นทั้งทางตรง/ทางโค้ง และที่สำคัญประหยัดน้ำมันมากขึ้น https://youtu.be/lnoIIM9z3k8 ภายในออกแบบโดยเน้นความสปอร์ท และความหรูหรา ปฏิวัติระบบเชื่อมต่อ ลดความวุ่นวายของปุ่มควบคุมต่างๆ ลง โดยหันไปใช้ระบบสัมผัส (แบบเดียวกับมือถือ) คือ ต้องออกแรงสัมผัสบนกระจก และจะมีแรงต้านปลายนิ้ว (Haptic) เพื่อบ่งบอกถึงการตอบสนอง แต่ปุ่มแบบดั้งเดิม (Analog) ยังคงเหลือไว้สำหรับบางเรื่องเท่านั้น เช่น ปุ่มปรับระดับความแรงของพัดลมแอร์ ส่วนจอควบคุมด้านหน้ามีขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูง เป็นระบบสัมผัส มองสบายตา และสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง โดยเชื่อมกับข้อมูลสดแบบออนไลน์ คาเยนน์ ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ คาเยนน์ และ คาเยนน์ เอส ต่างกันที่ขนาดเครื่องยนต์ จำนวนเทอร์โบ และความแรง กาเยนน์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ วี 6 สูบ 2,995 ซีซี ให้กำลัง 250 กิโลวัตต์ (340 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 40 แรงม้า) ส่วน คาเยนน์ เอส ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ วี 6 สูบ 2,894 ซีซี ให้กำลัง 324 กิโลวัตต์ (440 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 20 แรงม้า) ระบบเกียร์ทั้งสองรุ่นเป็นแบบ ทริพทรอนิค เอส อัตโนมัติ 8 จังหวะ ตอบสนองเร็วขึ้น อัตราทดชิด ทำให้ขับสนุกทั้งถนนเรียบและทางฝุ่น เพิ่มจำนวนเกียร์ขึ้นทำให้รอบเครื่องต่ำลงที่ความเร็วสูง เพื่อประหยัดน้ำมัน และขับสบาย https://youtu.be/ns6bXQJ88tI ตามตัวเลขของผู้ผลิต โมเดลพื้นฐาน ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.2 วินาที (ถ้าติดตั้งชุด Sport Chrono จะเหลือเพียง 5.9 วินาที) ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.2-9.0 ลิตร/100 กม. หรือ 10.8-11.1 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 209-205 กรัม/กม. ส่วน คาเยนน์ เอส ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 เทอร์โบคู่ ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 5.2 วินาที (ถ้าติดตั้งชุด Sport Chrono จะเหลือเพียง 4.9 วินาที) 265 กม./ชม. 9.4-9.2 ลิตร/100 กม. หรือ 10.6-10.8 กม./ลิตร และ 213-209 กรัม/กม. ระบบรองรับพัฒนาขึ้นใหม่ เป็นแบบถุงลม และระบบกันโคลงเสริมแรงต้านด้วยไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ ขณะเดียวกันให้ความนุ่มนวล เน้นการใช้งานทั้งสภาพทางถนนหลวง และเส้นทางทุรกันดาร ระบบ Porsche 4D Chassis Control System ทำงานแบบ Real time ปรับแต่งช่วงล่าง PASM Damper พร้อมกับระบบรองรับที่พัฒนาขึ้นใหม่ ล้อคู่หลังปรับทิศทางได้ เพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง และวงเลี้ยวแคบลงขณะกลับรถ มีออพชันให้เลือก เป็นช่วงล่างแบบถุงลมพิเศษขนาดใหญ่ที่มี 3 ช่อง เพิ่มความละเอียดของความแข็งอ่อน Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบกันโคลงเสริมแรงต้านด้วยระบบไฟฟ้า เปลี่ยนจากระบบไฮดรอลิคแบบเดิมมาเป็นไฟฟ้า ทำให้ตอบสนองการบิดตัวได้รวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกันเพิ่มความนิ่มนวลขณะขับขี่ปกติ ล้อทั้ง 4 มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิม 1 นิ้ว และเป็นครั้งแรกที่ คาเยนน์ ใช้ยางคู่หน้าและยางคู่หลังต่างขนาดกัน (แบบเดียวกับสปอร์ทสมรรถนะสูงอย่าง 911) ยางคู่หลังมีขนาดกว้างขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้เลือก 4 สภาพพื้นผิว โคลน ทราย หญ้า และหิน ซึ่งจะปรับแต่งการตอบสนองของช่วงล่าง ระบบถ่ายทอดกำลัง และดิฟเฟอร์เรนเชียล ลอค ให้เหมาะสม นับเป็นครั้งแรกที่มีออพชัน Porsche Surface Coated Brake (PSCB) ให้เลือก เคลือบ Tungsten-carbide ที่จานเบรค เพิ่มแรงเสียดทานขณะเบรค และยืดอายุการใช้งาน คาลิเพอร์เบรคสีขาว จะมีเฉพาะรุ่นที่ใช้ล้อขนาด 20 นิ้วขึ้นไป เรียกได้ว่ารูปทรงภายนอกดูเผินๆ เหมือนเดิม แต่รับประกันภายในใหม่หมดถอดด้าม...อย่างนี้ล่ะสไตล์ โพร์เช เขา !!
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์
ภาพโดย : ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ และโรงงานผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา