PSA Group จบดีลซื้อ Opel/Vauxhall

 

เป็นข่าวกันมาพักหนึ่งแล้ว กับเรื่องการเข้าซื้อกิจการของ Opel และ Vauxhall ในยุโรป ที่ค่าย GM ประกาศขาย และ PSA Group ตกลงรับซื้อทั้งสองยี่ห้อ

ปัจจุบัน การซื้อขายหุ้นของทั้งสองฝ่ายสำเร็จเรียบร้อย อันจะทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ของ PSA Group เพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับ 2 ในทวีปยุโรป ด้วยส่วนแบ่งการจำหน่าย 17 % เป็นรองเพียงค่าย Volkswagen เท่านั้น การซื้อขายมูลค่า 1.9 พันล้านยูโร ทำให้ความสัมพันธ์อันยาวนาน 88 ปี ระหว่าง Opel, Vauxhall และ GM ต้องขาดจากกัน มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ PSA Group ซึ่งเตรียมประกาศแผนงานเพื่อการผลิตรถยนต์คุณภาพ พร้อมที่จะนำเสนอแก่ผู้ลงทุนภายใน 100 วันข้างหน้า Michael Lohscheller ซีอีโอ Opel ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งแทน Dr Karl-Thomas Neumann วางเป้าหมายที่จะทำให้ Opel กลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง ภายในปี 2563 ภายใต้การดำเนินงานของ PSA Group เมื่อมาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ PSA Group เท่ากับว่าต้นทุนการจัดซื้อชิ้นส่วน การค้นคว้าและพัฒนา รวมทั้งในสายการผลิต จะถูกเฉลี่ยเป็นต้นทุนของทั้งสามยี่ห้อ ซึ่งเปรียบเทียบกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของค่าย Opel เพียงเจ้าเดียว จะทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1.5 พันล้านยูโรต่อปี และเป้าหมายจากการควบรวมครั้งนี้ จะทำให้ Opel สามารถควบคุมกระแสการเงินในการผลิตได้ภายในปี 2563 เช่นเดียวกับเพิ่มรายได้จากการดำเนินงานอีก 2 % ภายในปี 2563 และเพิ่มเป็น 6 % ภายในปี 2569 Carlos Tavares ประธาน PSA Group  ชี้แจงว่า “รถยนต์ยี่ห้อ Opel ก็ยังคงเป็นรถเยอรมัน ขณะที่ Vauxhall ก็ยังคงเป็นรถอังกฤษ ซึ่งนั่นเหมาะสมสำหรับค่ายรถจากยุโรป” ปีที่แล้ว PSA Groupจ ำหน่ายรถยนต์ได้ 3.5 ล้านคัน เทียบกับ Opel/Vauxhall ที่ขายได้เพียง 8 แสนคัน หลังจากเสร็จสิ้นการตกลงครั้งนี้ เท่ากับเป็นการยืนยันตำแหน่งงานในสายการผลิต Vauxhall ที่โรงงาน Ellesmere Port ไปจนถึงปี 2564 และโรงงาน Vivaro จนถึงปี 2568 ซึ่งหลังจากนั้นบริษัทจึงจะตัดสินใจว่า จะขึ้นสายการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่โรงงานแห่งไหน