บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เชิญเราไปเมืองฮันโนเฟร์ ประเทศเยอรมนี เพื่อร่วมงาน Continental Tech Show 2017 ซึ่งเป็นงานโชว์นวัตกรรมยานยนต์ล้ำยุค ที่ คอนทิเนนทัล จัดแสดงเป็นประจำทุกปี ปีนี้มีไฮไลท์เด็ดมากมาย ภายใต้แนวคิดของงาน #makingMobility เชื่อไหมครับว่า ในงานครั้งนี้ มีนวัตกรรมที่เปิดตัวครั้งแรกในโลก มากถึง 12 รายการ และเปิดตัวครั้งแรกในยุโรป อีก 4 รายการ และหนึ่งในนั้น มีเทคโนโลยีแนวคิดใหม่ของยางรถยนต์ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก เราจะหยิบยกเทคโนโลยีที่น่าสนใจมานำเสนอ และเทคโนโลยีเหล่านี้ จะถูกนำเสนอต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท 2017 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ หลังจากเดินทางถึงเมืองฮันโนเฟร์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีธุรกิจอุตสาหกรรมหลักๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ และคอนทิเนนทัล ใช้เมืองนี้เป็นสำนักงานใหญ่ มีทั้งภาคส่วนของธุรกิจเกี่ยวกับไอที เทคโนโลยียานยนต์ มีศูนย์ทดสอบระบบเบรคอัตโนมัติในร่มแห่งเดียวในโลก (AIBA) มีสนามทดสอบรถยนต์ Contidrom ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด โดยเปิดทำการตั้งแต่ปี 1967 เป็นสนามทดสอบยาง และเป็นสถานที่ที่บริษัทรถยนต์ค่ายดังมาใช้บริการทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก่อนจะออกสู่ตลาด พโรแกรมวันแรกนั้น เราเดินทางสู่สนามทดสอบรถยนต์ Contidrom เพื่อเยี่ยมชมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ คอนทิเนนทัล คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาโดยเน้นหนักไปที่เรื่องความปลอดภัยของชีวิต โดยกิจกรรมจะถูกแบ่งเป็น 3 เซคชัน ประกอบด้วย Electrification, Connectivity และ Automated Driving ทุกๆ เซคชัน มีเทคโนโลยีน่าสนใจรออยู่อย่างคับคั่ง เช่น เทคโนโลยีใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลก อาทิ ระบบรถไฟฟ้าที่มีระบบชาร์จแบบเหนี่ยวนำ เป็นการชาร์จระบบไฟฟ้าแบบไร้สายของรถไฟฟ้า ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ ด้วยกำลังชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 11 กิโลวัตต์ และมีระบบนำทางให้ผู้ขับไปยังจุดชาร์จไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ ระบบ All Charge เป็นระบบชาร์จรูปแบบใหม่ โดยระบบจะเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นเครื่องชาร์จแบบ All Charge ที่ใช้งานกับรถไฟฟ้าทุกระบบ ทุกเต้ารับ และระบบ All Charge สามารถเก็บความจุไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 800 โวลท์ และสามารถใช้งานได้ถึง 350 กิโลวัตต์ ชุดขับเคลื่อนแบบปรับด้วยระบบไฟฟ้า เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้น มีการออกแบบระบบรองรับและเพลาขับให้มีน้ำหนักเบา เพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เปิดตัวยางรถยนต์ แนวคิดใหม่สำหรับรถไฟฟ้า ไฮไลท์ของงานครั้งนี้ อยู่ที่การเปิดตัวยาง คอนทิเนนทัล พรีเมียม คอนแทคท์ 6 เป็นยางที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีระบบเซนเซอร์ วิเคราะห์การต้านการหมุนและช่วยลดเสียงที่เกิดจากการหมุน ช่วยให้การขับขี่รถไฟฟ้ามีความเงียบ และนุ่มนวล อีกทั้งยังไม่ส่งผลกระทบกับการเสียดสี การเข้าโค้ง และระยะทาง อาทิ ยาง คอนทิเนนทัล พรีเมียม คอนแทคท์ 6  เป็นยางรถที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่นุ่มสบาย ให้การควบคุมรถที่ดีขึ้น และมีคุณสมบัติในการเบรคบนถนนเปียกและแห้งได้ดีเยี่ยม ด้วยส่วนผสมของซิลิคารูปแบบใหม่ ทำให้ยางมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 16-21 นิ้ว เหมาะสำหรับรถซีดาน และเอสยูวี ยาง คอนทิเนนทัล สปอร์ท คอนแทคท์ 6 เป็นยางที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี Black Chill เพื่อให้ยางมีการยึดเกาะถนนสูงสุด และมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ดีเยี่ยม มีการพัฒนาลายดอกยางแบบ Vector เพื่อเน้นการบังคับควบคุมรถ นอกจากนี้ ยังผสานเทคโนโลยี Aralon 350 เป็นการพัฒนา Cap Ply เพื่อให้ยางมีเสถียรภาพการยึดเกาะถนน และสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 350 กม./ชม. มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 19-23 นิ้ว ยาง คอนทิเนนทัล ทั้ง 2 รุ่น เน้นพัฒนาให้มีการเบรค และยึดเกาะถนน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตามแนวคิด Vision Zero และรองรับการใช้งานสำหรับรถไฟฟ้า และยานยนต์ไร้คนขับ ตัวยางจะมีเซนเซอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบของรถ เพื่อใช้ในการวัดข้อมูลต่างๆ เช่น สภาพถนน, ลมยาง, อากาศ และอื่นๆ เครื่องเสียงติดรถยนต์ แนวคิดใหม่ (AC2ATED Sound Speakerless Audio) เป็นระบบเสียงแนวคิดใหม่ ที่ให้พลังเสียงแบบคอนเสิร์ท แต่ไม่ใช้ลำโพงในรูปแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ระบบคาดการณ์ว่าในเวลาอันใกล้นี้ จะมีค่ายรถหรูเตรียมติดตั้งในรถรุ่นใหม่ๆ แนวคิดรถเช่าแห่งโลกอนาคต (IOT Enable Driver Optimized) เป็นบริการพื้นฐานของการใช้บริการรถเช่า ที่จะมาแทนที่การซื้อรถมาใช้งานเมืองใหญ่ ที่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ เพราะระบบจะรวมเอาซอฟท์แวร์ต่างๆ จากพันธมิตรหลายๆ ค่าย มารวมไว้ในรถเช่าแห่งอนาคต ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกควบคุมด้วยสมาร์ทโฟน ทั้งการระบุตำแหน่งรถ การสตาร์ทรถ การเปิด/ปิดตัวรถ ระบบนำทาง ระบบคลาวด์ อินฟอร์เมชัน และอื่นๆ ระบบคนขับอัตโนมัติ (Cruising Chauffeur) ระบบนี้จะเข้ามาเทคโอเวอร์แทนคนขับ ในกรณีที่ระบบตรวจพบว่า คนขับไม่สามารถขับรถได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ระบบจะตัดการควบคุมรถ และทำหน้าที่ขับรถเข้าจอดข้างทางอย่างปลอดภัย ระบบวิเคราะห์การขับขี่ (Driver Analyser) จะทำหน้าที่ตรวจวิเคราะห์ความพร้อมของผู้ขับก่อนที่จะขับรถ โดยตรวจจับใบหน้า และสายตาเป็นหลัก ไม่ว่าคุณจะดื่มหนักกับเพื่อนหลังเลิกงาน หรือง่วงนอน ระบบจะตรวจจับใบหน้าและดวงตา ก่อนที่จะประเมินและเข้าควบคุมรถต่อจากคนขับ ทันทีที่ตรวจพบว่าผู้ขับไม่พร้อมที่จะขับรถ ต้นแบบยานยนต์ไร้คนขับ (CUBE: Continental Urban Mobility Experience) พระเอกของงานประจำปีนี้ คือ เจ้าสิ่งนี้ เป็นการนำเสนอให้โลกรู้ว่า มีเทคโนโลยีใดบ้าง ที่จำเป็นสำหรับโรบอท-แทกซี และรถยนต์อัตโนมัติในการขนส่งผู้โดยสาร จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในเมืองแห่งอนาคต ซึ่งเป็นแนวคิดของงานนี้ ที่กลุ่ม คอนทิเนนทัล ประกาศตัวชัดเจนว่า "2025 AD The Year of Automated Driving" และเจ้า CUBE จะถูกเน้นในเรื่องระบบขนส่งมวลชน โดยรถต้นแบบสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 12 คน มีระบบอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ที่ยานยนต์ไร้คนขับต้องมี ระบบกล้องเครือข่ายประสาท เป็นเทคโนโลยีเซนเซอร์ของระบบ AI ที่จะมาช่วยวิเคราะห์สถานการณ์จราจร จากการตรวจจับวัตถุพื้นฐาน โดยช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจจับวัตถุรอบๆ รถ และนำมาแสดงผลผ่านจอควบคุมบนแผงหน้าปัดรถ ระบบเบรคสำรอง (MK C1 HAD) ระบบ MK C1 HAD เป็นแนวคิดใหม่สำหรับระบบเบรคในรถยนต์ โดยมีน้ำหนักและลดพื้นที่ในการติดตั้งให้น้อยลง แต่มีพื้นที่ในการเบรคมากกว่าแบบเดิม และระบบนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ระบบควบคุมการเคลื่อนไหวแบบไดนามิค (Nexteer) ระบบ Nexteer เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่ม คอนทิเนนทัล กับ Nexteer พัฒนาระบบควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งออกแบบมาเพื่อควบคุมยานยนต์ไร้คนขับ ให้วิ่งอยู่ในเลนของตนเอง และสำหรับเทคโนโลยีที่เปิดตัวครั้งแรกในยุโรป มีอีก 4 รายการ ได้แก่ ระบบ 3D Digital Cluster+Finger Gestures ระบบคอนทโรลเลอร์ ดิจิทอล รูปแบบนี้ เป็นระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบเรียลไทม์ ผ่านจอแสดงผลแบบ 3D, ระบบ Cloud Terminal เป็นการรวบรวมข้อมูลคลาวด์ ที่ทันสมัย และน่าสนใจ รวมถึงบริการสาระความบันเทิงต่างๆ มาให้บริการผู้ขับขี่ โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการอัพเดทซอฟท์แวร์ต่างๆ จากหลายๆ แอพพลิเคชันให้วุ่นวาย ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงบริการที่ชื่นชอบได้ในแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนคลาวด์, ระบบ 3D Flash Lidar เป็นระบบเซนเซอร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อควบคุมการทำงานของยานยนต์ไร้คนขับ และระบบ Camera Cleaning   ดร. เอลมาร์ เดเกนฮาร์ท ซีอีโอของกลุ่ม คอนทิเนนทัล ส่วนพโรแกรมวันที่สอง เรามีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์ R&D ของกลุ่ม คอนทิเนนทัล ซึ่งเริ่มกิจการมาตั้งแต่ปี 1871 เป็นบริษัทผลิตยางรถที่พัฒนาร่องดอกยาง เป็นบริษัทแรกของโลก ปัจจุบัน คอนทิเนนทัล มีกลุ่มธุรกิจ 5 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจ Chassis&Safety, Power Train, Interior, Tires และ Contitech ในปี 2016 กลุ่ม คอนทิเนนทัล ทำยอดขายรวมได้สูงสุดถึง 40.5 พันล้านยูโร สัดส่วนของแต่ละกลุ่ม มีดังนี้ กลุ่ม Chassis&Safety 22 % กลุ่ม Power Train 18 % กลุ่ม Interior 20 % กลุ่ม Tires 26 % และกลุ่ม Contitech 14 % ผ่านสาขาต่างๆ กว่า 427 แห่ง ใน 56 ประเทศทั่วโลก และคอนทิเนนทัล มองการณ์ไกล ตั้งวิสัยทัศน์ธุรกิจไว้ว่า "2025 AD The Year of Automated Driving" จะเป็นปีที่ยานยนต์ไร้คนขับ จะเริ่มเป็นจริง ส่วนจะเป็นแค่ความฝัน หรือจะเป็นยุคใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ อีก 8 ปีข้างหน้า เรามาติดตามกัน ขอขอบคุณ บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่พาเราไปสัมผัสเทคโนโลยียนตรกรรมล้ำอนาคต ในงาน Continental Tech Show 2017