ทดลองขับ(formula)
อัลฟา โรเมโอ บเรรา 2.0 เจทีเอส
อัลฟา โรเมโอ บเรรา (ALFA ROMEO BRERA) เป็นผู้สืบทอดตำนานของสปอร์ทคูเปอย่าง 1900 เอสเอส (1900 SS) จูลิเอตตา สปรินท์ (GIULIETTA SPRINT) และ อัลเฟตตา จีทีวี (ALFETTA GTV) ถือเป็น 1 ใน 3 โมเดลเด่น ของค่าย อัลฟา โรเมโอ ที่พัฒนาจากรถยนต์ต้นแบบของ โจร์เจตโต จูจาโร แห่งสำนักอีตัลดีไซจ์น ซึ่งผสมผสานความสวยงาม รูปลักษณ์แบบสปอร์ท และความนุ่มนวล สะดวกสบาย สไตล์อิตาเลียน ไว้อย่างลงตัวอัลฟา โรเมโอ บเรรา (ALFA ROMEO BRERA) เป็นผู้สืบทอดตำนานของสปอร์ทคูเปอย่าง 1900 เอสเอส (1900 SS) จูลิเอตตา สปรินท์ (GIULIETTA SPRINT) และ อัลเฟตตา จีทีวี (ALFETTA GTV) ถือเป็น 1 ใน 3 โมเดลเด่น ของค่าย อัลฟา โรเมโอ ที่พัฒนาจากรถยนต์ต้นแบบของ โจร์เจตโต จูจาโร แห่งสำนักอีตัลดีไซจ์น ซึ่งผสมผสานความสวยงาม รูปลักษณ์แบบสปอร์ท และความนุ่มนวล สะดวกสบาย สไตล์อิตาเลียน ไว้อย่างลงตัว ภายนอก สปอร์ท ปราดเปรียว รูปลักษณ์ของ บเรรา สวยงาม ปราดเปรียว และมีความเป็นสปอร์ทมากกว่ารุ่น 2 ประตู เปิดประทุน สไปเดอร์ และ 159 ซีดาน คันเท่ ทั้ง 3 รุ่น มีหน้าตาที่เหมือนกัน โดยยังคงความคลาสสิคของ อัลฟา โรเมโอ ไว้ด้วยกระจังหน้ารูปหัวใจ ไฟหน้าทรงกลมข้างละ 3 ดวง ไม่มีกระจกครอบ แนวเส้นรูปตัว V บนฝากระโปรงหน้าคาดยาวไปจนถึงด้านหลัง แต่ บเรรา ใช้กระจกมองข้างแบบก้านยก คล้ายกับสปอร์ทพันธุ์แท้อย่าง แฟร์รารี ตัวรถสั้นกระชับกับหลังคาลาดเท โคมไฟท้ายทรงลิ่มรับกับแนวเส้นที่ลากมาบรรจบกับโลโก กระจกหลังดีไซจ์นโฉบเฉี่ยวกว่า จีทีวี (GTV) ภายใน คลาสสิคร่วมสมัย บเรรา มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน ในเบาะคู่หน้า และผู้ติดตามหุ่นกะทัดรัดอีก 2 คนในเบาะหลัง แต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ซึ่งเป็นธรรมชาติของรถยนต์ในสไตล์สปอร์ทคูเป อัลฟา โรเมโอ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ในส่วนของห้องผู้ขับ โดยจัดวางมาตรวัดต่างๆ ในมุมที่ผู้ขับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก พวงมาลัยทรงคลาสสิคแบบ 3 ก้าน ขนาดกระชับมือ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานถนัด ระบบกุญแจอีเลคทรอนิค และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมตามสมัยนิยม เบาะนั่งด้านหลังพับลงได้ เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ เครื่องยนต์ เบา แรงพอตัว สำหรับ บเรรา ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.2 ลิตร ระบบฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง วาล์วแปรผันทั้งด้านไอดี และไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.5 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ผ่านระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ซึ่งผู้ผลิตแจ้งตัวเลขความเร็วสูงสุดไว้ที่ 227 กม./ชม. ผลการทดสอบด้วยเครื่องดาทรอน อัตราเร่ง 0-160 กม./ชม. บเรรา ใช้เวลาเพียง 26.4 วินาที ดีกว่า มาซดา เอมเอกซ์-5 เกือบวินาที (27.3) ส่วนระยะ 0-400 ม. และ 0-1,000 ม. "รถขับเล่น" คันนี้ ทำไว้ที่ 17.7 วินาที และ 31.7 วินาที ตามลำดับ เบียดกับ เอมเอกซ์-5 ชนิด "กันชนติดกันชน" (17.1 และ 31.5 วินาที) ส่วน 0-100 กม./ชม. เราจับเวลาได้ 10.8 วินาที ช้ากว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ (8.6) ระบบรองรับ เน้นความนุ่มนวล บเรรา ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ความนุ่มนวลกว่า อัลฟา โรเมโอ รุ่นก่อน ระบบเบรคของ บเรรา นอกจากจะใช้จานหน้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 305 มม. ระบบ เอบีเอส และระบบอีเลคทรอนิคควบคุมการกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแล้ว ยังติดตั้งระบบเพาเวอร์และไฮดรอลิคแบบอิสระ 2 วรจรไขว้ ช่วยให้เบรคมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว นุ่มนวล และยังช่วยย่นระยะเบรคให้สั้นลงอีกด้วย พร้อมทั้งโพรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผลจากการทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. จนหยุดนิ่ง ทำได้ 15.5/27.6/40.4 ม. คิดเป็นแรงจีสูงถึง 0.91/0.91/0.97 จี ตามลำดับ บเรรา ทำได้ดีติดอันดับ 3 ในระดับความเร็ว 100 กม./ชม. สรุป สวยเท่ ขับสบาย รูปลักษณ์สวยงาม ปราดเปรียว ของ บเรรา สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น ภายในห้องโดยสารตกแต่งเอาใจคนขับ จนลืมให้ความสำคัญกับคนที่นั่งคู่ไปด้วย และไม่เหมาะกับการมีผู้ติดตาม แม้ว่าจะมีเบาะนั่งแบบ 2+2 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.2 ลิตร 185 แรงม้า เกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ถึงไม่จัดจ้าน แต่ก็พอสู้สปอร์ทโรดสเตอร์อย่าง มาซดา เอมเอกซ์-5 ได้สบาย เรื่องเบรคยังคงทำได้ดี น่าใช้ ข้อมูลจำเพาะ อัลฟา โรเมโอ บเรรา 2.2 เจทีเอส ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ไทย เพรสทีจ โอโต เซลส์ จำกัด โทร. 0-2941-1480-9 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,413/1,830 /1,372 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,593/1,573 ฐานล้อ (มม.) 2,525 น้ำหนัก (กก.) 1,470 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 70 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 2,198 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 86.0/94.6 อัตราส่วนกำลังอัด 11.3:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 185/6,500 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 23.5/4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์กึ่งอัตโนมัติ (จังหวะ) 6 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ ปีกนก 2 ชั้น ดับเบิลสวิงอาร์ม เหล็กกันโคลง หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และ อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 3,690,000
ภายนอก สปอร์ท ปราดเปรียว
รูปลักษณ์ของ บเรรา สวยงาม ปราดเปรียว และมีความเป็นสปอร์ทมากกว่ารุ่น 2 ประตู เปิดประทุน สไปเดอร์ และ 159 ซีดาน คันเท่
ทั้ง 3 รุ่น มีหน้าตาที่เหมือนกัน โดยยังคงความคลาสสิคของ อัลฟา โรเมโอ ไว้ด้วยกระจังหน้ารูปหัวใจ ไฟหน้าทรงกลมข้างละ 3 ดวง ไม่มีกระจกครอบ แนวเส้นรูปตัว V บนฝากระโปรงหน้าคาดยาวไปจนถึงด้านหลัง แต่ บเรรา ใช้กระจกมองข้างแบบก้านยก คล้ายกับสปอร์ทพันธุ์แท้อย่าง แฟร์รารี
ตัวรถสั้นกระชับกับหลังคาลาดเท โคมไฟท้ายทรงลิ่มรับกับแนวเส้นที่ลากมาบรรจบกับโลโก กระจกหลังดีไซจ์นโฉบเฉี่ยวกว่า จีทีวี (GTV)
ภายใน คลาสสิคร่วมสมัย
บเรรา มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน ในเบาะคู่หน้า และผู้ติดตามหุ่นกะทัดรัดอีก 2 คนในเบาะหลัง แต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ซึ่งเป็นธรรมชาติของรถยนต์ในสไตล์สปอร์ทคูเป
อัลฟา โรเมโอ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ในส่วนของห้องผู้ขับ โดยจัดวางมาตรวัดต่างๆ ในมุมที่ผู้ขับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก พวงมาลัยทรงคลาสสิคแบบ 3 ก้าน ขนาดกระชับมือ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานถนัด ระบบกุญแจอีเลคทรอนิค และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมตามสมัยนิยม เบาะนั่งด้านหลังพับลงได้ เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ
เครื่องยนต์ เบา แรงพอตัว
สำหรับ บเรรา ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.2 ลิตร ระบบฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง วาล์วแปรผันทั้งด้านไอดี และไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.5 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ผ่านระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ซึ่งผู้ผลิตแจ้งตัวเลขความเร็วสูงสุดไว้ที่ 227 กม./ชม.
ผลการทดสอบด้วยเครื่องดาทรอน อัตราเร่ง 0-160 กม./ชม. บเรรา ใช้เวลาเพียง 26.4 วินาที ดีกว่า มาซดา เอมเอกซ์-5 เกือบวินาที (27.3) ส่วนระยะ 0-400 ม. และ 0-1,000 ม. "รถขับเล่น" คันนี้ ทำไว้ที่ 17.7 วินาที และ 31.7 วินาที ตามลำดับ เบียดกับ เอมเอกซ์-5 ชนิด "กันชนติดกันชน" (17.1 และ 31.5 วินาที) ส่วน 0-100 กม./ชม. เราจับเวลาได้ 10.8 วินาที ช้ากว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ (8.6)
ระบบรองรับ เน้นความนุ่มนวล
บเรรา ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ความนุ่มนวลกว่า อัลฟา โรเมโอ รุ่นก่อน
ระบบเบรคของ บเรรา นอกจากจะใช้จานหน้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 305 มม. ระบบ เอบีเอส และระบบอีเลคทรอนิคควบคุมการกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแล้ว ยังติดตั้งระบบเพาเวอร์และไฮดรอลิคแบบอิสระ 2 วรจรไขว้ ช่วยให้เบรคมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว นุ่มนวล และยังช่วยย่นระยะเบรคให้สั้นลงอีกด้วย พร้อมทั้งโพรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผลจากการทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. จนหยุดนิ่ง ทำได้ 15.5/27.6/40.4 ม. คิดเป็นแรงจีสูงถึง 0.91/0.91/0.97 จี ตามลำดับ บเรรา ทำได้ดีติดอันดับ 3 ในระดับความเร็ว 100 กม./ชม.
สรุป สวยเท่ ขับสบาย
รูปลักษณ์สวยงาม ปราดเปรียว ของ บเรรา สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น ภายในห้องโดยสารตกแต่งเอาใจคนขับ จนลืมให้ความสำคัญกับคนที่นั่งคู่ไปด้วย และไม่เหมาะกับการมีผู้ติดตาม แม้ว่าจะมีเบาะนั่งแบบ 2+2 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.2 ลิตร 185 แรงม้า เกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ถึงไม่จัดจ้าน แต่ก็พอสู้สปอร์ทโรดสเตอร์อย่าง มาซดา เอมเอกซ์-5 ได้สบาย เรื่องเบรคยังคงทำได้ดี น่าใช้