ทดลองขับ(formula)
ฮอนดา แอคคอร์ด เทอร์โบ อีแอล
ซีดานหรูรุ่นยอดนิยม เจเนอเรชันล่าสุด กับขุมพลัง DOWNSIZING มีพละกำลังระดับเดียวกับบลอคใหญ่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ฮอนดา แอคคอร์ด เจเนอเรชัน 10 อวดโฉมอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ แต่เพิ่งประกาศราคาจำหน่ายเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา จากนั้นจึงส่งเทียบเชิญเราไปร่วมทดลองขับ
ภายนอก ดีไซจ์นใหม่ เน้นสปอร์ท
ภายนอกใช้เส้นสายปราดเปรียว เฉียบคม เน้นความสปอร์ทพรีเมียม กระจังโครเมียมด้านหน้ายาวเพื่อเชื่อมต่อกับไฟหน้า แอลอีดี เช่นเดียวกับไฟท้าย แอลอีดีรูปทรงตัว “C” โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบากว่าเดิม แต่แข็งแกร่ง ทนทานต่อการหักงอเพิ่มขึ้น โดยตัวรถมีน้ำหนักโดยรวมลดลงจากรุ่นก่อนถึง 56 กก.
ภายใน หรูหรา เงียบสงบ
ภายในห้องโดยสารออกแบบอย่างประณีต และเน้น “เงียบ” เป็นพิเศษ เพราะมีการฉีดโฟมบริเวณหลังคา และเสาประตูติดตั้งไมโครโฟน 3 ตัว สำหรับระบบ ACTIVE NOISE CONTROL (ANC) พร้อมลดเสียงรบกวนจากล้อด้วยการติดตั้งวงแหวนดูดซับเสียงในล้อ
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่ง ส่วนเบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ แต่เป็นการพับแบบ 100 % ไม่มีการแบ่ง
พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันดีไซจ์นใหม่ พร้อมแพดเดิล ชิฟท์ ชุดมาตรวัด และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY รองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง (เฉพาะด้านหน้า) พร้อมระบบความปลอดภัย และความสะดวกสบายมากมาย
เครื่องยนต์ VTEC TURBO รองรับ อี 85
ขุมพลังเป็นแบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร VTEC TURBO จ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ วาล์วแปรผันคู่ อัดอากาศด้วยเทอร์โบควบคุมแรงดันด้วยเวสต์เกทไฟฟ้า ซึ่งเป็นบลอคเดียวกับที่ประจำการใน ซีวิค เทอร์โบ ทุกรุ่น แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีช่วงพละกำลัง และแรงบิดให้เหมาะสมกับขนาดของตัวรถ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุดแบบ “ฟแลท-ทอร์ค” 24.8 กก.-ม. ที่ 1,500-5,500 รตน. รองรับเชื้อเพลิง แกสโซฮอล อี 85 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง ECON NORMAL และ SPORT
ระบบรองรับ นุ่ม แน่น มั่นใจ
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบอิสระ มัลทิลิงค์ พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าประสิทธิภาพการควบคุมและตอบสนองฉับไว หยุดมั่นใจด้วย จานเบรค 4 ล้อ ด้านหน้ามาพร้อมช่องระบายอากาศ พร้อมระบบช่วยเหลือครบครัน ทั้งระบบช่วยการทรงตัว VSA (VEHICLE STABILITY ASSIST), ABS, EBD ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว กับยางขนาด 225/50 R 17
สรุป ขับสนุกเกินคาด
การทดลองขับครั้งนี้ใช้เส้นทางจาก อ. เมือง เชียงใหม่ มุ่งหน้า อ. ดอยสะเก็ด แล้วย้อนกลับทางเดิม ช่วงแรกต้องขับผ่านสภาพการจราจรหนาแน่น จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงไฮเวย์ที่ทำความเร็วได้ การตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังทำงานผสานกันได้ดีมาก คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองฉับไว อัตราทดเฟืองท้ายเหมาะสมกับเพาเวอร์แบนด์ ช่วงความเร็วต่ำมีความกระฉับกระเฉงเหลือเฟือ ช่วงเร่งแซงตอบสนองทันอกทันใจ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รอบสูงเกินความจำเป็น เพราะแรงบิดสูงสุดที่มีให้ใช้ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำยันรอบสูงนั่นเอง
ช่วงเส้นทางเส้นทางคดเคี้ยวขึ้น/ลงเขา ระบบรองรับทำงานได้ดี ทั้งการรับแรงสั่นสะ-เทือนจากพื้นถนน การยึดเกาะที่มีประสิทธิภาพ อาการเอียงของตัวรถเกิดขึ้นน้อย แม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันมีน้ำหนักในการควบคุมเหมาะสม ไม่เบาหรือหนักเกินไป โหมดการขับขี่แต่ละประเภทให้การตอบสนองแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งขุมพลัง ระบบส่งกำลัง พวงมาลัย โดยหน้าจอแสดงผลจะปรับเปลี่ยนตามโหมดที่เลือก ไฮไลท์อยู่ที่โหมดสปอร์ทจะมี “มาตรวัดแรงดันเทอร์โบ” แสดงผลขึ้นมา อยู่ติดกับวัดรอบเครื่องยนต์ พร้อมไฟโทนสีแดงช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ทให้ ผู้ขับได้เป็นอย่างดี