ทดลองขับ(formula)
นิสสัน แตร์รา
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญนิตยสาร "ฟอร์มูลา" ทดลองขับ นิสสัน แตร์รา ใหม่ (THE ALL-NEW NISSAN TERRA) รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เข้ามาแข่งขันในตลาดรถ พีพีวี ที่มีคู่แข่งเจ้าตลาดมากหน้าหลายตา...อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ นิสสัน โดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้ และมาทีหลัง แล้วมีอะไรเป็นทีเด็ด เรามาติดตามกัน !
ภายนอก บึกบึน ตามสไตล์ เอสยูวี
นิสสัน แตร์รา ใหม่ ดีไซจ์นที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึน ตามสไตล์รถ เอสยูวี กระจังหน้าแบบ V-MOTION ไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูเมอแรง เอกลักษณ์เฉพาะของ นิสสัน มาพร้อม LED DAYTIME RUNNING LIGHT ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และมีมิติตัวรถยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 225 มม. มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 255/60 R18 มากพอสำหรับการลุยบนเส้นทางวิบาก
ภายใน กว้างขวาง สะดวกสบายระดับพรีเมียม
แผงคอนโซลหน้ามีขนาดใหญ่ มีการจัดวางอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ ในตำแหน่งที่สะดวก หน้าจออัจฉริยะ แสดงข้อมูลการขับขี่แบบ 3 มิติ เช่น ข้อมูลความดันลมยาง ระบบขับเคลื่อน 4x4 หรืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารออกแบบพิเศษให้ลดเสียงรบกวนจากภายนอก ด้วยกระจกหน้าแบบลดเสียงลมปะทะ และผนังห้องโดยสารบุด้วยวัสดุซับเสียงหนาถึง 3 ชั้น ช่วยให้เสียงของเครื่องยนต์ และเสียงจากพื้นถนนไม่สามารถเข้าสู่ห้องโดยสาร
เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยเบาะคู่หน้าแบบ ZERO GRAVITY ที่นั่งตำแหน่งผู้ขับสามารถปรับได้ตามสรีระร่างกาย เบาะแถวที่ 2 นอกจากจะเข้า/ออกได้ง่ายแล้ว ยังมีระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-TOUCH REMOTE FOLD AND TUMBLE SEATS) ที่สั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ ด้วยการกดปุ่มเดียว
สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถ มีวิทยุพร้อมเครื่องเล่น DVD และ MP3 หน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ USB/HDMI และมีลำโพง 6 จุด คุณสามารถควบคุมระบบเสียงและโทรศัพท์ได้ผ่านพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีจอขนาด 11 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย
เครื่องยนต์ เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า...แรงและประหยัด
นิสสัน แตร์รา ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์วเทอร์โบคู่แปรผัน (VGS) พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ ความจุ 2,298 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รตน. แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รตน. ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคท์อินเจคชัน ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมแมนวลโหมด ที่ช่วยให้ขับขี่ได้สนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในรุ่น 2.3 วีแอล 4WD ยังมีปุ่มปรับเปลี่ยนเกียร์ควบคุมการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ทั้งโหมด 2WD, 4H และ 4LO
ระบบรองรับ เกาะหนึบทุกพื้นผิว
ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบ 5 ลิงค์คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบเบรค ด้านหน้าแบบจาน พร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังแบบดุม
สำหรับระบบความปลอดภัย ใส่มาครบทั้ง ACTIVE SAFETY และ PASSIVE SAFETY เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ทุกตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ในทุกรุ่น ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรคเมื่อล้อลื่นไถล (B-LSD) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และ OFF-ROAD METER แสดงข้อมูลการขับขี่ในโหมดขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงบอกองศาความลาดเอียงของตัวรถ ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ระบบเบรคป้องกันล้อลอค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรค (EBD) และระบบช่วยเบรค (BA) ตลอดจนไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ และระบบเตือนภัยแบบ VSS นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยี NISSAN INTELLIGENT MOBILITY ได้แก่ กระจกมองหลังอัจฉริยะ (IRVM) กล้องมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) มาพร้อมระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (MOD) ระบบเตือนเมื่อวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา (BSW) และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
เราทดลองขับเส้นทางจาก อ. เมืองเชียงราย มุ่งหน้าสู่ดอยแม่สลอง-พระธาตุดอยตุง ผ่านดอยช้างมูบ บ้านผาฮี้ และดอยผาหมี ระยะทางกว่า 120 กม. ต้องผ่านทุกสภาพเส้นทาง ตั้งแต่ทางเรียบบนทางหลวงธรรมดา ทางชัน ขึ้น/ลงดอย โค้งหักศอกที่มีทั้งความชันและแคบ...การตอบสนองของ นิสสัน แตร์รา ทำให้เราขับขี่ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบนทางลาดชันขึ้น/ลงเขาสูง แรงบิดขนาด 45.9 กก.-ม. มากพอที่จะพาน้ำหนักตัวขนาด 2.1 ตันวิ่งไปได้แบบสบายๆ อัตราทดเกียร์ในบางจังหวะ อาจจะห่างไปนิด มีกระตุกเล็กน้อย แต่จังหวะเปลี่ยนเกียร์ยังไว และส่งกำลังต่อเนื่อง ช่วงออกตัวบนทางเรียบ ตีนต้นจะหนืด ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงถึง 2,500-3,000 รตน. ถึงจะทำความเร็วจาก 0-60 กม./ชม. ได้ พอไต่ระดับไปถึง 80-120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์จะต่ำกว่า 2,500 รตน. ทางตรงๆ ยาวๆ เราทำความเร็วได้ถึงระดับ 160 กม./ชม. แต่การควบคุมพวงมาลัยต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร เพราะพวงมาลัยไฟฟ้า มีน้ำหนักเบาและมีรอบฟรีพอสมควร
ความเงียบในห้องโดยสาร ถือว่าเงียบในระดับหนึ่ง สำหรับช่วงล่างให้ความอุ่นใจได้ทั้งบนทางเรียบที่ใช้ความเร็วสูง หรือทางวิบาก ที่ต้องการความสมบุกสมบัน ช่วงล่างเซทนี้ยัง "เอาอยู่"
สิ่งที่ชอบ คือ กระจกมองหลังอัจฉริยะ ครั้งแรกที่ใส่ในรถแบบนี้ เป็นสิ่งใหม่ ที่ต้องอาศัยความคุ้นเคย เราสามารถเปลี่ยนมุมมองของกระจกหลังเป็นแบบปกติ หรือเป็นมุมกล้องจากด้านหลังรถก็สามารถทำได้
โดยรวมแล้ว ถือว่ามีความน่าใช้ ถึงจะมาทีหลัง แต่อัดฟีเจอร์เด็ดๆ มาให้ครบ ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัยที่ไม่น้อยหน้าใคร บรรดาแฟนพันธุ์แท้ของ นิสสัน คงจะตัดสินใจได้ไม่ยาก
ถึงจะมาทีหลัง แต่เขาใส่ฟีเจอร์เด็ดๆ มาเต็มคัน แถมยังหล่อ บึกบึน ทรงพลัง เชื่อเถิดว่า นิสสัน แตร์รา จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่มองหารถใช้งานจริงๆ !