ทดลองขับ(4wheels)
ทดลองขับ Foton Tunland
https://youtu.be/CHuKGnwvwZ8 Foton คือ ค่ายรถสัญชาติจีน ที่ทำตลาดในบ้านเรามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ปัจจุบันเน้นที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถตู้ Columbus ล่าสุดเพิ่มทางเลือกกับกระบะตัวแกร่งอย่าง Tunland เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2016 เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
สัญชาติจีน แต่เทคโนโลยีรวมกันจากหลายชาติชั้นนำ
Foton Tunland รวมเอาเทคโนโลยีจากหลายชาติชั้นนำเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ และระบบเทอร์โบของ Cummins จากประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงเพลาท้ายของ DANA จากประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ระบบเกียร์เป็นของ Getrag ประเทศเยอรมัน ชุดกล่องอีเลคทรอนิค ECU เป็นของยี่ห้อดังอย่าง Bosch โครงสร้างตัวถังเน้นความแข็งแรง มั่นใจในความแกร่งได้จากการรับประกันของผู้ผลิต เป็นเวลาถึง 5 ปี ระยะทาง 200,000 กม.
เครื่องยนต์ : 2.8 ลิตร 163 แรงม้า ไปได้เรื่อยๆ
เครื่องยนต์ของ Tunland เป็นแบบดีเซล เทอร์โบ มีชื่อว่าเรียกระบบการทำงานว่า Cummins เป็นเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 36.7 กก.-ม. ที่ 1,800-3,000 รตน. เกียร์มีทางเลือกเดียว คือ ธรรมดา 5 จังหวะ
การออกตัวในช่วงแรก รถมีอัตราเร่งที่ดี อัตราทดเกียร์ 3 จังหวะแรกค่อนข้างชิด แรงบิดถูกส่งออกมาแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่กระแทกกระทั้น เน้นความนุ่มนวล และต่อเนื่อง แต่ไม่ถึงกับอืดเกินไป การใช้ความเร็วสูงทำได้ดีจนถึงช่วงความเร็ว 120 กม./ชม. หากต้องการจะเร่งแซงควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 เล่นรอบเครื่องยนต์เล็กน้อย จะได้อัตราเร่งแซงที่ทันใจ ส่วนเกียร์ 5 เหมาะสำหรับการขับที่ความเร็วคงที่
นอกจากการขับบนทางหลวงแล้ว ทางผู้จัดยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชน ได้ลองขับบนเส้นทางสมบุกสมบัน พื้นผิวเป็นโคลนเลน บางจุดมีน้ำขัง ทางทีมงานของเรามีโอกาสทดลองขับกับรุ่น Tunland S Premium Double Cab 2WD ในช่วงความเร็วต่ำ เกียร์ 1 และ 2 ตัวรถสามารถเคลื่อนผ่านอุปสรรคได้ไม่ยากเย็น ระยะของแป้นคลัทช์ค่อนข้างลึก ทำให้ง่ายต่อการเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ และขณะเปลี่ยนเกียร์ เรามีความเห็นว่า Tunland มีความโดดเด่นในทางสมบุกสมบัน มากกว่าทางเรียบ บุคลิกของตัวรถเหมาะกับการใช้งานหนัก บนเส้นทางลูกรัง หรือการขึ้น/ลงเนินในเส้นทางภูเขา ภายใต้การขับขี่ที่สะดวกสบาย เบาแรง
ช่วงล่างและการขับขี่ : เน้นความนุ่มนวล ขับสบาย
ถึงเป็นกระบะที่เน้นความแกร่ง แต่ Tunland ถูกปรับแต่งระบบรองรับ และการบังคับควบคุมที่เน้นความนุ่มนวล รวมถึงน้ำหนักของแป้นคลัทช์ ระยะคลัทช์และเบรคค่อนข้างลึก ช่วงความเร็วต่ำพวงมาลัยจะหนักๆ ในช่วงทางเรียบความเร็วสูง ตัวรถมีความมั่นคงในระดับที่น่าพอใจ ไม่มีอาการส่ายร่อนให้สัมผัส แต่พวงมาลัยมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วสามารถขับขี่ได้สบายสำหรับการเดินทางไกล
นอกจากทางเรียบแล้ว ผู้จัดยังพาบรรดาสื่อมวลชนไปทดสอบสมรรถนะในเส้นทางลุย เส้นทางสั้นๆ แต่พื้นถนนเป็นโคลนเลน ผสมหิน และทางขรุขระ เรามีโอกาสทดลองขับช่วงนี้กับรถเพียงรุ่นเดียว นั่นคือ Tunland S Premium Double Cab 2WD ถึงจะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่พละกำลังที่เหมาะสมของตัวรถ และการส่งกำลังก็ทำให้ผ่านอุปสรรคในสถานีทดสอบได้ไม่ยากเย็น แม้พวงมาลัยจะน้ำหนักเบา แต่ยังควบคุมทิศทางได้ดี การลงเนินได้ระบบหน่วงความเร็วมาเสริมทำให้ใช้ความเร็วขณะลงเนินได้คงที่
ภายนอก: เส้นสายบึกบึน ทันสมัย
Foton Tunland มีความยาว 5,310 มม. ระยะฐานล้อ 3,105 มม. และความสูงจากพื้นถนนที่ 210 มม. (ในรุ่น Tunland S Double Cab 4WD ส่วนรุ่น Tunland S Premium Double Cab 2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง จะมีความสูงจากพื้นถนนที่ 200 มม.) เทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux Revo มีมิติตัวถังที่ 5,290/3,085/217 มม. ตามลำดับ ถือว่ากระบะหน้าใหม่อย่าง Foton Tunland มีขนาดตัวใกล้เคียงกัน ในขณะที่เส้นสายโดยรวมถือว่าออกแบบได้ลงตัว มีความบึกบึน โดยเฉพาะโป่งซุ้มล้อที่ถูกเสริมด้วยชุดแต่ง เส้นสายมีความทันสมัยสมเป็นกระบะยุคใหม่ ด้านหน้าเป็นกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ พร้อมโลโกของ Foton ในทริพทดลองขับครั้งนี้มีทางเลือก 2 รุ่น คือ Tunland S Double Cab 4WD และ Tunland S Premium Double Cab 2WD ใช้ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว ยาง Maxxis Bravo 770 H/T ขนาด 265/65 R17 แต่ในเมื่อตัวรถเน้นงานหนัก และการลุยแบบนี้ หากหันมาใช้ยางแบบ A/T อาจเหมาะกับการใช้งานมากกว่า
ภายใน : ลงตัวเกินคาด กว้างขวางดี
Tunland มีห้องโดยสารที่ถูกออกแบบได้ลงตัวเกินคาด รุ่น Tunland S Premium Double Cab 2WD ตกแต่งปุ่มใช้งานต่างๆ เป็นวัสดุสีเงินแวววาว บางจุดใช้วัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์ ปุ่มใช้งานดูแข็งแรงดี คอนโซลหน้า และแผงข้างประตูเป็นวัสดุขึ้นรูป เบาะ และพวงมาลัยเป็นวัสดุหุ้มหนัง ผสมวัสดุสังเคราะห์ แผงหน้าปัดสีฟ้า แยก 2 วง ตรงกลางเป็นจอดิจิทอลดูทันสมัย แต่พวงมาลัยรูปทรงเรียบง่ายไปหน่อย แม้จะติดตั้งปุ่มมัลทิฟังค์ชัน และปุ่มใช้งานระบบครูสคอนทโรลก็ตาม แอร์อัตโนมัติ ถือว่าน่าพอใจสำหรับกระบะราคา 7-8 แสนบาท เบาะผู้ขับปรับความสูงได้ ไม่มีปัญหาเรื่องทัศนวิสัย คอนโซลกลางติดตั้งจอภาพระบบสัมผัส มีปุ่มใช้งานทำมุมเฉียงในแนวนอน ในแง่ของความกว้างขวาง Foton Tunland นั่งได้สบายทั้งตำแหน่งผู้ขับ ด้านข้างผู้ขับ และเบาะด้านหลัง ทำได้ดีใกล้เคียงกับกระบะที่ทำตลาดในบ้านเรา
รุ่นย่อยและราคาของ Foton Tunland
Tunland S Double Cab 4WD : 826,000 บาท
Tunland Double Cab High Premium 2WD : 759,900 บาท
Tunland Double Cab High Standard 2WD : 729,000 บาท
Tunland Double Cab Standard 2WD : 681,700 บาท
Tunland Single Cab Standard Flat Bed : 514,900 บาท
(หมายเหตุ : รุ่น Tunland S Double Cab 4WD / Tunland Double Cab High Premium 2WD / Tunland Double Cab High Standard 2WD ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.8 ลิตร 163 แรงม้า ขณะที่รุ่น Tunland Double Cab Standard 2WD / Tunland Single Cab Standard Flat Bed ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.8 ลิตร 116 แรงม้า)
สรุป : ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับกระบะเน้นงานหนัก
รุ่นที่ได้ทดลองขับในครั้งนี้มี 2 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ Tunland S Premium Double Cab 2WD ราคา 759,900 บาท และรุ่นทอพ Tunland S Double Cab 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 826,200 บาท ราคาถือว่าเทียบเท่ากับกระบะรุ่นพื้นฐานของตัวถังขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง และรุ่นเกียร์ธรรมดาของกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อของค่ายอื่นๆ แต่ Tunland จะมีออพชันบางรายการเพิ่มเติมเข้ามา เช่น ระบบครูสคอนทโรล แอร์อัตโนมัติ เครื่องเล่นดีวีดีพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส รวมถึงชุดแต่งรอบคัน และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ถือเป็นทางเลือกใหม่ของคนที่มีงบประมาณในระดับราคาดังกล่าว และต้องการรถกระบะสำหรับใช้งานหนักที่มีออพชันมากกว่า ขับบนทางไกล ซึ่งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะสามารถรองรับได้ดี
ขอขอบคุณ บริษัท โฟตอน ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับการทดลองขับ