ทดลองขับ(formula)
มาซดา ทรีบิวท์ 2.3
เริ่มแรก มาซดา นำเข้ารถรุ่น ทรีบิวท์ จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร จากนั้นในช่วงต้นปีนี้ได้เพิ่มตัวเลือกโดยติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ รหัส เอมเซดอาร์ 2.3 ลิตร ซึ่งคิดค้นโดยวิศวกรของ มาซดา ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันรวมทั้งการท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดได้อย่างลงตัว เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงและความอเนกประสงค์เป็นจุดขาย ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 1,209,000 บาท ต่ำกว่ารุ่น 3.0 ลิตร ประมาณ 1.3 แสนบาทเริ่มแรก มาซดา นำเข้ารถรุ่น ทรีบิวท์ จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร จากนั้นในช่วงต้นปีนี้ได้เพิ่มตัวเลือกโดยติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ รหัส เอมเซดอาร์ 2.3 ลิตร ซึ่งคิดค้นโดยวิศวกรของ มาซดา ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันรวมทั้งการท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดได้อย่างลงตัว เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงและความอเนกประสงค์เป็นจุดขาย ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 1,209,000 บาท ต่ำกว่ารุ่น 3.0 ลิตร ประมาณ 1.3 แสนบาท ภายนอก หวาน ทันสมัย รูปลักษณ์ภายนอกของ ทรีบิวท์ รุ่น 2.3 แตกต่างจากรุ่น 3.0 ลิตร เพียงเล็กน้อยมีการปรับโฉมเพิ่ม ความแตกต่างแปลกตาในบางส่วน กระจังหน้าแบบ 5 เหลี่ยม เพิ่มความสปอร์ทและบึกบึน กันชนหน้าขนาดใหญ่ฝังไฟตัดหมอกไว้ที่ด้านล่าง ชุดไฟหน้าสีขาวใสแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ส่วนไฟท้ายแบบคริสตัลใหม่ แลดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย สีสันตกแต่งแบบทูโทน แผงกันกระแทกด้านข้าง คิ้วขนาดใหญ่เหนือซุ้มล้อ บนหลังคาติดตั้งแรคบรรทุกสัมภาระมาให้พร้อม ในรุ่นทอพเบาะหนังแท้ ซันรูฟไฟฟ้า และสัญญาณกะระยะถอยหลัง ติดตั้งมาให้ด้วยโดยตั้งราคาสูง กว่ารุ่นปกติ 90,000 บาท ล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/70/16ที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดีแฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล ภายใน กว้าง โปร่งสบาย มาซดา ออกแบบให้ภายในห้องโดยสารสามารถใช้สอยพื้นที่ได้มากเป็นพิเศษ กว้างขวางนั่งสบาย มีที่เก็บของตามจุดต่างๆ มาให้อย่างเหลือเฟือ สมกับเป็นรถใช้งานแบบอเนกประสงค์ ถุงลมนิรภัย ติดตั้งมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ในรุ่นสูงสุดเบาะนั่งบุด้วยหนังแท้แผงหน้าปัดและคอนโซล กลางสีเงินทันสมัย จัดวางตำแหน่งของปุ่มสวิทช์ต่างๆ สะดวกต่อการใช้งาน พวงมาลัยมีขนาดเล็กลง และเปลี่ยนมาเป็นแบบ 3 ก้าน เหมือนกับที่ติดตั้งอยู่ใน มาซดา 6 เพิ่มความสปอร์ทและคล่องตัวในการบังคับรถ โดยมีสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่ประกอบด้วยวิทยุ/เทป ซีดี 6 แผ่น ติดตั้งอยู่ที่ก้านพวงมาลัย คันเกียร์อยู่ที่คอพวงมาลัยเพื่อเพิ่มเนื้อที่ในการใช้งานช่วงคอนโซลกลาง ในรุ่นนี้ระบบเครื่องปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ เครื่องยนต์ กำลังพอตัว ประหยัดขึ้น ทรีบิวท์ 2.3 ลิตร ใช้เครื่องยนต์รหัส เอมเซดอาร์ 4 สูบ 16 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ให้กำลัง 144 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ส่วนแรงบิดสูงสุดทำได้ 20.1 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ทาง มาซดาอ้างว่าเครื่องยนต์รหัสนี้มีเสียงเงียบกว่ารุ่น 2.0 ลิตร ถึง 30 % ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิคเพื่อช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เหมาะสมกับการเหยียบคันเร่ง และตัวแปรต่างๆ ในการขึ้นทางลาดชัน มาซดา พัฒนาระบบ วีไอเอส หรือ (VIS: VARIABLE INERTIA-CHARGING SYSTEM) ที่จะช่วยสร้างแรงบิดสูงสุดทุกรอบความเร็ว และระบบ TSCVS หรือ (TUMBLE SWIRL CONTROL VALVES) ซึ่งติดตั้งไว้ที่ท่อไอดีช่วยเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงและมลพิษต่ำ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบควบคุมตามความต้องการ อาร์บีซี-ออน ดีมานด์ โฟร์วีลดไรฟ หรือ (RBC-ON DEMAND 4 WHEEL DRIVE) ในขณะที่ขับขี่บนสภาพถนนทางเรียบปกติ กำลังส่วนใหญ่จะถูกถ่ายทอดลงสู่ล้อคู่หน้าประมาณ 95 % ล้อหลัง 5 % แต่เมื่อรถเสียความสามารถในการยึดเกาะถนน เช่น สภาพถนนที่เปียกลื่น หรือผิวถนนที่ขรุขระ ระบบ อาร์บีซี จะทำงานโดยอัตโนมัติ โดยส่งกำลังไปยังเพลาล้อหลังเพิ่มขึ้น เพื่อการขับขี่ที่มั่นคง แต่ถ้าหากขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร เช่น บนผิวถนนที่เป็นลูกรัง หรือดินโคลนที่ต้องการแรงฉุดเพิ่มเป็นพิเศษ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มที่หน้าปัดเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4 ล้อ กระจายแรงขับเคลื่อนลงสู่ล้อหน้าและหลัง ในอัตราส่วนที่เท่ากัน 50:50 เพื่อให้สามารถขับขี่ผ่านอุปสรรคไปได้ เราได้ทดลองขับ ทรีบิวท์ 2.3 ลิตร บนเส้นทาง ภูเก็ต-กระบี่-ภูเก็ต ที่สภาพถนนค่อนข้างดี มีโค้งมากมายให้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบรองรับมีช่วงขึ้นเนินเกือบตลอดเส้นทางให้ทดสอบสมรรถนะ และแรงบิด รวมไปถึงการเร่งแซงในช่วงถนน 2 ช่องทางจากการที่ตัวรถมีความสูงจากพื้นค่อนข้างมากทำให้มีทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ มองข้างหน้าได้ไกล และมองวิวข้างทางได้อย่างเต็มตา แถมในรุ่นทอพยังติดตั้งซันรูฟเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและสายลมภายนอกรถด้วย เครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ ให้ความเหมาะสมระหว่างพละกำลังและความประหยัดน้ำมัน แม้ว่าอัตราเร่งที่เป็นรองรุ่น 3.0 ลิตร แต่ได้เปรียบในเรื่องการบริโภคน้ำมัน พละกำลังไม่ถึงกับจัดจ้านแต่ก็เพียงพอต่อการเดินทางไกลในระดับความเร็ว 120-140 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ เครื่องยนต์ และระบบถ่ายทอดกำลังทำงานได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่องเสียงเครื่องยนต์เงียบพอสมควรและจะมีเสียงรบกวนจากลมเข้ามาภายในห้องโดยสารบ้างเนื่องมาจากรูปทรงและความสูงของตัวรถรวมทั้งกระจกมองข้างขนาดใหญ่ซึ่งมีผลต่อการต้านกระแสลมค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถยนต์ประเภทนี้ ระบบรองรับ นุ่มนวล เกาะถนน ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ที่ได้รับการปรับมาอย่างลงตัวการขับขี่ในช่วงความเร็ว 120-150 กม./ชม. ให้การยึดเกาะถนนที่ดี แม้ว่าตัวรถจะค่อนข้างสูงจากพื้นดิน ไม่รู้สึกโยนตัวมากจนเกิดความไม่มั่นคงเหมือนกับที่เคยพบในรถประเภทนี้ การเข้าโค้งที่ความเร็วสูงให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังขับรถเก๋งอยู่ รวมทั้งให้ความนุ่มนวลที่ดี นั่งสบาย เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกล ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าแบบจาน ด้านหลังแบบดุม พร้อมระบบป้องกันล้อลอคตาย และระบบกระจายแรงดันเบรคให้สมดุลกับน้ำหนักที่กดถ่ายลงแต่ละล้อ ระบบเบรคให้ความมั่นใจที่ดี และปลอดภัยสูง สรุป ขับสบาย น่าใช้ สมราคา มาซดา ทรีบิวท์ 2.3 เป็นรถที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาไว้ใช้สักคัน ให้ความสะดวกสบายสูงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี เครื่องยนต์สมรรถนะแรงพอตัวและถือว่าประหยัดพอสมควรทีเดียวสำหรับรถประเภทนี้ การเกาะถนนทำได้ดี ให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับรถเก๋ง ราคาเริ่มต้นที่ ประมาณ 1,209,000 บาท ในรุ่นทอพ 1,299,000 บาท เป็นราคาที่ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์แบบเอสยูวี ข้อมูลจำเพาะ มาซดา ทรีบิวท์ 2.3 ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2661-8181 มิติและน้ำหนัก กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,800/4,395/1,765 ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,540/1,520 ความยาวฐานล้อ (มม.) 2,620 น้ำหนัก (กก.) 1,500 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 61 เครื่องยนต์ ชนิด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 2,261 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 87.5/94 อัตราส่วนกำลังอัด 9.7:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 144/6,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 20.1/4,500 ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 บางเวลา พร้อมสวิทช์ อาร์บีซี ลอคการกระจายแรงล้อหน้า/หลัง แบบ 50:50 ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และอีบีดี หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) รุ่น เอสดีเอกซ์ 1,299,000 รุ่น ดีเอกซ์ 1,209,000
ภายนอก หวาน ทันสมัย
รูปลักษณ์ภายนอกของ ทรีบิวท์ รุ่น 2.3 แตกต่างจากรุ่น 3.0 ลิตร เพียงเล็กน้อยมีการปรับโฉมเพิ่ม ความแตกต่างแปลกตาในบางส่วน กระจังหน้าแบบ 5 เหลี่ยม เพิ่มความสปอร์ทและบึกบึนกันชนหน้าขนาดใหญ่ฝังไฟตัดหมอกไว้ที่ด้านล่าง ชุดไฟหน้าสีขาวใสแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ส่วนไฟท้ายแบบคริสตัลใหม่ แลดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย สีสันตกแต่งแบบทูโทน แผงกันกระแทกด้านข้าง คิ้วขนาดใหญ่เหนือซุ้มล้อ บนหลังคาติดตั้งแรคบรรทุกสัมภาระมาให้พร้อมในรุ่นทอพเบาะหนังแท้ ซันรูฟไฟฟ้า และสัญญาณกะระยะถอยหลัง ติดตั้งมาให้ด้วยโดยตั้งราคาสูง กว่ารุ่นปกติ 90,000 บาท ล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/70/16ที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดีแฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล
ภายใน กว้าง โปร่งสบาย
มาซดา ออกแบบให้ภายในห้องโดยสารสามารถใช้สอยพื้นที่ได้มากเป็นพิเศษ กว้างขวางนั่งสบาย มีที่เก็บของตามจุดต่างๆ มาให้อย่างเหลือเฟือ สมกับเป็นรถใช้งานแบบอเนกประสงค์ ถุงลมนิรภัยติดตั้งมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ในรุ่นสูงสุดเบาะนั่งบุด้วยหนังแท้แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางสีเงินทันสมัย จัดวางตำแหน่งของปุ่มสวิทช์ต่างๆ สะดวกต่อการใช้งาน พวงมาลัยมีขนาดเล็กลงและเปลี่ยนมาเป็นแบบ 3 ก้าน เหมือนกับที่ติดตั้งอยู่ใน มาซดา 6 เพิ่มความสปอร์ทและคล่องตัวในการบังคับรถ โดยมีสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่ประกอบด้วยวิทยุ/เทป ซีดี 6 แผ่น ติดตั้งอยู่ที่ก้านพวงมาลัย คันเกียร์อยู่ที่คอพวงมาลัยเพื่อเพิ่มเนื้อที่ในการใช้งานช่วงคอนโซลกลาง ในรุ่นนี้ระบบเครื่องปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ
เครื่องยนต์ กำลังพอตัว ประหยัดขึ้น
ทรีบิวท์ 2.3 ลิตร ใช้เครื่องยนต์รหัส เอมเซดอาร์ 4 สูบ 16 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ให้กำลัง 144 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ส่วนแรงบิดสูงสุดทำได้ 20.1 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ทางมาซดาอ้างว่าเครื่องยนต์รหัสนี้มีเสียงเงียบกว่ารุ่น 2.0 ลิตร ถึง 30 % ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิคเพื่อช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เหมาะสมกับการเหยียบคันเร่ง และตัวแปรต่างๆ ในการขึ้นทางลาดชัน
มาซดา พัฒนาระบบ วีไอเอส หรือ (VIS: VARIABLE INERTIA-CHARGING SYSTEM) ที่จะช่วยสร้างแรงบิดสูงสุดทุกรอบความเร็ว และระบบ TSCVS หรือ (TUMBLE SWIRL CONTROLVALVES) ซึ่งติดตั้งไว้ที่ท่อไอดีช่วยเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงและมลพิษต่ำ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบควบคุมตามความต้องการ อาร์บีซี-ออน ดีมานด์ โฟร์วีลดไรฟ หรือ (RBC-ON DEMAND 4 WHEEL DRIVE) ในขณะที่ขับขี่บนสภาพถนนทางเรียบปกติ กำลังส่วนใหญ่จะถูกถ่ายทอดลงสู่ล้อคู่หน้าประมาณ 95 % ล้อหลัง 5 % แต่เมื่อรถเสียความสามารถในการยึดเกาะถนน เช่น สภาพถนนที่เปียกลื่น หรือผิวถนนที่ขรุขระ ระบบ อาร์บีซี จะทำงานโดยอัตโนมัติ โดยส่งกำลังไปยังเพลาล้อหลังเพิ่มขึ้น เพื่อการขับขี่ที่มั่นคง แต่ถ้าหากขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร เช่น บนผิวถนนที่เป็นลูกรัง หรือดินโคลนที่ต้องการแรงฉุดเพิ่มเป็นพิเศษ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มที่หน้าปัดเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4 ล้อ กระจายแรงขับเคลื่อนลงสู่ล้อหน้าและหลัง ในอัตราส่วนที่เท่ากัน 50:50 เพื่อให้สามารถขับขี่ผ่านอุปสรรคไปได้
เราได้ทดลองขับ ทรีบิวท์ 2.3 ลิตร บนเส้นทาง ภูเก็ต-กระบี่-ภูเก็ต ที่สภาพถนนค่อนข้างดีมีโค้งมากมายให้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบรองรับมีช่วงขึ้นเนินเกือบตลอดเส้นทางให้ทดสอบสมรรถนะ และแรงบิด รวมไปถึงการเร่งแซงในช่วงถนน 2 ช่องทางจากการที่ตัวรถมีความสูงจากพื้นค่อนข้างมากทำให้มีทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ มองข้างหน้าได้ไกล และมองวิวข้างทางได้อย่างเต็มตา แถมในรุ่นทอพยังติดตั้งซันรูฟเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและสายลมภายนอกรถด้วย เครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ ให้ความเหมาะสมระหว่างพละกำลังและความประหยัดน้ำมัน แม้ว่าอัตราเร่งที่เป็นรองรุ่น 3.0 ลิตร แต่ได้เปรียบในเรื่องการบริโภคน้ำมัน พละกำลังไม่ถึงกับจัดจ้านแต่ก็เพียงพอต่อการเดินทางไกลในระดับความเร็ว 120-140 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ เครื่องยนต์ และระบบถ่ายทอดกำลังทำงานได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่องเสียงเครื่องยนต์เงียบพอสมควรและจะมีเสียงรบกวนจากลมเข้ามาภายในห้องโดยสารบ้างเนื่องมาจากรูปทรงและความสูงของตัวรถรวมทั้งกระจกมองข้างขนาดใหญ่ซึ่งมีผลต่อการต้านกระแสลมค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถยนต์ประเภทนี้
ระบบรองรับ นุ่มนวล เกาะถนน
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ที่ได้รับการปรับมาอย่างลงตัวการขับขี่ในช่วงความเร็ว 120-150 กม./ชม. ให้การยึดเกาะถนนที่ดี แม้ว่าตัวรถจะค่อนข้างสูงจากพื้นดิน ไม่รู้สึกโยนตัวมากจนเกิดความไม่มั่นคงเหมือนกับที่เคยพบในรถประเภทนี้ การเข้าโค้งที่ความเร็วสูงให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังขับรถเก๋งอยู่ รวมทั้งให้ความนุ่มนวลที่ดี นั่งสบาย เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกล ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าแบบจาน ด้านหลังแบบดุม พร้อมระบบป้องกันล้อลอคตาย และระบบกระจายแรงดันเบรคให้สมดุลกับน้ำหนักที่กดถ่ายลงแต่ละล้อ ระบบเบรคให้ความมั่นใจที่ดี และปลอดภัยสูง
สรุป ขับสบาย น่าใช้ สมราคา
มาซดา ทรีบิวท์ 2.3 เป็นรถที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาไว้ใช้สักคัน ให้ความสะดวกสบายสูงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี เครื่องยนต์สมรรถนะแรงพอตัวและถือว่าประหยัดพอสมควรทีเดียวสำหรับรถประเภทนี้ การเกาะถนนทำได้ดี ให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับรถเก๋ง ราคาเริ่มต้นที่ ประมาณ 1,209,000 บาท ในรุ่นทอพ 1,299,000 บาท เป็นราคาที่ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์แบบเอสยูวี