ทดลองขับ(4wheels)
เกีย เค 2700 จัมโบพิคอัพ
เกีย เค 2700 พิคอัพแกร่งสายเลือดเกาหลี ที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1997 ภายใต้รหัสรุ่น TU ตามด้วยสายพันธุ์ที่ 2 ได้รับการออกแบบรูปโฉมและเปิดตัวในเดือนธันวาคม ปี 2000 เป็นที่ยอมรับในตลาดรถพิคอัพทั่วโลกได้ จากนั้นได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงทั้งรูปโฉมและคุณภาพ ภายใต้รหัสรุ่น PU โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ปี 2004 และถูกจัดให้เป็นพิคอัพขนาดใหญ่ ตระกูล K-SERIES ทาง ยนตรกิจเกียมอเตอร์ ฯ นำรถรุ่นนี้มาเปิดตลาดพิคอัพขนาด 1 ตันในประเทศไทย หลังจากนำเข้ารุ่นแรกประสบความสำเร็จในตลาดได้ในระดับหนึ่ง จึงมีการจัดการทดสอบ เกีย เค 2700 จัมโบพิคอัพ ขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดย 4 WHEELS ร่วมทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ด้วยเกีย เค 2700 พิคอัพแกร่งสายเลือดเกาหลี ที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1997 ภายใต้รหัสรุ่น TU ตามด้วยสายพันธุ์ที่ 2 ได้รับการออกแบบรูปโฉมและเปิดตัวในเดือนธันวาคม ปี 2000 เป็นที่ ยอมรับในตลาดรถพิคอัพทั่วโลกได้ จากนั้นได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงทั้งรูปโฉม และคุณภาพ ภายใต้รหัสรุ่น PU โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ปี 2004 และถูกจัด ให้เป็นพิคอัพขนาดใหญ่ ตระกูล K-SERIES ทาง ยนตรกิจเกียมอเตอร์ ฯ นำรถรุ่นนี้มาเปิดตลาดพิคอัพขนาด 1 ตันในประเทศไทย หลังจาก นำเข้ารุ่นแรกประสบความสำเร็จในตลาดได้ในระดับหนึ่ง จึงมีการจัดการทดสอบ เกีย เค 2700 จัมโบพิคอัพ ขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดย 4 WHEELS ร่วมทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ด้วย ภายนอก ใหญ่โต ทันสมัย รูปโฉมภายนอกดูทันสมัยขึ้น ด้วยการปรับปรุงไฟหน้าแนวตั้งแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ ขนาดใหญ่ ให้แสงสว่างยามค่ำคืนได้ดี มีไฟหรี่และไฟเลี้ยวติดตั้งอยู่ในโคมชิ้นเดียวกัน ฝากระโปรงหน้า โค้งมนรับกับแนวกระจกหน้า ช่วยลดค่าแรงเสียดทานอากาศจากเดิม 0.539 เหลือเพียง 0.502 ตรงกลางมีโลโก เกีย ขนาดใหญ่ กันชนหลังขนาดใหญ่รับกับตัวรถและช่องลมที่แบ่งเป็นช่อง ขนาดใหญ่ออกแบบแข็งแกร่ง พร้อมไฟตัดหมอกหน้า กระจกด้านข้างสามารถปรับและพับได้ มือจับประตูออกแบบใหม่แบบแนวตั้งทันสมัยเปิด/ปิดง่าย โป่งซุ้มล้อซ้าย/ขวาขนาดใหญ่ รับกับตัวรถและกระบะท้าย ทรงเหลี่ยมยาว และยกสูงขึ้น ทำให้ภายในกระบะไม่มีซุ้มล้อหลัง สามารถเพิ่มเนื้อที่บรรทุกขึ้นได้เยอะ ส่วนกระบะท้ายออกแบบให้มีความสูงน้อยลง เพื่อช่วยให้ การขนสัมภาระขึ้น/ลงสะดวก ไฟท้ายและไฟเลี้ยวหลังทรงกลมติดตั้งใต้กระบะหลังมองเห็น ชัดเจน พร้อมเสริมคานกันชนด้านหลังให้ดูแข็งแกร่ง กระบะท้ายสามารถเปิดออกได้ทั้ง 3 ด้าน ให้ความสะดวกในการขนย้าย ภายใน ทันสมัย สะดวกสบาย ภายใน เกีย เค 2700 ออกแบบให้ดูหรูหรา น่าขับมากขึ้น ตั้งแต่คอนโซลหน้าขนาดใหญ่ แบบ ชิ้นเดียวกัน เรือนไมล์มองเห็นชัดเจน พร้อมเครื่องหมายแสดงผลครบ มีจอบอกระยะทางแบบ ดิจิทอล พร้อมไฟส่องสว่างแบบแอลอีดี จอแสดงผลแบบวงกลมขนาดใหญ่ 2 วง กรอบภายนอก สีเงิน คอนโซลกลางติดตั้งชุดควบคุมระบบปรับอากาศทรงกลมดูทันสมัยใช้งานสะดวก นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องเสียงแบบวิทยุ/เทป พร้อมที่เขี่ยบุหรี่ ที่จุดบุหรี่ และช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ มากมาย พวงมาลัยแบบ 3 ก้านทรงสปอร์ท ผลิตจากโพลียูรีเธน ส่วนเบาะนั่งตรงกลางสามารถ พับปรับเป็นถาดวางของ พร้อมช่องใส่แก้ว 2 ชุด กระจกหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ เบาะนั่งลายผ้า ใช้แบบเดียวกับแผงข้างประตู เมื่อขึ้นไปขับ จะรู้ถึงข้อดีของห้องโดยสาร เค 2700 นอกจากออกแบบให้ดูทันสมัย ด้วยวัสดุที่ แข็งแกร่งทนทาน พร้อมระบบปรับอากาศที่เย็นสบายทั้งคัน รวมทั้งระบบการเก็บเสียงใน ห้องโดยสารทำได้ดี เครื่องยนต์ แข็งแกร่ง ทนทาน เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.7 ลิตร รหัส J2 ที่ออกแบบให้มีเสียงรบกวนน้อยลง เครื่องยนต์เดินเรียบ ประหยัดน้ำมัน ให้แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 4,150 รตน. แรงบิด 17.5 กก.-ม. ที่ 2,400 รตน. ระบบวาล์วเหนือฝาสูบ 8 วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด (VE) ทดลองขับ สภาพรถใช้บรรทุกทราย เต็มกระบะหลังน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ใช้งานตามปกติ เส้นทางในเขตจังหวัดกาญจนบุรี สามารถรู้ถึงกำลังเครื่องยนต์ที่เซทมาให้อย่างเหมาะสม อัตราเร่งขณะบรรทุกทำได้ดี ขณะขึ้นทางชันต้องเปลี่ยนเกียร์ช่วยโดยทดลงมาเกียร์ต่ำ เพื่อให้ รถมีแรงเพิ่มขึ้นสามารถขับผ่านไปบนเส้นทางชันได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนอัตราเร่งต่อเนื่อง ขณะรถบรรทุกหนักก็ทำได้ตามสไตล์ของรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ ที่ไม่ต้องเน้นความเร็วสูง มากนัก ความเร็วสูงสุดประมาณ 130 กม./ชม. ระบบรองรับ แน่นหนึบ แม้บรรทุกหนัก ระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนก และทอร์ชันบาร์ เสริมด้วยกันสะบัดข้างและเหล็กกันโคลง พร้อมชอคอับแกส ด้านหลังเป็นแหนบ พร้อมชอคอับแกส ที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น จากเดิม 180 ซีซี เป็น 260 ซีซี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น ส่วนระบบเบรคเป็นแบบจาน แบบมีช่องระบายความร้อน ช่วยให้มีระยะเบรคที่สั้นขึ้นกว่าเดิม พร้อมติดตั้งระบบเบรค LSPV (LOAD SENSING PROPORTION VALVE) วาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรคล้อหลัง เพื่อการควบคุม รถที่ดีขณะบรรทุก หลังจากขับทดสอบทุกสภาพถนนแล้ว การเซทระบบรองรับ ของ เค 2700 ใหม่ ทำได้ดีมาก ขณะที่รถมีการบรรทุกหนัก ระบบรองรับให้ตัวดี ไม่มีอาการโยนตัวของรถจนน่ากลัว เลี้ยวเข้าโค้ง ควบคุมพวงมาลัยได้อย่างมั่นใจ ในทางทุรกันดารยังควบคุมพวงมาลัยได้ดี การให้ตัวของชอคอับ และแหนบค่อนข้างนุ่มหนึบ เกาะถนน สรุป รถพิคอัพ เกีย เค 2700 ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานได้ลงตัวมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้งานด้วยพื้นที่บรรทุกที่กว้างขวาง หน้าตาทันสมัย ภายในดูดี ประสิทธิภาพของ ระบบรองรับและเบรคเซทมาได้ดี ขับได้มั่นใจ เทียบกับราคาขาย 569,000 บาท น่าจะสามารถ ดึงดูดใจลูกค้าที่ต้องการใช้งานเพื่อการพาณิชย์ และใช้งานบรรทุกได้ไม่น้อย ข้อมูลจำเพาะ เกีย เค 2700 ใหม่ ตัวแทนจำหน่าย บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด โทร. 0-2611-6888 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,820/1,740/1,975 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,490/1,460 ฐานล้อ (มม.) 2,415 น้ำหนักรถ (กก.) 1,570 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 60 เครื่องยนต์ แบบ ดีเซล 4 สูบเรียง OHV ความจุ (ซีซี) 2,665 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 94.5/95.0 อัตราส่วนกำลังอัด 21.5 :1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 83/4,150 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 17.5/2,400 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ปั๊มหัวฉีดแบบจานจ่าย ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ธรรมดา (จังหวะ) 5 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง ระบบรองรับ หน้า อิสระ ปีกนกสองชั้น ทอร์ชันบาร์ ชอคอับแกส พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ แหนบ คานแข็ง ชอคอับแกส พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 569,000
ภายนอก ใหญ่โต ทันสมัย
รูปโฉมภายนอกดูทันสมัยขึ้น ด้วยการปรับปรุงไฟหน้าแนวตั้งแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ ขนาดใหญ่ให้แสงสว่างยามค่ำคืนได้ดี มีไฟหรี่และไฟเลี้ยวติดตั้งอยู่ในโคมชิ้นเดียวกัน ฝากระโปรงหน้าโค้งมนรับกับแนวกระจกหน้า ช่วยลดค่าแรงเสียดทานอากาศจากเดิม 0.539 เหลือเพียง 0.502 ตรงกลางมีโลโก เกีย ขนาดใหญ่ กันชนหลังขนาดใหญ่รับกับตัวรถและช่องลมที่แบ่งเป็นช่องขนาดใหญ่ออกแบบแข็งแกร่ง พร้อมไฟตัดหมอกหน้า กระจกด้านข้างสามารถปรับและพับได้มือจับประตูออกแบบใหม่แบบแนวตั้งทันสมัยเปิด/ปิดง่าย โป่งซุ้มล้อซ้าย/ขวาขนาดใหญ่รับกับตัวรถและกระบะท้าย ทรงเหลี่ยมยาว และยกสูงขึ้น ทำให้ภายในกระบะไม่มีซุ้มล้อหลังสามารถเพิ่มเนื้อที่บรรทุกขึ้นได้เยอะ ส่วนกระบะท้ายออกแบบให้มีความสูงน้อยลง เพื่อช่วยให้การขนสัมภาระขึ้น/ลงสะดวก ไฟท้ายและไฟเลี้ยวหลังทรงกลมติดตั้งใต้กระบะหลังมองเห็นชัดเจน พร้อมเสริมคานกันชนด้านหลังให้ดูแข็งแกร่ง กระบะท้ายสามารถเปิดออกได้ทั้ง 3 ด้านให้ความสะดวกในการขนย้าย
ภายใน ทันสมัย สะดวกสบาย
ภายใน เกีย เค 2700 ออกแบบให้ดูหรูหรา น่าขับมากขึ้น ตั้งแต่คอนโซลหน้าขนาดใหญ่ แบบชิ้นเดียวกัน เรือนไมล์มองเห็นชัดเจน พร้อมเครื่องหมายแสดงผลครบ มีจอบอกระยะทางแบบดิจิทอล พร้อมไฟส่องสว่างแบบแอลอีดี จอแสดงผลแบบวงกลมขนาดใหญ่ 2 วง กรอบภายนอกสีเงิน คอนโซลกลางติดตั้งชุดควบคุมระบบปรับอากาศทรงกลมดูทันสมัยใช้งานสะดวก นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องเสียงแบบวิทยุ/เทป พร้อมที่เขี่ยบุหรี่ ที่จุดบุหรี่ และช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆมากมาย พวงมาลัยแบบ 3 ก้านทรงสปอร์ท ผลิตจากโพลียูรีเธน ส่วนเบาะนั่งตรงกลางสามารถพับปรับเป็นถาดวางของ พร้อมช่องใส่แก้ว 2 ชุด กระจกหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่เบาะนั่งลายผ้า ใช้แบบเดียวกับแผงข้างประตู
เมื่อขึ้นไปขับ จะรู้ถึงข้อดีของห้องโดยสาร เค 2700 นอกจากออกแบบให้ดูทันสมัย ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน พร้อมระบบปรับอากาศที่เย็นสบายทั้งคัน รวมทั้งระบบการเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดี
เครื่องยนต์ แข็งแกร่ง ทนทาน
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.7 ลิตร รหัส J2 ที่ออกแบบให้มีเสียงรบกวนน้อยลง เครื่องยนต์เดินเรียบประหยัดน้ำมัน ให้แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 4,150 รตน. แรงบิด 17.5 กก.-ม. ที่ 2,400 รตน. ระบบวาล์วเหนือฝาสูบ 8 วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด (VE)
ทดลองขับ สภาพรถใช้บรรทุกทราย เต็มกระบะหลังน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ใช้งานตามปกติเส้นทางในเขตจังหวัดกาญจนบุรี สามารถรู้ถึงกำลังเครื่องยนต์ที่เซทมาให้อย่างเหมาะสมอัตราเร่งขณะบรรทุกทำได้ดี ขณะขึ้นทางชันต้องเปลี่ยนเกียร์ช่วยโดยทดลงมาเกียร์ต่ำ เพื่อให้รถมีแรงเพิ่มขึ้นสามารถขับผ่านไปบนเส้นทางชันได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนอัตราเร่งต่อเนื่องขณะรถบรรทุกหนักก็ทำได้ตามสไตล์ของรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ ที่ไม่ต้องเน้นความเร็วสูงมากนัก ความเร็วสูงสุดประมาณ 130 กม./ชม.
ระบบรองรับ แน่นหนึบ แม้บรรทุกหนัก
ระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนก และทอร์ชันบาร์ เสริมด้วยกันสะบัดข้างและเหล็กกันโคลงพร้อมชอคอับแกส ด้านหลังเป็นแหนบ พร้อมชอคอับแกส ที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น จากเดิม 180 ซีซีเป็น 260 ซีซี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น ส่วนระบบเบรคเป็นแบบจานแบบมีช่องระบายความร้อน ช่วยให้มีระยะเบรคที่สั้นขึ้นกว่าเดิม พร้อมติดตั้งระบบเบรค LSPV (LOAD SENSING PROPORTION VALVE) วาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรคล้อหลัง เพื่อการควบคุม
รถที่ดีขณะบรรทุก
หลังจากขับทดสอบทุกสภาพถนนแล้ว การเซทระบบรองรับ ของ เค 2700 ใหม่ ทำได้ดีมากขณะที่รถมีการบรรทุกหนัก ระบบรองรับให้ตัวดี ไม่มีอาการโยนตัวของรถจนน่ากลัว เลี้ยวเข้าโค้งควบคุมพวงมาลัยได้อย่างมั่นใจ ในทางทุรกันดารยังควบคุมพวงมาลัยได้ดี การให้ตัวของชอคอับและแหนบค่อนข้างนุ่มหนึบ เกาะถนน
สรุป
รถพิคอัพ เกีย เค 2700 ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานได้ลงตัวมากขึ้นเหมาะสำหรับใช้งานด้วยพื้นที่บรรทุกที่กว้างขวาง หน้าตาทันสมัย ภายในดูดี ประสิทธิภาพของระบบรองรับและเบรคเซทมาได้ดี ขับได้มั่นใจ เทียบกับราคาขาย 569,000 บาท น่าจะสามารถดึงดูดใจลูกค้าที่ต้องการใช้งานเพื่อการพาณิชย์ และใช้งานบรรทุกได้ไม่น้อย