ทดลองขับ(formula)
ซูบารุ เอาท์แบค 2.5
ซูบารุ เอาท์แบค (SUBARU OUTBACK) ใหม่ เป็นรถยนต์ในสไตล์ "ครอสสโอเวอร์" (CROSSOVER) โดยแนวคิดนี้ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายแบบรถยนต์นั่งตรวจการณ์บวกกับความสามารถขับเคลื่อนไปได้ในทุกที่ของรถเอสยูวี ไว้ด้วยกัน หรือที่เรียกว่ารถตรวจการณ์อเนกประสงค์ (SUW: SPORT UTILITY WAGON)ซูบารุ ได้ใช้ประสบการณ์อันยาวนานกว่า 10 ปี จากสนามแข่งระดับโลกอย่าง WRC (WORLD RALLY CHAMPIONSHIP) ในการคิดค้นและพัฒนา ซูบารุ เอาท์แบค 2.5 รถสปอร์ทแวกอน สำหรับครอบครัว ที่อัดแน่นด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและขุมพลัง ที่ตอบสนองได้ทุกการขับขี่ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SYMMETRICAL AWD บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ ซูบารุ ใน ประเทศไทย ได้จัดการทดสอบ เอาท์แบค ขึ้น ซึ่ง 4 WHEELS มีโอกาสร่วมทดสอบ และสัมผัสสมรรถนะของรถรุ่นนี้ด้วย ภายนอก โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ท ซูบารุ เอาท์แบค สะท้อนแนวคิดการออกแบบรถครอสส์โอเวอร์ ที่ผสมผสานความเป็น รถยนต์นั่งตรวจการณ์ และยานยนต์อเนกประสงค์เอาไว้ ภายนอกดูแข็งแกร่ง ฐานล้อกว้าง ช่วงล้อหน้า/หลังยาว ใต้ท้องรถสูง ไฟหน้าคล้ายตาเหยี่ยว มีไฟเลี้ยวและไฟหรี่ในโคมเดียวกัน กระจังหน้ารับลมทรงรีแนวขวาง ตรงกลางมีโลโกของ ซูบารุ ฝากระโปรงมีแนวเส้นนูนสัน ดูแข็งแรง รับกับแนวกันชนล่างขนาดใหญ่ ที่ฝังสปอทไลท์ตัดหมอกทรงกลม หลอดแอลอีดี และด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ ซูบารุ เอาท์แบค มีทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม มองเห็นได้ชัดรอบคัน กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวไว้ด้านหลังมองเห็นชัดเจน ท้ายรถ ออกแบบไฟท้ายให้ดูดุดันและแข็งแกร่ง ภายใน หรูหรา ล้ำสมัย ภายในของ ซูบารุ เอาท์แบค สามารถจุสัมภาระได้มากถึง 1,649 ลิตร หรูหราด้วยเบาะนั่ง หนังแท้สีดำ ที่นั่งฝั่งคนขับสามารถปรับและควบคุมด้วยไฟฟ้า แผงคอนโซลกลาง และแผง ข้างประตูตกแต่งด้วยเส้นสายและลวดลายของอลูมิเนียม ดูหรูหราและเพิ่มความเป็นสปอร์ท กระจกซันรูฟขนาดใหญ่ ทรงยาว ควบคุมด้วยไฟฟ้า เรือนไมล์และมาตรวัดทรงกลมมีกรอบ โครเมียมตัด พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมครูสคอนทโรล เครื่องเสียงแบบ 2 DIN เล่นซีดีได้ 6 แผ่น ดูทันสมัย ติดตั้งเป็นชุดเดียวกับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมคันเกียร์แบบขั้นบันได เมื่อเข้าไปนั่งใน เอาท์แบค จะรู้สึกถึงความเป็นสปอร์ทแวกอนเต็มตัว ภายในห้องโดยสาร โอ่โถงและกว้างขวาง ทัศนวิสัยการมองเห็นดี นอกจากนี้การเก็บเสียงในห้องโดยสาร ค่อนข้างเงียบ การตกแต่งภายในทำได้ลงตัวมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เครื่องยนต์ ขับสนุก อัตราเร่งดี เครื่องยนต์พัฒนาใหม่ รหัส H4 ขนาด 2.5 ลิตร แบบเบนซิน 4 สูบนอน (BOXER) 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 16 วาล์ว เพลาราวลิ้นเหนือฝาสูบ SOHC เสื้อสูบและฝาสูบ ผลิต จากอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบา มีปริมาตรความจุกระบอกสูบ 2,457 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. นอกจากนี้ยังออกแบบ ชุดกรองอากาศให้เล็กและลดระดับความสูง ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของแกสไอดี และลด เสียงการทำงานเครื่องยนต์ ส่วนท่อไอเสียเป็นท่อสูตรแบบ 4-2-1 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวเท่ากัน เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 4 จังหวะ ควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิค พร้อมโหมดเกียร์ SPORTSHIFT ตำแหน่ง "บวก-ลบ" สามารถเลือกการขับขี่ในแบบเกียร์ธรรมดา ได้อารมณ์ การขับขี่แบบรถสปอร์ท เกียร์ในรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดย PRODRIVE มีน้ำหนักเบาลง กว่าเดิมถึง 3 กิโลกรัม พร้อมระบบคลัทช์ ที่ปรับองศาใบพัดในกระเปาะน้ำมันไฮดรอลิค ช่วยให้การไหลเวียนของน้ำมันเกียร์รวดเร็ว อัตราเร่งแซงดี รวดเร็ว ลดการสึกหรอ หลังจากได้ลองขับในเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ จะเห็นได้ว่าอัตราเร่งของเครื่องยนต์รุ่นนี้ ได้ค่อนข้างดี ถึงแม้จะไม่หวือหวาเท่ากับรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์บอกเซอร์ เทอร์โบ แต่ถ้าเทียบ กับรถที่ไม่มีเทอร์โบด้วยกันแล้ว เครื่องยนต์รุ่นนี้จะได้ความเป็นสปอร์ทมากกกว่า อัตราเร่ง ต่อเนื่องทำได้ดี รวดเร็ว และยังมีโหมดการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดาให้เลือกใช้ การเปลี่ยนเกียร์ ทำได้นุ่มนวล ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น ขับสนุกเร่งแซงได้ดังใจ แม้ไม่มีเทอร์โบมาช่วย ระบบรองรับ แน่นหนึบ ลุยมัน ระบบรองรับในรุ่นนี้เป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และ ชอคอับทรงกระบอก ด้านหลังมัลทิลิงค์ คอยล์สปริง ชอคอับทรงกระบอก เซทไว้แบบนุ่ม/หนึบ แฝงด้วยอารมณ์สปอร์ท และเหมาะสำหรับการใช้งานได้ทุกสภาพถนน ทั้งในเมืองและ นอกเมือง ระบบเบรคหน้า/หลัง แบบจาน มีช่องระบายความร้อน พร้อมระบบป้องกันล้อลอค (เอบีเอส) และระบบอีเลคทรอนิคควบคุมการกระจายแรงดันน้ำมันเบรค (อีบีดี) กับ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางเรเดียล 215/60 R16 เมื่อลองขับแล้วจะรู้สึกถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีประสิทธิภาพสูง กระจายแรง ขับเคลื่อนสู่ล้อทั้ง 4 ได้เท่าๆ กัน ช่วยให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้อย่างมั่นใจ ทั้งในทางลูกรัง และทางทุรกันดาร การเข้าโค้งทำได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบรองรับที่เซทมาดี ทั้งในทางหลุมบ่อทุรกันดาร และทางปกติ รู้สึกถึงความนุ่มหนึบ การให้ตัวของช่วงล่างทำได้ดี และเร็ว ช่วงยืด/ยุบของชอคอับดี ไม่มีอาการโยนตัวให้เห็น ควบคุมพวงมาลัยง่าย สรุป ซูบารุ เอาท์แบค 2.5 เป็นรถสปอร์ทแวกอน ขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ได้รับการปรับปรุงเครื่องยนต์ เป็นขนาด 2.5 ลิตร แทนรุ่นเดิม 3.0 ลิตร จึงน่าจะสร้างความเชื่อมั่นและครองใจลูกค้า ที่ต้องการรถสปอร์ทแวกอน เครื่องยนต์ไม่ใหญ่เกินตัวได้ ด้วยราคา 2,699,000 บาท ข้อมูลจำเพาะ ซูบารุ เอาท์แบค ผู้ผลิต และจำหน่าย บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2718-2200-9 ราคารถ (บาท) 2,699,000 มิติและน้ำหนัก กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,770/4,730/1,545 ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,495/1,485 ความยาวฐานล้อ (มม.) 2,670 น้ำหนัก (กก.) ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 64 เครื่องยนต์ ชนิด H4 SOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 2,457 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 165/5,600 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 23.0/4,400 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์ ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ตลอดเวลา ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และอีบีดี หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง จาน
ภายนอก เหมือน เลกาซี แต่สูงกว่า
ซูบารุ เอาท์แบค หรือ เลกาซี แวกอน ครอสส์คันทรี ตัวใหม่ มีการปรับเปลี่ยนกันชนหน้า/หลัง ใส่สปอทไลท์ และเพิ่มเส้นสันบนฝากระโปรง ขอบล้อกับแผงกันกระแทกด้านข้าง และยกตัวรถให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อเตรียมลุย ทำให้รถแวกอนหรูอย่าง เลกาซี มีมาดเข้ม และดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง
รูปลักษณ์โดยรวมของ เอาท์แบค นั้น นับว่าสวยงาม ลงตัว ไม่ว่าจะมองดูจากมุมมองด้านหน้า/ข้าง และด้านหลัง ไฟหน้าที่ผสมผสานเลนส์แบบโพรเจคเตอร์ทรงกลมเข้ากันกับโคมไฟเรียวยาว ในขณะที่แนวเส้นเฉียบคมเรียบหรู ไฟท้ายแบบ แอลอีดี ขนาดใหญ่ และไฟเลี้ยวใต้กระจกมองข้างดูทันสมัย
ภายใน ซันรูฟใหญ่ โปร่ง สบายตา
เบาะนั่งบุด้วยหนังแท้สีดำ แผงคอนโซลกลาง และแผงข้างประตูตกแต่งด้วยอลูมิเนียม ดูเป็นรถสปอร์ทหรู และที่แตกต่างไม่ซ้ำแบบใคร คือกระจกซันรูฟทรงยาว ขนาดใหญ่ ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่ง สบายตา
เรือนไมล์ และมาตรวัดทรงกลมมีกรอบโครเมียม พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมครูสคอนทโรล เครื่องเสียงแบบ 2 DIN เล่นซีดีได้ 6 แผ่น ติดตั้งเป็นชุดเดียวกับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมคันเกียร์แบบขั้นบันได ดูสวย ทันสมัย นอกจากนี้การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ
เครื่องยนต์ แรงดี แม้ไม่มีเทอร์โบ
เครื่องยนต์เบนซินรหัส H4 ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบนอน 16 วาล์ว ไม่มีเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. และใช้ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติเดินหน้า 4 จังหวะ ควบคุมการทำงานโดยอีเลคทรอนิค พร้อมโหมดเกียร์แบบสปอร์ท ที่มีโหมดเกียร์ธรรมดา เลือกตำแหน่ง "บวก/ลบ" ช่วยเติมสีสันให้ขับสนุก
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9 วินาที นับว่าค่อนข้างดี ถึงแม้จะไม่หวือหวาเท่ากับรุ่นที่มีเทอร์โบ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้นุ่มนวล ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น ขับสนุกเร่งแซงได้ดั่งใจ
ระบบรองรับ แน่นหนึบ ลุยมัน
ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังมัลทิลิงค์ เซทไว้แบบนุ่ม/หนึบ และใช้งานได้ทุกสภาพถนน ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ล้ออัลลอย ขนาด 16" พร้อมยางเรเดียล 215/60/16 ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มหนึบ การให้ตัวของช่วงล่างทำได้ดี อาการโยนตัวมีบ้างเพราะรถทรงสูงการควบคุมพวงมาลัยทำได้อย่างมั่นใจทั้งในทางลูกรัง และถนนเรียบ
สรุป แตกต่างจากเดิม
ซูบารุ เอาท์แบค 2.5 เป็นรถตรวจการณ์ขับเคลื่อน 4 ล้อที่ยกสูงพร้อมลุย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับเครื่องยนต์แบบสูบนอน ไร้เทอร์โบตัวใหม่ ที่พัฒนาให้มีกำลังถึง 165 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติบวก/ลบแบบสปอร์ท ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ภายใต้สนนราคา 2.7 ล้านบาท ที่ไม่สูงจนเกินรับได้