เกาะกระแส(formula)
เบนซิน 95 อี 20 กับสารพัดคำถาม ของคนทันกระแส
หลัง ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกรมสรรพสามิต ที่จะลดภาษีรถยนต์ที่ใช้ เบนซิน
อี 20 (เบนซิน ผสม เอธานอล ร้อยละ 20) บริษัทรถยนต์หลายรายเริ่มเปิดตัว "รถ อี 20"
ทั้งรุ่นใหม่เอี่ยม และรุ่นเดิมแต่ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ และปรับทูนใหม่กันแล้ว
1. ที่ลดน่ะ ลดเท่าไร ?
ความเห็นชอบที่กล่าวมาเป็นผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เหมือนเป็นของขวัญปีใหม่
สำหรับคนรักรถ โดยรถยนต์ขนาดไม่เกิน 2,000 ซีซี ลดลงจาก ร้อยละ 30 เหลือ ร้อยละ
25 ขนาด 2,000 ซีซี แต่ไม่เกิน 2,500 ซีซี ลดลงจาก ร้อยละ 35 เหลือร้อยละ 30
และขนาด 2,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 3,000 ซีซี ลดจากร้อยละ 40 เหลือ ร้อยละ 35
อัตราภาษีที่ลดลงขนาดนี้ ทำให้ราคารถยนต์แต่ละรุ่นปรับลงอย่างเรียกได้ว่า "เห็นเนื้อเห็นหนัง"
ตั้งแต่ระดับหมื่นต้นๆ ถึงหลายแสนทีเดียว (ตามแต่ราคารถ) ปลาย สิงหาคม 2550 พอ
รัฐบาลประกาศตูมว่าจะลดภาษีแน่ บริษัทรถยนต์ก็ขายแคมเปญ "ซื้อปีนี้ ภาษีปีหน้า"
กันเป็นแถว ตลาดรถยนต์เบนซินบ้านเราจึงเริ่มกลับมาคึกคักตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
2. ตอนนี้มีน้ำมันเบนซินประเภทไหนบ้าง ?
จะว่าไป ตอนนี้เข้าปั๊มไหนผู้ใช้รถก็สับสน เพราะจะเจอะกับสารพัดป้ายชื่อเรียกน้ำมัน
เชื้อเพลิงบนตู้จ่าย จนตาลายไปหมด เอาล่ะ... เพื่อป้องกันความ "งงงวย" ของผู้ใช้รถ
และให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั้งประเทศ กรมธุรกิจพลังงานเขาเลยกำหนดชื่อเรียก
น้ำมันแต่ละประเภทที่มีอยู่ใหม่ ดังต่อไปนี้
1. เบนซิน ออคเทน 95 (เหมือนเดิม)
2. เบนซิน ออคเทน 91 (เหมือนเดิม)
3. เบนซิน อี 10/95 (เปลี่ยนจาก แกสโซฮอล 95)
4. เบนซิน อี 10/91 (เปลี่ยนจาก แกสโซฮอล 91)
5. เบนซิน อี 20 (ไม่มีตัวเลขออกแทนตามหลัง เพราะตอนนี้มีแต่ 95 อย่างเดียว)
แถมให้หน่อยว่า สำหรับน้ำมันดีเซล กระทรวงพลังงานออกกฎให้ผู้ค้าน้ำมัน "ต้อง" ผสม
ไบโอดีเซลบริสุทธิ์ ในอัตราส่วนร้อยละ 2 ลงไปในน้ำมันดีเซล เรียกว่า ดีเซล บี 2 ตั้งแต่เดือน
เมษายน ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป จะใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์คอมมอนเรล แค่ไหน และหรือไม่
คงต้องรอหน่วยงานกลางวิจัยเพื่อพิสูจน์
3. ทำไม อี 20 เพิ่งมา ?
อันที่จริง ในปี 2547 กรมธุรกิจพลังงานได้ประกาศให้มีการใช้แกสโซฮอล ในประเทศ 3 สูตร คือ
แกสโซฮอล 95 อี 10 แกสโซฮอล 95 อี 20 และแกสโซฮอล 91 อี 10
ตอนนั้นผู้ค้าน้ำมันคงยังไม่กล้าเสี่ยงกับการผลิต อี 20 ขายในเชิงพาณิชย์ เพราะขนาดแค่ อี 10
ผู้คนก็ยังหวาดผวา ไม่ให้ความสนใจ หรือถ้าจะให้ความสนใจก็เป็นไปในเชิงเตือนกันว่า
"อย่าไปใช้เชียว" คิดอย่างนั้น ก็คงไม่ผิด เพราะในช่วงแรกภาครัฐแทบจะไม่ให้ความใส่ใจ
ในการ "ให้" ข้อมูลด้านคุณสมบัติ ผลดี และผลเสียใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความมั่นใจแก่
ประชาชนเลย
แต่เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นเฉียด 100 เหรียญสหรัฐ ฯ/บาเรลล์ ประกอบกับการที่
บริษัทรถยนต์หลายค่าย ได้ปรับทูนเครื่องยนต์ให้รองรับน้ำมันได้โดยไม่มีผลเสียหายมาจาก
โรงงานแล้ว ความ "มั่นใจ ใช้ได้" ตามสโลแกนของกระทรวงพลังงานจึงเกิดขึ้น และ
พุ่งพรวดพราดตั้งแต่ปลายปี 2549 ฉะนั้นขอเพียงเวลาเตรียมตัวอีกสักระยะ ก็ไม่ใช่เรื่อง
แปลกที่เบนซิน อี 20 จะถือกำเนิดในประเทศไทย ในต้นปีที่ผ่านมา
4. โครงสร้างราคาน้ำมัน วันนี้เป็นอย่างไร ?
เพื่อจูงใจผู้ค้าน้ำมัน ผู้ใช้รถ และสนองนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทน กระทรวงพลังงานจึง
ดัมพ์ราคา เบนซิน อี 20 (ที่ขณะนี้ (มค. 51) ผู้ค้าน้ำมันยังขายกันเพียง 2 ยี่ห้อ น้อยสาขา)
สุดฤทธิ์ โดยใช้วิธีปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเบนซิน อี 20 ด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์การ
คำนวณราคา ณ โรงกลั่น เบนซิน อี 20 ให้เท่ากับร้อยละ 80 ของราคา ณ โรงกลั่น เบนซิน
ออคเทน 95 รวมทั้งให้ระดับราคาขายปลีก เบนซิน อี 20 ถูกว่า เบนซิน อี 10/95 ไม่น้อยกว่า
1 บาท/ลิตร โดยให้ใช้เงินกองทุนน้ำมัน เป็นกลไกในการรักษาระดับค่าการตลาดของเบนซิน
อี 20 ให้ไม่ต่ำกว่าค่าการตลาดของ เบนซิน เช่นเดียวกับ เบนซิน อี 10
ถ้าใครอ่านแล้วงงๆ แนะนำให้กลับไปอ่านชื่อเรียกน้ำมันแต่ละประเภทแบบใหม่ข้างบนอีกรอบ
หรือดูที่ตารางข้างล่างนี้ก็ได้ จะเข้าใจง่ายขึ้น
โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเบนซิน (มค. 51, ที่มา : กระทรวงพลังงาน)
ชนิดน้ำมัน ราคา ณ โรงกลั่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล กองทุนน้ำมัน กองทุน
อนุรักษ์ ราคาขายส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าการตลาด ภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาหน้าปั๊ม
เบนซิน ออคเทน 95 22.263 3.685 0.369 4.000 0.070 30.387 2.127 0.351 0.025
32.890
เบนซิน อี 10/95 21.957 3.317 0.332 0.300 0.063 25.968 1.818 1.032 0.072 28.890
เบนซิน อี 20/95 21.557 3.317 0.332 -0.250 0.063 25.018 1.751 0.113 0.008 26.890
เบนซิน ออคเทน 91 21.845 3.685 0.369 3.300 0.070 29.268 2.049 0.255 0.018
31.590
เบนซิน อี 10/91 21.772 3.317 0.332 -0.200 0.063 25.283 1.770 0.969 0.068 28.090
5. รถยนต์รุ่นไหนใช้ได้บ้าง ?
ขณะที่ผม และทีมงานโทรศัพท์ตรวจสอบ เป็นเวลาราวกลางเดือนมกราคม 2551 ฉะนั้นจนถึงวันนี้ คงมีรถที่ใช้ อี 20 ได้ รุ่นใหม่ๆ ออกมาอีก ขอย้ำให้สอบถามด้วยตัวเองกับบริษัทผู้ผลิตอีกครั้ง และบอกไว้เบื้องต้นก่อนว่า รถที่ใช้ อี 20 ได้ เติมน้ำมันเบนซินได้ทุกประเภท แต่รถทั่วไป ซึ่งหมายถึงรถที่ใช้
เบนซิน อี 10 ทั้ง 95 และ 91 ได้ จะไม่สามารถใช้ เบนซิน อี 20 ได้ ยิ่งกว่านั้นรถเก่าที่ไม่สามารถใช้
เบนซิน อี 10 ได้ ก็ไม่สามารถใช้ เบนซิน อี 20 ได้
ปัดโธ่...แล้วกัน !
ฟอร์ด มี โฟคัส ทุกรุ่น ทุกปี และ เอสเคพ เฉพาะ รุ่น 3.0 ที่ไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ฮอนดา มี แอคคอร์ด ใหม่/ซีอาร์-วี/ซีวิค และซิที ที่ผลิตในปี 2008 ส่วน แจซซ์ โฉมปัจจุบัน
ไม่ได้ปรับปรุง เพราะ ฮอนด้า ฯ จะรอ แจซซ์ รุ่นเปลี่ยนโฉมที่ใช้ อี 20 ได้ ไปเลยทีเดียว
มาซดา มี มาซดา 3 รุ่นเดียวที่ใช้ได้
มิตซูบิชิ มี สเปศ แวกอน รุ่นเดียวที่ใช้ได้เช่นกัน
เอมทีเอม มี เอาดี ทุกรุ่น เนื่องจากใช้เครื่องยนต์นำเข้าบลอคใหม่ ปี 2008 ที่ใช้ได้
นิสสัน มี เทอานา และทิอิดา ที่สามารถใช้ได้
โตโยตา มี โคโรล อัลทิส ที่สามารถใช้ได้
รถที่ใช้ เบนซิน อี 20 ได้เหล่านี้ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากสติคเกอร์ รูปใบไม้ หรือที่เขียน ว่า อี 20
ซึ่งมักแปะอยู่ที่ท้ายรถ หรือใต้ฝาถังน้ำมัน ส่วนรถยี่ห้ออื่นๆ ได้ข่าวว่ากำลังเตรียมการอยู่
และยังไม่ประกาศว่าใช้ได้ออกมาเป็นทางการ
รถในกระบวนที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ที่น่าเห็นใจที่สุดก็คงจะเป็น ฟอร์ด ที่ขานรับนโยบายรัฐตั้งแต่ไก่โห่
ก่อนชาวบ้าน ด้วยการเปิดตัวเก๋งรุ่น โฟคัส ที่ใช้ เบนซิน อี 20 ได้ ในปี 2548 โดยหวังจะได้
รับอัตราภาษีพิเศษ ที่รัฐบาลขณะนั้นเตรียมจะลดให้ถึง ร้อย 10 จึงใจป้ำ ไม่ตั้งราคาสูง
แต่กลับถูกหักหลังด้วยการประกาศเลื่อนแผนลดภาษีสรรพสามิตออกไป 4 ปี
6. ทำไมรถทั่วไป (รวมที่ใช้ อี 10 ได้ด้วย) ถึงใช้ เบนซิน อี 20 ไม่ได้ ?
ชัดเจนว่า รถที่ใช้ เบนซิน อี 10 ไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ เบนซิน อี 20 ได้ และคำถามนี้บังเอิญ
เหลือเกินที่เป็นคำตอบเดียวกันกับที่เมื่อก่อนเคยถามกันบ่อยๆ ว่า "ทำไมรถทั่วไป ถึงใช้
แกสโซฮอล (เบนซิน อี 10) ไม่ได้" คำตอบ คือ
ประการแรก แอลกอฮอล มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูง โดยเฉพาะท่อยาง และพลาสติค
ทองเหลือง ทองแดง ซึ่งมักเป็นวัสดุที่ใช้ในส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องยนต์ และ
ประการที่สอง คุณสมบัติของแอลกอฮอล ต่างจากเบนซินหลายประการ เช่น มีจุดเดือด
ต่ำกว่าเบนซินจะเป็นไอได้ง่าย ซึ่งอาจแปรเปลี่ยนเป็นฟองอยู่ในท่อทางเดินน้ำมัน
ทำให้เครื่องยนต์สะดุด หรือดับไปเฉยๆ เป็นต้น
ฉะนั้น จำไว้ว่า รถที่สามารถใช้ เบนซิน อี 20 ได้ จะต้องเป็นรุ่นที่บริษัทรถยนต์ออกแบบ
และผลิตมาโดยเฉพาะเท่านั้น ส่วนรถรุ่นเก่า และรถรุ่นที่ใช้ เบนซิน อี 10 ได้ ต้อง
ระวังอย่าเติมผิด เพราะอาจมีสิทธิ์เครื่องพัง
เรื่องโดย : ศิธา เธียรถาวร
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : เกาะกระแส(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/94023