สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์
สินค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นับว่าได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต จนสามารถแข่งขันได้กับสินค้าจากญี่ปุ่นและยุโรป รวมถึงรถยนต์ ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย รถยนต์ ตงฟง จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้ เป็นอย่างไร ?
พิทยา : ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย มีความผันผวนมาตั้งแต่ปี 2555 ที่มีการประกาศใช้โครงการรถคันแรก ทำให้เกิดผลมาจนถึงปี 2556 เป็นผลกระทบจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในปี 2556 เกิดภาวะโอเวอร์สตอค การขายรถยากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีผลมาจากเศรษฐกิจ เช่น เรื่องรายได้ของประชาชน ทำให้ต้องมีการจัดพโรโมชัน ลด แลก แจก แถมกันมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายใหญ่ก็มีการลดราคาและโฆษณากันอย่างมาก ส่งผลให้ค่ายเล็กทำงานกันยากลำบากยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบไปยังยอดขายที่ลดลง
สำหรับบริษัท ฯ ถือว่าโชคดี เนื่องจากจัดจำหน่ายรถเชิงพาณิชย์ ยังไม่ส่งผลกระทบมากเท่ากับผู้จำหน่ายรถส่วนบุคคล โดยรถ ตงฟง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ เอสเอมอี
นอกจากนี้ในช่วงงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30" บริษัท ฯ ได้เปิดตัวรถ ตงฟง วี 21 แชมเพียน ออกสู่ตลาด ทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 3,200 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน ที่มียอดขายประมาณ 3,000 คัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่มีทางเลือกช่วยเรื่องความประหยัด อีกทั้งบแรนด์ ตงฟง อยู่ในตลาดเป็นปีที่ 5 ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในบแรนด์มากขึ้น โดยดูจากยอดขายในแต่ละปีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพร้อมของบริษัท ฯ ที่ได้มีการลงทุนอย่างทั้งการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย การบริการหลังการขาย
ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไร ที่มีรถจีนในตลาดเพิ่มมากขึ้น ?
พิทยา : ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีรถจีนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งมีทั้งเซกเมนท์ที่ตรงและไม่ตรงกับบริษัท ฯ ซึ่งการที่มีรถบแรนด์ใหม่เกิดขึ้น มองเป็น 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยบวกกับปัจจัยลบ โดยหากเข้ามาทำตลาดอย่างถูกต้อง พัฒนาผลิตภัณฑ์และศูนย์บริการให้ดีขึ้น ก็จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของรถจีนให้ดีขึ้นในสายตาผู้บริโภค ซึ่งก็เหมือนกับบแรนด์ญี่ปุ่นที่ดันอีโคคาร์ ออกสู่ตลาด เมื่อมีหลายๆ บแรนด์ทำให้การตอบรับของตลาดดีขึ้นอย่างมาก ส่วนปัจจัยลบ หากนำรถเข้ามาเปิดตลาดแล้วไม่ได้ทำอย่างจริงจัง สิ่งนี้จะสะท้อนกลับมาเป็นภาพลบ ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจ ซึ่งผมหวังว่าบแรนด์อื่นๆ ที่เข้ามาทำตลาด จะตั้งใจทำตลาดและสร้างบแรนด์ให้แข็งแกร่ง และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค เหมือนกับ ตงฟง ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน
เพราะเหตุนี้การเลือกซื้อรถจากจีนนั้นต้องดูที่คุณภาพ สเปคของรถ และศูนย์บริการ โดยเฉพาะเรื่องศูนย์บริการต้องศึกษาให้ดี ว่าเมื่อซื้อไปแล้วมีศูนย์บริการรองรับหรือไม่ มีประวัติมาก่อนหรือเปล่า ความมุ่งมั่นของผู้บริหาร การลงทุนมีมากน้อยแค่ไหน ลักษณะการนำเข้า เริ่มมานานมากน้อยเพียงใด ซึ่งสิ่งสำคัญต้องดูที่ความมั่นคง เพราะหากซื้อรถมาแล้วไม่ได้อยู่กับคนซื้อแค่ 4-5 ปี
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าภาพลักษณ์ของรถจีนในปัจจุบันเป็นอย่างไร ?
พิทยา : หากมองในภาพรวมแล้ว คนไทยยังไม่เชื่อมั่นรถจีนเท่ากับรถเกาหลี ญี่ปุ่น หรือยุโรป เนื่องจากภาพลักษณ์ของบแรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่หากเปรียบเทียบในปัจจุบัน กับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถือว่าภาพลักษณ์ดีขึ้นมาก ทั้งนี้วัดจากบแรนด์ ตงฟง ที่ปัจจุบันได้รับการตอบรับจากบริษัทไฟแนนศ์ต่างๆ เช่น กสิกรลีสซิ่ง ฯ ธนชาต ฯ ทำให้ลูกค้ายอมรับมากขึ้นตามไปด้วย เพราะมีสถาบันการเงินรับรอง
อีกทั้งปัจจุบัน บริษัท ฯ ได้ลงทุนโรงงานประกอบในประเทศไทย ทำให้ความเชื่อมั่นมีมากขึ้น ส่วนแผนงานที่จะทำต่อไปจากนี้คือ การพยายามพัฒนาศักยภาพของดีเลอร์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นจุดเด่นของบแรนด์ การเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่สำหรับรถรุ่นใหม่ คาดว่าปีนี้จะแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดมากกว่า 3 รุ่น และมีรถเครื่องยนต์ดีเซลด้วย
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีดีเลอร์กี่แห่ง ?
พิทยา : ปีนี้ตั้งเป้าจะมีดีเลอร์ให้ครบ 50 แห่ง โดยจะเน้นที่การฝึกอบรมฝ่ายขาย ช่าง เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า รวมถึงตอบสนองความต้องการยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ฟอร์มูลา : ส่วนโรงงานจะมีการลงทุนเพิ่มอีกหรือไม่ ?
พิทยา : ต้องมีการลงทุนเพิ่มอย่างแน่นอน เนื่องจากจะมีเครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มขึ้น แต่สำหรับการผลิตนั้น คงยังไม่มีการลงทุนเพิ่ม เนื่องจากยังเพียงพอกับตลาด การลงทุนเพิ่มสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เป็นการวางแผนสำหรับอนาคตที่ในปี 2558 จะเปิด AEC ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของ ตงฟง ทั้งนี้เนื่องจาก ตงฟง เป็นรถที่อยู่คู่เอสเอมอี ซึ่งนอกจากราคาที่เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว การมีสินค้าที่หลากหลายจะทำให้เป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย
ฟอร์มูลา : ภาพรวมตลาดปีนี้จะเป็นอย่างไร ?
พิทยา : ภาพรวมตลาดปีนี้ น่าจะเติบโตแต่จะไม่หวือหวา โดยบริษัท ฯ ตั้งเป้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % แต่อย่างไรก็ตาม การเติบโตนั้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัยโดยรวมและการทำตลาดของบริษัท ฯ ด้วย
ฟอร์มูลา : รูปแบบการแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร และการแข่งขันจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ?
พิทยา : บแรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาเขาจะชูประเด็นเรื่องราคา ซึ่งเรื่องราคาไม่ใช่กลยุทธ์หลักของบริษัท ฯ เพราะที่ผ่านมาการรุกตลาดของ ตงฟง ไม่ได้เน้นที่ราคาเป็นกลยุทธ์หลัก เพราะถึงแม้ว่าจะขายรถได้แต่การบริการไม่ดี การที่จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าย่อมไม่เกิดผล การเข้าไปแข่งขันกับคู่แข่งรายใหม่ บริษัท ฯ จะเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ พร้อมการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ของคนไทย และบริษัท ฯ มองว่ากลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการแข่งขันนั้น คู่แข่งไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไฟแนนศ์ชั้นนำของเมืองไทย ผลักดันเรื่องของดอกเบี้ยต่ำอีกด้วย
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมองว่ายังมีจุดอ่อนอะไรที่ต้องแก้ไข ?
พิทยา : เรื่องของการรับรู้ของบแรนด์ เนื่องจาก ตงฟง ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพราะถึงแม้ว่าในด้านยอดขายจะประสบความสำเร็จ แต่บริษัท ฯ ไม่ได้มุ่งเน้นที่การสร้างยอดขาย แต่เน้นที่การสร้างโรงงานและการบริการ ซึ่งเมื่อมีสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เมื่อการพัฒนาการบริการให้ดีขึ้น ลูกค้าก็จะได้รับความพึงพอใจสูงสุด
นอกจากนี้จะเน้นการทำตลาดให้มากขึ้น เพื่อเสริมจุดอ่อนให้เข้มแข็ง รวมถึงจะทำให้ดีเลอร์มีความแข็งแกร่งตามไปด้วย โดยปีนี้จะเน้นการทำเรื่องบแรนดิงให้มากขึ้น อีกทั้งมั่นใจว่าสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัว จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ฟอร์มูลา : มองว่าจุดเด่นของ ตงฟง คืออะไร ?
พิทยา : ความตั้งใจที่จะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ผมว่าคำพูดนี้เหมือนพูดง่ายแต่จริงๆ แล้วทำยาก จริงที่รถยนต์ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย พอเข้ามาปีแรกๆ ก็จะเจอปัญหาก่อน และเป็นปัญหาที่คาดไม่ถึง จากเวลา 5 ปีที่บริษัท ฯ มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา ทั้งรับเคลม ช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ ลูกค้ามีปัญหารีบแก้ไขให้เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรารับผิดชอบ และข้อมูลพวกนี้เราไม่ได้ทิ้ง พอตั้งโรงงานเรานำข้อมูลเหล่านี้มาบริหารจัดการ แก้ไขในสิ่งที่เป็นปัญหา เพื่อให้รถที่ผลิตในเมืองไทยไม่สร้างปัญหาเหมือนรถที่นำเข้ามาจำหน่าย ซึ่งถือว่าเป็นค่าเรียนที่แพงมาก แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัท ฯ สามารถนำข้อมูลต่างๆ มาปรับปรุงจนทำให้บริษัท ฯ ยืนหยัดได้จนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์ดีเซล ที่จะแนะนำออกสู่ตลาดในเมืองไทย ได้ศึกษาและวิจัยอย่างหนัก จนกระทั่งวันนี้ ได้ผ่านคำว่าการเป็นผู้นำเข้า กลายมาเป็นผู้ผลิต ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ต่างจากค่ายอื่นๆ
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่า ตงฟง ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วหรือยัง ?
พิทยา : ผมคิดว่ายังอยู่ในช่วงแรกของการเริ่มต้น ซึ่งถ้าจะพูดว่ายอดขาย 3,000 คันประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ใช่ ผมมองว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะการทำตลาดของ ตงฟง ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในอนาคตจะแนะนำรยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีกหลากหลายรุ่น ขณะนี้เป็นเพียงบทแรกของการทำตลาด วิสัยทัศน์ของบริษัท ฯ ไม่ใช่เพียงแค่ทำยอดขาย แต่เราต้องการสร้างบแรนด์ให้ยั่งยืน เรียกว่าขึ้นฝั่งแล้ว แต่ยังไม่ได้วิ่งไปข้างหน้า เพราะธุรกิจของ ตงฟง เป็นการทำงานระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/93741