มาตรวัดตลาดรถ
หรูหรา
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนธันวาคม ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม, + 147.8 % รถยนต์นั่ง, + 152.8 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ, + 173.9 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ, + 125.3 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV), + 131.8 % รถอเนกประสงค์ (MPV), + 158.8 % อื่นๆ ,+ 35.7 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม, + 77.3 % รถยนต์นั่ง, + 79.6 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ, + 72.2 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ, + 205.0 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV), + 78.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV), + 116.2 % อื่นๆ, + 39.9 % [/table] วงการยานยนต์ไทย รอบปี 2555 ทำตัวเลขหรูหราเป็นประวัติการณ์ในรอบ 51 ปี นับแต่มีการค้าขายรถยนต์กันมา ทำตัวเลขสูงถึง 1,408,046 คัน เฉพาะเดือนธันวาคม เพียงเดือนเดียว ขายกันถึง 135,251 คัน นับเป็นตัวเลขสูงสุดครั้งแรก แต่นักการตลาดก็บอกว่า ตัวเลขของปีนี้ ไม่ค่อยจะแม่นยำนัก เพราะมีแรงกระตุ้นซื้อ ให้ตัดสินใจล่วงหน้าเข้ามาช่วย ส่วนปี 2556 ก็จะเป็นอีกปีหนึ่ง ที่ตัวเลขยังไม่เข้าที่เข้าทาง เพราะมีตัวเลขรอการส่งมอบของปี 2555 ที่จองกันไว้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ชนิดได้รถกันปลายปีนี้ทีเดียว มาคุยกันเรื่องทั่วไปสักหน่อย เรื่องแรก ปีนี้จะมีอะไรออกสู่ตลาดกันบ้าง งานแสดงรถยนต์ปลายเดือนมีนาคม แน่นอนว่า โตโยตา วีออส ใหม่ รถอภินิหาร ออกมาโชว์โฉม อาจมีแถมอีโคคาร์ มาด้วย และอาจได้เห็นอีโคคาร์ 4 ประตู จากค่าย มิตซูบิชิ อีกเช่นกัน ส่วนรถกระบะ แน่นอนว่า โตโยตา ต้องถึงเวลาปรุงแต่งเสียที ส่วน อีซูซุ น่าจะเป็น มิว-7 ปรับโฉม แถมด้วยช่วงปลายปี มีทีเด็ดแน่นอน นอกจากนั้นก็เป็นรถเฉพาะทาง เฉพาะเจาะจงลูกค้า ไม่ใช่รถแมสส์ ที่จะทำยอดขายถล่มทลาย มีมากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ที่แน่นอนก็คือ ปี 2557 ที่โรงงานสร้างใหม่หลายแห่ง เสร็จสมบูรณ์ จะมีรุ่นใหม่ๆ ทยอยกันออกสู่ตลาดอย่างคับคั่ง และมีความเป็นไปได้ว่า งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30" ปลายปีนี้ จะสร้างกระแสยอดจองให้ถล่มทลายกันอีกรอบ โปรดติดตาม เรื่องถัดมา คือ เรื่องที่คุยไปแล้ว ว่ารัฐบาลปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยยึดตามการลดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ และกำหนดระยะเวลาเอาไว้ 3 ปี ค่ายรถยนต์ก็พยายามหาวิถีทาง ที่จะขอเพิ่มเวลาออกไปอีก เริ่มกันด้วยออกมาบอกว่า อายุของรถแต่ละรุ่น จะอยู่ที่ประมาณ 4 ปี อาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ต้นเหตุเพราะอายุรถในตลาดไม่เท่ากัน แล้วรถบางรุ่นก็เพิ่งจะเปิดตัว ถ้าต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระต้นทุน แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบจากภาครัฐ ที่ในความเป็นจริง ค่ายรถยนต์แต่ละค่าย ต่างก็มีการค้นคว้าพัฒนาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ที่ส่งเข้าไปขายในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ที่มีข้อบังคับเรื่องค่าไอเสีย คาร์บอนไดออกไซด์ อย่างเข้มงวด เพียงแต่การจะนำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นเข้ามา มันทำให้เพิ่มต้นทุนแน่นอน แต่ก็ต้องคำนึงถึงห้วงเวลาของรถแต่ละรุ่นเช่นกัน เราเชื่อว่า แต่ละค่ายทำได้แน่นอน แต่ก็ต้องโวยไว้ก่อน ถ้าได้ก็ดี ยืดระยะเวลาไปได้หน่อย ในเมืองนอกเมืองนา เขาบังคับให้ต้องติดป้ายแสดงความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกันด้วย แถมเจ้าของรถขับแล้ว ทำไม่ได้เท่ากับป้ายที่แสดง ก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันสนุกสนาน ส่วนประเทศสารขัณฑ์ คอยไปก่อนนะ กลับมาเรื่องมาตรวัดดีกว่า รอบปี 2555 ยอดการขายเพิ่มสูงถึง 77.3 % ขายกันทั้งตลาด 1,408,046 คัน เดือนเดียวเพิ่มถึง 147.8 % ขายกันได้ 135,251 คัน ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน ยังหน้าเดิม โตโยตา ขาย 40,184 คัน เพิ่ม 173.2 % ส่วนแบ่ง 29.7 % อันดับสอง อีซูซุ ขาย 21,483 คัน เพิ่ม 160.7 % ส่วนแบ่ง 15.9 % อันดับที่สาม ฮอนดา ขาย 20,463 คัน เพิ่มเยอะ 831.0 % เพราะปีที่แล้วไม่ได้ขาย ส่วนแบ่ง 15.1 % อันดับที่สี่ นิสสัน ขาย 15,025 คัน เพิ่ม 102.4 % ส่วนแบ่ง 11.1 % อันดับที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 14,924 คัน เพิ่ม 174.3 % ส่วนแบ่ง 11.0 % ยอดรวมทั้งปี โตโยตา 515,321 คัน เพิ่ม 78.0 % ส่วนแบ่งตลาด 36.6 % ที่สอง อีซูซุ 213,380 คัน เพิ่ม 61.4 % ส่วนแบ่ง 15.2 % ที่สาม ฮอนดา 171,208 คัน เพิ่ม 103.9 % ส่วนแบ่ง 12.2 % ที่สี่ มิตซูบิชิ 131,121 คัน เพิ่ม 98.7 % ส่วนแบ่ง 9.3 % ที่ห้า นิสสัน 123,857 คัน เพิ่ม 79.0 % ส่วนแบ่ง 8.8 % แยกประเภทเป็นรถยนต์นั่ง เดือนเดียวขายกัน 62,947 คัน เพิ่มถึง 152.8 % ยอดรวมทั้งปี ขายได้ 624,846 คัน เพิ่ม 79.6 % แชมพ์ ฮอนดา ขาย 17,978 คัน เพิ่ม 881.3 % ส่วนแบ่ง 28.5 % ที่สอง โตโยตา ขาย 15,585 คัน เพิ่ม 145.7 % ส่วนแบ่ง 24.7 % ที่สาม นิสสัน ขาย 12,344 คัน เพิ่ม 97.7 % ส่วนแบ่ง 19.6 % ที่สี่ มิตซูบิชิ 6,453 คัน เพิ่ม 1,115.3 % ที่ห้า ฟอร์ด 4,151 คัน เพิ่ม 174.0 % ส่วนแบ่ง 6.6 % รวมทั้งปี โตโยตา ขาย 208,546 คัน เพิ่ม 60.8 % ส่วนแบ่ง 33.4 % ที่สอง ฮอนดา 154,780 คัน เพิ่ม 101.2 % ส่วนแบ่ง 24.8 % ที่สาม นิสสัน 103,504 คัน เพิ่ม 116.4 % ส่วนแบ่ง 16.6 % ที่สี่ มิตซูบิชิ 42,421 คัน เพิ่ม 561.9 % ส่วนแบ่ง 6.8 % ที่ห้า มาซดา ขาย 36,939 คัน เพิ่ม 11.2 % ส่วนแบ่ง 5.9 % เดือนนี้ผู้เสียภาษีสูงสุด ลัมโบร์กินี ขาย 6 คัน แฟร์รารี ขาย 1 คัน แยกประเภทเป็นรถกระบะ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนเดียวขายไป 50,737 คัน เพิ่มขึ้น 173.9 % โดยมี อีซูซุ แซงขึ้นนำอย่างฉิวเฉียดด้วยยอด 17,468 คัน เพิ่ม 150.5 % ตามมาด้วย โตโยตา 17,310 คัน เพิ่ม 301.8 % ที่สาม มิตซูบิชิ 6,164 คัน เพิ่ม 66.1 % ส่วนแบ่ง 12.1 % ที่สี่ เชฟโรเลต์ 3,380 คัน เพิ่มถึง 1,230.7 % ที่ห้า ฟอร์ด 2,608 คัน เพิ่ม 430.1 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง ก็เพิ่มตามไปด้วย เดือนเดียวขาย 9,836 คัน เพิ่ม 131.8 % โดยยอดรวมทั้งปี ขายได้ 95,155 คัน เพิ่ม 78. 1% โดยมี โตโยตา ขาย 3,105 คัน เพิ่ม 184.3 % ส่วนแบ่ง 31.6 % ที่สอง มิตซูบิชิ ขาย 2,050 คัน เพิ่ม 100.6 % ส่วนแบ่ง 20.8 % และที่สาม เชฟโรเลต์ ขาย 1,748 คัน เพิ่ม 14.1 % ส่วนแบ่ง 17.8 % ยอดรวมทั้งปี โตโยตา ขาย 36,329 คัน เพิ่ม 177.7 % ส่วนแบ่ง 38.2 % มิตซูบิชิ ขาย 26,021 คัน เพิ่ม 48.3 % ส่วนแบ่ง 27.3 % เชฟโรเลต์ ขาย 16,665 คัน เพิ่ม 173.4 % ส่วนแบ่ง 17.5 % ปี 2556 จะเป็นอีกปีหนึ่ง ที่เราจะทำสถิติทางด้านการผลิต เพราะโรงงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหลายแห่ง ส่วนการขายในประเทศ ก็คงลดลงอย่างที่ว่า เพราะไม่มีความต้องการล่วงหน้ามาเร่งเร้าอีก ได้แต่หวังว่า อย่าให้มีอุปสรรค หรือแรงกระเพื่อมทางการเมืองเข้ามาแทรก ทำให้ตลาดชะงักงันไปอีกครั้ง วงการยานยนต์จะได้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสดใส หวังไว้เช่นนั้นเรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/89688