รู้ลึกเรื่องรถ
เสียง...ก็ทำร้ายคุณได้
ปัญหามลภาวะซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังคงเป็นปัญหาหลักของมนุษย์ชาติไปอีกนาน โดยยังไม่มีใครมองเห็นจุดจบ และก็มีผู้ออกมาบอกทั้งสาเหตุที่มันเกิดขึ้น และก็บอกวิธีแก้ไขกันมากมาย ผมคิดว่าสาเหตุที่เป็นรากของปัญหาของพวกเราทุกวันนี้ เริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นของศตวรรษที่แล้ว โดยเฉพาะตรงกึ่งกลางของศตวรรษพอดี มันมาจากความหลงระเริงต่อความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดของชาติอุตสาหกรรมหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กับสิ่งประดิษฐ์มากมายที่พวกเราเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น โดยไม่ต้องการมอง หรือไม่สามารถมองเห็นผลด้านลบของมันในระยะยาว ผมคิดว่าถ้าจะให้ตอบให้ตรงที่สุด และสั้นที่สุด ก็คือ เพราะเรามีความรู้เพียงน้อยนิด แต่เชื่อว่ารู้มากพอ
แล้วยังมีความโลภของนายทุนส่วนหนึ่ง มาเป็นตัวช่วยให้ปัญหานี้บานปลายอย่างรวดเร็ว เราปลาบปลื้มกับการประดิษฐ์เครื่องยนต์ แล้วเราก็ปลาบปลื้มกับความสามารถในการกลั่นเชื้อเพลิงสำหรับมันจากน้ำมันดิบใต้ดิน โดยไม่รู้และก็ไม่ต้องการรู้ด้วยว่า ในระยะยาวเมื่อเครื่องยนต์พวกนี้ถูกใช้กันทั่วโลกแล้ว ไอเสียของมันจะส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อมของพวกเราอย่างไรบ้าง เราผลิตตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศได้ โดยไม่รู้เลยว่าอีก 50 ปีต่อมาธาตุบางอย่างในสารทำความเย็น จะลอยขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศได้ เราโหมใช้ดีดีทีฆ่าศัตรูพืชทั่วโลก โดยไม่รู้เลยว่ามันจะสร้างปัญหาร้ายแรงต่อไปแค่ไหน
มาถึงวันนี้ ชาติอุตสาหกรรมเข้าใจดีแล้วว่า ไม่มีวันใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เอาชนะธรรมชาติได้เลย ปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกมองด้วยความเข้าใจดีขึ้น ปัญหาที่จับต้องได้ เช่น ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาฝุ่นและควัน ถูกแก้ไขค่อนข้างได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม ในประเทศเหล่านี้ ปัญหาใหม่ที่ยังคงอยู่ คือ ปัญหาจากเสียงรบกวน และคงไม่ต้องสงสัยว่าปัญหานี้จะอยู่ที่ระดับใด ในประเทศที่หานักการเมืองและผู้มีอำนาจที่มีสำนึกรักชาติห่วงใยประชาชนได้ยากมากเช่น ประเทศไทย
ผมขอจำกัดเรื่องนี้ไว้เฉพาะเสียงรบกวนที่มาจากยานพาหนะเท่านั้น เสียงรบกวน (NOISE) เป็นสิ่งที่บ่งชี้ตายตัวไม่ได้ เพราะเสียงรบกวนของคนหนึ่ง อาจเป็นเสียงที่อีกคนหนึ่งต้องการฟังก็ได้ คำจำกัดความของเสียงรบกวน ก็คือ "เสียงรบกวน (NOISE) สำหรับผู้หนึ่งผู้ใด คือ เสียงที่ผู้นั้นไม่ต้องการฟัง (ไม่ว่าใครจะว่าไพเราะเพียงใดก็ตาม) หรือเสียงที่ผู้นั้นฟังแล้วไม่ปีติยินดี (แบบนี้เสียงตำหนิจากหัวหน้าในที่ทำงานของเรา ก็คงจะใช่ด้วย) หรือเสียงที่ดังเกินไปสำหรับผู้นั้น"
เฉพาะอย่างหลังสุดนี้ ที่เราจะเอ่ยถึงในคอลัมน์นี้ และเฉพาะจากยานพาหนะเท่านั้น เสียงรบกวนไม่ได้ทำให้ความสามารถในการรับฟังเสียงของหูเราลดลงแต่เพียงอย่างเดียวเหมือนที่คนส่วนมากเข้าใจกัน แต่มันทำให้เราป่วยได้หลายอาการ เช่น นอนไม่หลับ เป็นโรคหัวใจ เป็นโรคเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด หรือถ้าอย่างหนักมาก อาจถึงขั้นทำให้หัวใจวายได้ด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย (แต่ผมว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า) ที่คนไทยเกือบทั้งหมด ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกเสียงรบกวนทำลายสุขภาพอย่างหนักอยู่ทุกวัน หรืออย่างน้อยก็ทุกวันทำงาน
มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่งของผู้ขับรถชาวไทยที่ผมว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก นั่นคือพวกเราพร้อมใจลดการใช้แตรกันอย่างพร้อมเพรียง โดยไม่ต้องมีหน่วยงานใดออกมารนณรงค์ เพราะถ้าพวกเราใช้แตรกันแบบพร่ำเพรื่อหลายจุดประสงค์แบบประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ สุขภาพของพวกเราจะต้องแย่กว่านี้ ผมใช้คำว่า "แย่กว่า" เพราะว่ามลภาวะทางเสียงในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ของเรา ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ เสียงเหล่านี้มาจากท่อไอเสียทั้งนั้น ไม่ว่าจะของรถตุ๊กๆ รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก และรถยนต์นั่งที่ดัดแปลงท่อไอเสีย
ใครที่เป็นคนช่างสังเกตหน่อย อาจจะเคยเห็นรถตุ๊กๆรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ สร้างขึ้นมาใหม่ ยาวกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย ที่น่ายินดี คือ มีท่อไอเสียที่ลดเสียงได้ระดับเดียวกับรถเก๋งปกติ นี่แหละครับรถตุ๊กๆ ตัวอย่าง มันไม่เกี่ยวกับเอกลักษณ์ใดๆเลย ที่รถตุ๊กๆ จะต้องส่งเสียงรบกวนระดับนี้ ที่จริงแล้ว รถตุ๊กๆ ควรหมดไปจากผิวจราจรของกทม. ด้วย และก็เคยมีผู้รับผิดชอบพยายามจัดการ แต่ไม่สำเร็จด้วยเหตุผลที่ผมไม่สามารถนำมาเปิดเผยในที่นี้ได้ บางคนเชื่อว่ามันควรอยู่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยต่อไป น่าเศร้าใจอะไรอย่างนี้ ชาติไทยมีวัฒนธรรมสูงมานานมาก เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการมารู้จักและชื่นชม ไม่ต้องอาศัยซากรถ กระบะเล็ก 3 ล้อ ที่ผลิตในญี่ปุ่นเมื่อ 50 สิบปีที่แล้วที่คนไทยนำมาใส่ที่นั่งเป็นรถโดยสารสาธารณะหรอกครับ
ทางเดียวที่จะลดมลภาวะทางเสียงจากรถทุกกลุ่มที่กล่าวมาแล้วนี้ได้ ก็คือ การตรวจวัดระดับเสียงอย่างจริงจัง ทั้งบนถนนสาธารณะ และที่สถานีตรวจสภาพรถเพื่อจดทะเบียน หรือต่ออายุทะเบียน การตรวจบนถนนต้องมีมาตรฐานไม่เลือกปฏิบัติ ต้องสามารถพักการใช้งานรถที่ฝ่าฝืนได้จริง ไม่ใช่แค่สุ่มหาเงินรางวัลนำจับให้ตำรวจด้วยกัน ไม่มีวันทำให้ผู้ฝ่าฝืนรู้สึกเกรงกลัวกฎหมาย แค่เมื่อไรโชคร้ายก็เสียเงินเท่านั้นเอง
ถ้าเป็นไปได้มาตรการนี้ น่าจะครอบคลุมไปถึงเครื่องเรือในแม่น้ำลำคลองด้วย กรมเจ้าท่าจะต้องบังคับให้เรือเหล่านี้ ใส่หม้อพัก เพื่อให้ระดับเสียงต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าไม่มีประสบการณ์ก็สามารถขอข้อมูลและความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมการขนส่งทางบกได้ ทุกวันนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำและริมคลอง ป่วยเพราะเสียงรบกวนจากเครื่องเรือเหล่านี้กันอย่างน่าเห็นใจมาก
เรื่องโดย : เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ลึกเรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/89615