โพร์เช กาเยนน์ เอส ดีเซล

กาเยนน์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถเอสยูวีในระดับหัวแถว จากการที่ โพร์เช ได้ปรับปรุงและพัฒนาในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ที่มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบเบนซิน ดีเซล และไฮบริด รวมถึงระบบรองรับ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งถือว่าไม่เป็นรองใคร ในบรรดารถประเภทเดียวกัน ภายนอกมีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่โต แต่แลดูสปอร์ทกว่ารุ่นที่ผ่านมา จากการขัดเกลาให้มีความปราดเปรียว เพรียวลม ลดเหลี่ยมมุมที่เคยมีอยู่ในรุ่นเดิม โดยเฉพาะมุมมองที่ด้านหน้าและหลัง ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ติดตั้งยางขนาด 255/55 R18 ห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา จนแทบไม่น่าเชื่อว่า เรากำลังนั่งอยู่ในรถเอสยูวี ที่เหมาะสำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ สามารถลุยได้ในระดับหนึ่ง วัสดุคุณภาพสูงติดตั้งอยู่แทบทุกจุดภายในตัวรถ การออกแบบทำได้อย่างสวยงาม แฝงไว้ด้วยความสปอร์ท เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ฝาสูบทำจากอลูมิเนียม วี 8 สูบ ความจุ 4.2 ลิตร ทวินเทอร์โบแบบแปรผัน ทวินอินเตอร์คูเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 382 แรงม้า แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ แรงบิดสูงสุดทำได้ถึง 86.7 กก.-ม. (850 นิวตัน-เมตร) ที่รอบต่ำเพียงแค่ 2,000–2,750 รตน. เท่านั้นเอง และเมื่อลากรอบสูง เสียงเครื่องยนต์จะออกไปในแนวรถอเมริกัน เครื่องโต ทาง โพร์เช ให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบท่อไอเสีย โดยแยกเป็น 2 ฝั่งซ้าย/ขวา ตามแนวลูกสูบ การสั่นสะเทือนมีน้อย ไม่มีเสียงรบกวนเหมือนกับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป อัตราเร่งรวดเร็ว แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวเกือบ 2.2 ตัน แต่ความจัดจ้านในช่วง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาสั้นๆ เพียงแค่ 5.7 วินาที แถมในขณะเข้าโค้งที่พื้นถนนมีความลื่นก็ยังสามารถใช้ความเร็วสูงได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ส่ออาการลื่นไถลจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ถ่ายทอดกำลังไปมาระหว่างล้อคู่หน้าและหลัง เพื่อความสมดุลในการขับขี่ ทำงานตอบสนองได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 1/1,000 วินาที โดยมีเซนเซอร์ติดตั้งไว้ในจุดต่างๆ เพื่อรับข้อมูลไปวิเคราะห์และสั่งงาน ทำให้รถเกิดความสมดุลในขณะขับขี่ แชสซีส์และสปริงของระบบรองรับด้านหน้า ได้รับการปรับมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์ 8 สูบ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยทำได้ถึง 12 กม./ลิตร มีผลทำให้น้ำมันเมื่อเติมเต็มถัง 85 ลิตร สามารถนำพารถคันนี้ไปได้ไกลกว่า 1,000 กม. เลยทีเดียว ถือว่าประหยัดมากสำหรับรถที่มีน้ำหนักตัว 2.2 ตัน แถมใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ 4.2 ลิตร ระบบถ่ายทอดกำลังแบบทิพทรอนิค เอส 8 จังหวะ ให้ความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนที่ดี รวมไปถึงการปรับอัตราทดในเกียร์ท้ายๆ ให้ลดต่ำลง ระบบเกียร์จะมีให้เลือกใช้ถึง 2 โหมด คือ NORMAL และ SPORT การขับขี่ทำได้ง่าย แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดใหญ่ ความกว้างของตัวรถ อาจมีปัญหาเรื่องความคล่องตัวไปบ้างสำหรับการใช้งานบนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง แต่สำหรับการเดินทางบนมอเตอร์เวย์ จากทัศนวิสัยอันโปร่งโล่งจากตัวรถที่สูงกว่ารถเก๋งโดยทั่วไป ทำให้เกิดความสบายในการขับและนั่งโดยสาร ที่ความเร็วสูงเกือบ 200 กม./ชม. ตัวรถยังคงนิ่งราวกับวิ่งในระดับ 120-140 กม./ชม. การเก็บเสียงรบกวนไม่ให้เข้ามาในห้องโดยสารทำได้ดี ทำให้บรรยากาศอันรื่นรมย์ในการฟังดนตรีจากเครื่องเสียงคุณภาพสูงเป็นไปด้วยดี คุณภาพของ โพร์เช การ์เยนน์ เอส ดีเซล อยู่ในระดับทอพของรถเอสยูวี โดยไม่มีข้อสงสัย เครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ให้ทั้งพละกำลัง โดยมีความประหยัดเชื้อเพลิงเป็นของแถม ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องคอยพะวงกับเกจวัดระดับน้ำมันจนเกินไป • คุณรู้หรือไม่ ? จากการเพิ่มอัตราทดในเกียร์ตำแหน่งที่ 7 และ 8 มีผลทำให้รอบการทำงานของเครื่องยนต์ลดลงไปถึง 20 % ช่วยลดการสึกหรอ และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ได้เป็นอย่างดี โดยทอพสปีดจะอยู่ในเกียร์ 8