วิถีตลาดรถยนต์
แค่ 9 เดือนเกือบหนึ่งล้านคันแล้ว
ไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 ผ่านพ้นไปแล้ว ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างสถิติยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยหมดแรงชะลอตัวลงไปเลย แถมในเดือนกันยายนยังเป็นอีกเดือนหนึ่งที่ทำสถิติยอดจำหน่ายต่อเดือนได้สูงสุดอีกด้วย เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเป้าทั้งปีที่เล็งกันไว้ที่ 1,200,000 คัน แตกกระจายชัวร์ ที่ต้องลุ้นก็เพียงแต่ว่าจะเกินเลยไปมากน้อยเพียงไรเท่านั้น และก็ทำให้เกิดข้อสงสัยเล็กๆ ขึ้นมาเหมือนกันว่า แล้วทิศทางการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปี 2556 จะยังคงโชติช่วงสดใสซาบซ่าเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในปี 2555 หรือไม่ เพราะว่าไปแล้วส่วนหนึ่งของยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่พุ่งสูงอย่างนี้ มาจากที่ในปี 2555 มีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ของผู้ต้องการใช้รถได้อย่างตรงเป้าตรงใจออกจำหน่ายกันมากมาย หลายรุ่นหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะในตลาดของรถยนต์นั่ง ที่มีโครงการรถคันแรกของภาครัฐเป็นแรงหนุนให้ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของรถใหม่ป้ายแดง
ขณะที่ในส่วนของรถพิคอัพ ปี 2555 จัดได้ว่าเป็นปีผลัดใบเข้าสู่ยุคใหม่ของรถพิคอัพบ้านเราอย่างแท้จริง เกือบทั้งหมดที่มีจำหน่ายอยู่เป็นการปรับเปลี่ยนเลือดใหม่ ปรับเปลี่ยนสู่ความเป็นเจเนอเรชันใหม่ทั้งสิ้น แล้วในปี 2556 ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายจะสรรหาแคมเปญและพโรโมชันอะไรมาดึงดูดใจผู้ใช้รถ โดยไม่มีโครงการรถคันแรกมาเป็นแบคอัพเสริมแล้ว และจะมีรถยนต์โมเดลใหม่ที่จะเป็นนางกวักเรียกลูกค้าเข้าโชว์รูมได้เช่นในปี 2555 อีกหรือไม่ บางส่วนที่พอจะตอบคำถามเหล่านี้ได้บ้าง มาจากงาน MOTOR EXPO ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว เพราะรถยนต์ใหม่โมเดลปี 2013 จากหลายต่อหลายค่ายถูกส่งขึ้นไปโชว์ตัวในงานเป็นเวทีแรก ก่อนที่จะถึงกำหนดการออกจำหน่ายอย่างจริงๆ จังๆ ต่อไป
ในเดือนกันยายน มีรถยนต์หน้าใหม่เดินทางขึ้นโชว์รูมผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามองว่าจะมีเสน่ห์เย้ายวนใจ สร้างยอดจำหน่ายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ตามความคาดหวังของผู้บริหาร เห็นจะหนีไม่พ้นการมาถึงของ ฮอนดา ซีอาร์-วี เจเนอเรชันใหม่ ที่จะมาสืบสานตำนานความสำเร็จของ ฮอนดา ซีอาร์-วีอดีตหัวแถวของรถเอสยูวีบ้านเราได้หรือไม่ อีกไม่นานคงมีคำตอบที่ชัดเจน แต่แว่วว่าเพียงเปิดตัวออกจำหน่ายไม่นาน ใบสั่งจองก็หลั่งไหลเข้ามาสู่มือผู้ขายแล้วเป็นพันๆ ใบ ฝ่ายผลิต ฮอนดา ทำงานหนักกันอีกแล้ว ส่วนค่าย นิสสัน ขึ้นโชว์รูมเต็มตัวแล้วเช่นกัน สำหรับ ซิลฟี รถยนต์นั่งแบบซีดาน เครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร ได้ดาราดังวิกสีน้อยอย่าง ชมพู่ และโป๊ป มาเป็นนายแบบ นางแบบ นี่ก็ใช้เวลาไม่นานใบจองก็วิ่งเข้าโชว์รูมไม่ขาดระยะเช่นกัน เป็นความคึกคักอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดรถเอสยูวี และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ส่วนตลาดรถพิคอัพ เวลานี้เร่งผลิตประกอบกันมือเป็นระวิง ยังไม่ทันส่งมอบ บางรุ่นบางยี่ห้อยังต้องใช้เวลารอคอยอีกเป็นเดือนกว่าจะได้เชยชม
9 เดือนแรกของปี 2555 ท้องถนนในเมืองไทยมีรถใหม่ป้ายแดงเพิ่มขึ้นแล้ว 990,943 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วง 9 เดือนของปี 2554 ถึง 47.7 % เดือนตุลาคมก็ทะลุผ่านหลักล้านคันแล้ว สำหรับเดือนกันยายน มีรถยนต์รุ่นใหม่ผลิตและประกอบผ่านคิวซีเรียบร้อย เดินทางสู่เคหสถานของผู้สั่งจองไว้เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 131,457 คัน ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดือนกันยายน ปี 2554 ถึง 51.1 % สวยงามเลิศหรูเหลือประมาณ ยี่ห้อที่มีผู้สนใจเลือกซื้อมากที่สุดก็เป็นยี่ห้อเดิมๆ เหมือนที่เป็นมาในทุกเดือน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถยนต์ที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะขยายความนิยมมาลงหลักปักฐานสร้างโรงงานประกอบในบ้านเรา มีการลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยเช่นในปัจจุบัน อันดับ 1 โตโยตา เดือนกันยายนมียอดรวมจากทุกตลาด 46,483 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 35.4 % อันดับ 2 มาเร่งสปีดเอาในช่วงครึ่งหลังของปี ฮอนดา ทำได้ 19,465 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.8 % อันดับที่ 3 อีซูซุ มียอดรวมทั้งสิ้น 17,046 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.0 % อันดับที่ 4 นิสสัน 11,701 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % และอันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 11,683 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % เท่ากับ นิสสัน เมื่อรวม 9 เดือนมีการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันบ้าง แต่อันดับ 1 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โตโยตา มียอดสะสมรวมแล้วทั้งสิ้น 380,216 คัน คิดเป็นสัดส่วนการตลาดสูงถึง 38.4 % จากยอดรวมทั้งหมด แต่อันดับ 2 กลายเป็นของ อีซูซุ จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 150,003 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 15.1 % ซึ่งเป็นผลมาจากความต่อเนื่องสม่ำเสมอของยอดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี ผิดกับ ฮอนดา ที่ยอดจำหน่ายสะดุดไปในช่วงต้นปี ถึงมาเข้าที่เข้าทางเร่งกันเต็มสูบแต่ก็ตามไม่ทันเสียแล้ว อันดับที่ 3 อย่างแน่นอน ฮอนดา จำหน่ายไปแล้ว 106,444 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 10.7 % ขณะที่ มิตซูบิชิ กอดอันดับที่ 4 ไว้อย่างเหนียวแน่น จากยอดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 87,858 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % อันดับที่ 5 เป็นของ นิสสัน จำหน่ายได้รวม 80,036 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 8.1 % อย่างไรก็ตาม คู่ที่ลุ้นกันสนุกที่สุด เวลาอีก 3 เดือนที่เหลือ อันดับที่ 6 จะเป็นของใคร ระหว่าง เชฟโรเลต์ กับมาซดา น่าลุ้นสุด ๆ เพราะยอดรวมของทั้ง 2 ยี่ห้ออยู่ที่ เชฟโรเลต์ 52,943 คัน มาซดา 52,170 คัน ต่างกันอยู่แค่ 700 กว่าคัน ขณะที่ในเดือนกันยายน ยอดจำหน่ายของ มาซดา ดีกว่า เชฟโรเลต์ อยู่นิดๆ เวลาที่เหลืออยู่ลุ้นกันสนุกแน่คู่นี้
พิคอัพ 1 ตัน อันดับที่ 1-5 ไม่ต้องไปลุ้นอะไรแล้ว ตอนนี้การบ้านที่ต้องทำของแต่ละค่าย คือ การวางแผนรับมือกับการมาถึงของ ไฮลักซ์ วีโก เจเนอเรชันใหม่ ที่นักเลงรถพิคอัพบ้านเราฟันธงแล้วว่า ปี 2556 มาแน่ ถึงเวลาแล้วและแน่นอนว่าที่ต้องทำการบ้านมากเป็นพิเศษ หนีไม่พ้นคู่แข่งหลัก อีซูซุ ศึกพิคอัพจะดุเดือดแค่ไหนอีกไม่นานคงได้รู้กัน สำหรับเดือนกันยายน 2555 ยอดจำหน่ายพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมกันทั้งตลาดอยู่ที่ 46,648 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนกันยายนปี 2554 ถึง 36.7 % แค่ ไฮลักซ์ วีโก ของ โตโยตา ปรับเล็กก็ยังเพียงพอที่จะรักษาความเป็นเบอร์ 1 ของตลาดแล้ว ถ้าปรับใหญ่จะขนาดไหน เดือนกันยายน โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก ขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายไปอีก 19,046 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 40.8 % ส่วนคู่แข่งสำคัญ อีซูซุ จำหน่ายได้ 14,230 คัน ส่วนแบ่งตลาด 30.5 % นี่เป็น 2 ยี่ห้อที่จำหน่ายได้เกินกว่า 10,000 คัน นอกนั้นว่าการกันไปตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักสิบ หลักหน่วย มิตซูบิชิ อยู่ในความนิยมเป็นอันดับที่ 3 จำหน่ายได้ 4,222 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 9.1 % อันดับที่ 4 เป็น มาซดา ด้วยยอด 3,025 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 6.5 % อันดับที่ 5 เชฟโรเลต์ 2,845 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.1 % ที่จำหน่ายได้น้อยที่สุดในตลาดนี้เป็น ฮันเด จำหน่ายได้ 1 คัน ว่าแต่ว่าใครเคยเห็นพิคอัพ ฮันเด ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ยกมือขึ้น ส่วนยอดรวมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ มียอดรวม 397,240 คัน ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2554 ถึง 43.6 % พิคอัพ โตโยตา ได้ส่วนแบ่งตลาด 37.8 % ยอดสะสมรวม 150,229 คัน อีซูซุ ยอดสะสมรวม 122,734 คันส่วนแบ่งตลาด 30.9 % มิตซูบิชิ 43,178 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.9 % เชฟโรเลต์ 26,167 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.6 % มาซดา 18,618 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7 %
ในส่วนของพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงจะเป็นตลาดเล็ก มีปริมาณการจำหน่ายไม่สูง แต่เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซนต์การเจริญเติบโตกับปี 2554 แล้ว ตลาดนี้มีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุด โดยที่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีตลาดนี้มียอดสะสมรวม 38,902 คัน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 ปรากฏว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 191.2 % และเป็น ฟอร์ด ที่สามารถแทรกตัวเข้ามาอยู่ในอันดับของพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้ โดยอยู่ในอันดับที่ 4 จากยอดจำหน่าย 1,453 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 3.7 % ส่วนอันดับ 1 โตโยตา กวาดยอดจำหน่ายไปแล้ว 21,308 คัน กินส่วนแบ่งตลาดถึง 54.8 % อันดับ 2 อีซูซุ 11,620 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 29.9 % อันดับ 3 เป็นของ เชฟโรเลต์ 1,779 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.6 % และอันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,367 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.5 % เฉพาะเดือนกันยายน ตลาดนี้มียอดจำหน่าย 3,724 คัน ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนกันยายน ปี 2554 ถึง 73.3 % ไล่จากอันดับ 1-5 ประกอบด้วย โตโยตา 1,982 คัน ส่วนแบ่งตลาด 53.2 % อีซูซุ 1,161 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.2 % ฟอร์ด 211 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 % เชฟโรเลต์ 139 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 % และมิตซูบิชิ 136 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 %
รถเอสยูวี เดือนกันยายนจบยอดจำหน่ายที่ 8,770 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 48.3 % ซีอาร์-วี ใหม่ของ ฮอนดา ยังอยู่ในช่วงออกสตาร์ทยังไม่หวือหวาต้องรอตัวเลขเดือนหน้าน่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน สำหรับเดือนกันยายน โตโยตา มียอดจำหน่ายที่ 3,210 คัน ส่วนแบ่งตลาด 36.6 % มิตซูบิชิ เป็นเบอร์ 2 ในตลาดนี้ หลังจากปีที่แล้วเคยขึ้นถึงเบอร์ 1 มาแล้ว ยอดจำหน่ายเดือนกันยายน 2,186 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.9 % เชฟโรเลต์ มาแรงจำหน่ายเป็นอันดับ 3 ด้วยยอด 1,910 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.8 % อันดับที่ 4 เป็นขาใหญ่เจ้าเก่าที่รอเวลาทวงความยิ่งใหญ่คืน 851 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.7 % และอันดับ 5 อีซูซุ 351 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.0 % รวม 9 เดือนผ่านไป ตลาดนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 65,970 คัน เติบโตขึ้น 54.1 %
รถเอมพีวี เดือนกันยายน มียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 2,103 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน ปี 2554 ถึง 71.8 % โตโยตา กวาดยอดจำหน่ายไป 1,415 คัน ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 67.3 % ฮอนดา ที่มี ฟรีด ใหม่ อยู่ในอันดับ 2 ขายได้ 531 คัน ส่วนแบ่งตลาด 25.2 % ปโรตอน มาแบบเงียบๆ อยู่ในอันดับ 3 ด้วยยอด 107 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.1 % ตามด้วย วูหลิง มังกรจีน และซูซูกิ ด้วยยอด 16 และ 14 คัน ส่วนแบ่งตลาด 0.8 และ 0.7 % ตามลำดับ รวม 9 เดือน 19,726 คัน สำหรับตลาดนี้ปรับตัวสูงขึ้น 95.9 % เกือบ 1 เท่าตัวในจำนวนนี้ 59.0 % เป็นยอดจำหน่ายของ โตโยตา 11,645 คัน ฮอนดา 6,370 คัน ส่วนแบ่งตลาด 32.3 % ปโรตอน 1,163 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % ซูซูกิ 155 คัน ซังยง 153 คัน ส่วนแบ่งตลาดเท่ากันที่ 0.8 %
เหลืออีก 3 เดือนจะปิดหีบยอดจำหน่ายปี 2555 แล้ว แต่ยังมีรถยนต์โมเดลใหม่ที่น่าสนใจแต่งตัวเตรียมออกสู่ตลาดหลายโมเดลอยู่ ส่วนมหาชนจะให้การต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมากน้อยเท่าไร และจะทำให้เป้าจำหน่ายของแต่ละยี่ห้อทะลุทะลวงดังหวังหรือไม่ อีกไม่นานมีคำตอบ
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/88551