มุมมองนักออกแบบ
เชฟโรเลต์ โวลท์
ยนตรกรรมปฏิวัติการใช้พลังงาน ด้วยระบบ RANGE EXTENDED คันแรกของโลก แม้วันนี้จะยังไม่มีแผนการทำตลาดในบ้านเรา แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคนไทยจะมีโอกาสได้จับจองเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าคันนี้อย่างแน่นอน และถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่โดนใจ "ฟอร์มูลา" อย่างจัง แต่นักออกแบบ จะมีมุมมองอย่างไร เชิญร่วมพิจารณา
อภิชาต : เชฟโรเลต์ โวลท์ ในความเห็นของผม ถือว่าตัวพโรดัคชันมีความใกล้เคียงกับตอนเป็นรถต้นแบบมาก แต่ถ้าจะพูดว่าเป็นคอนเซพท์ พโรดัคชัน 100 เปอร์เซนต์ มันก็เกินไป
ภัทรกิติ์ : ตัวขายจริงก็หน้าตาใกล้เคียงกันมาก ที่เขาทำตัวคอนเซพท์ได้เหมือนจริงก็เพราะตัวจริงมันเสร็จแล้ว เลยเอามายั่วน้ำลายผู้บริโภค
อภิชาต : มองจากภายนอก ผมรู้สึกดีกับความสวยงามของเส้นสายต่างๆ เส้นคัทลายเจ๋งมาก สามารถรักษามาตรฐานได้ใกล้เคียงกับตอนที่เป็นคอนเซพท์ แต่จุดหนึ่งที่มีความแตกต่าง คือ เส้นสายด้านหลัง (POSTERIOR) ผมแปลกใจทำไมเขาถึงต้องทำให้มันยาวไปขนาดนั้น พยายามลากไปต่อกับฝากระโปรงท้ายมากที่สุด ทำให้ไฟท้ายอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเดิม แต่คันนี้เป็นรถไฟฟ้า ถ้าทำให้มันดูวิ่งเร็วมากเกินไปก็ไม่ดี ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะชอบหรือเปล่า
ภัทรกิติ์ : แม้ผมจะไม่เคยเห็นตัวจริง แต่รู้สึกได้ถึงความเป็น เชฟวี ในทุกกระเบียดนิ้ว สัดส่วนที่ดูแข็งแกร่ง หนักแน่นมาก ทั้งๆ ที่เป็นรถไฟฟ้า ควรจะดูเบาๆ แต่คันนี้หนักแน่น ด้านข้างถือเป็นรถที่โฟคัสกับเรื่องแอร์โรไดนามิคเต็มที่ โดยเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ตั้งใจจะผลิตเป็นรถขายจริงลำดับต้นๆ ของโลก เหมือนเป็นรถต้นแบบให้รุ่นต่อไป ในเรื่องบุคลิก เครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอย่างเดียว ซึ่งเป็นวิถีแห่งอนาคตจริงๆ เชื่อว่าในอีก 10 ปี ผมว่าระบบนี้จะแพร่หลาย แต่เรื่องหน้าตา ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นรถไฟฟ้าอย่างชัดเจนนะ อันนี้เป็นปัญหาของรถสไตล์นี้เกือบทุกคัน เพราะรูปร่างมันเหมือนรถปัจจุบัน ทำให้คนไม่รู้สึกการมาถึงของรถไฟฟ้าที่ล้ำไปอีกขั้น
ฟอร์มูลา : ทั้งๆ ที่มันเป็นรถของวันหน้า ที่มาวันนี้
ภัทรกิติ์ : ใช่ครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันไม่รู้สึกอะไรเลย ในเรื่องของวัสดุ มันอาจจะมีอะไรลึกๆ แต่ไม่ได้บ่งบอกไว้ในตัวรถที่เรามองเห็น นั่นละคือ ปัญหา เมื่อรูปร่างไม่ได้บอกอะไร แล้วผู้คนจะรู้ได้อย่างไร เพราะคนจะมองแต่ข้างนอกว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไร อย่างแรก คือ กระจังหน้า ไม่มีแล้ว แต่เป็นสัดส่วนที่ดูดี สัดส่วน ก็ดูลงตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นรถแห่งอนาคตแต่อย่างใด
ฟอร์มูลา : ภายในห้องโดยสารเป็นอย่างไร
ภัทรกิติ์ : ห้องโดยสารก็เป็นแนวคอร์พอเรทของ เชฟวี เพียงแต่ตัดระบบที่เป็นกลไกออกไป เพื่อให้พื้นที่ดิสพเลย์ที่เป็นจอมากขึ้น เพื่อความประหยัด สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายลักษณะ บางยี่ห้อทำหน้าจอให้สามารถนำไอแพดมาเสียบได้ด้วย ซึ่งตรงนี้ผู้ผลิตต้องทำการบ้านอย่างหนัก ต้องตามระบบไอทีด้วยว่าไปถึงไหนแล้ว อย่ามัวแต่คิดว่า ภายในรถยนต์ 1 คัน ต้องมีอะไรเดิมๆ ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ อาจจะเป็นมากกว่าระบบสัมผัส แต่คันนี้จะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีระบบจ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพมากพอ แล้วเมืองไทยจะทำได้หรือ
ฟอร์มูลา : อย่างแรกเลย คือ ระบบไฟต้อง 3 เฟส ค่าใช้จ่ายก็จะไม่ใช่ไฟบ้านแล้วครับ
ภัทรกิติ์ : แต่ก็ถูกกว่าน้ำมันนะ ถือเป็นรถที่ทันสมัย มีขายจริงในปัจจุบัน แม้จะไม่ล้ำหน้ามากเท่าไร หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่าง คือ รถในปัจจุบันมันเชยมากแล้วนั่นเอง
อภิชาต : สำหรับภายในผมถือว่าไม่ผ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวมอนิเตอร์ที่ดูไม่ล้ำหน้าเท่าที่ควร เหมือนพยายามจะสร้างอะไรใหม่ขึ้นมา แต่เขาคงใช้เวลาน้อยเกินไป จุดหนึ่งที่เห็นความแปลก คือ บริเวณสโตรคเส้นคล้ายกับที่เคยใช้อยู่ในรถโวลโว ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่ได้รับการวิจารณ์จากนักออกแบบ เพราะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เท่าที่ควร เลยทำให้ดีไซจ์นดูขัดๆ แปลกๆ ถามว่า การตกแต่งภายในแตกต่างจากเจ้าอื่นไหม ก็แตกต่าง แต่ติดตรงเรื่อง คัลเลอร์ แอนด์ ทริม นั้นแหละครับ
ฟอร์มูลา : คนที่เคยทดลองขับบอกว่าภายในห้องโดยสารค่อนข้างร้อน เนื่องจากพื้นที่กระจกมาก ส่วนนี้เขาให้เหตุผลว่า เพื่อลดการทำงานของฮีเตอร์ ช่วยประหยัดพลังงาน
ภัทรกิติ์ : ถูกของเขา แต่คงไม่ได้หมายถึงประเทศในเขตร้อนแบบบ้านเรา รถคันนี้เป็น รถไฟฟ้าแห่งอนาคต แม้ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร แต่มันคือ ความคุ้มค่าที่ต้องลองสักครั้ง
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ