X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
1 Dec 2012
ตรวจเชครถ ก่อนเดินทางไกล
ธันวาคม เดือนแห่งเทศกาลวันหยุดยาวปลายปี หลายคนเริ่มวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัด บ้างก็กลับถิ่นฐานบ้านเก่า และแน่นอนที่สุด พาหนะเดินทางต้องเป็นรถยนต์ส่วนตัว เพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีความสุข คุณก็ต้องตรวจเชคความพร้อมของรถกันเสียก่อน 4 WHEELS ฉบับนี้ จึงขอเสนอวิธีตรวจเชครถเบี้องต้นด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ ดังนี้
ตรวจเชคภายนอกรถ
ยาง...ตรวจเชคสภาพของดอกยาง ความดันลมยาง และนอทล้อ ตรวจดูว่าขันแน่นดีหรือไม่
ร่องรอยน้ำมันรั่ว...ก้มดูใต้ท้องรถ บริเวณใต้ห้องเครื่องว่ามีร่องรอยน้ำมันรั่วซึมหรือไม่
ไฟส่องสว่าง...ตรวจเชคไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว หรือไฟอื่นๆ รวมถึงระดับไฟหน้า ว่าเป็นปกติหรือไม่
ยางปัดน้ำฝน...ทดลองปัดดู ถ้าเห็นว่าเป็นเส้นๆ ปัดไม่สะอาด ให้เปลี่ยนใหม่ทันที
ตรวจเชคภายในรถ
ยางอะไหล่ และแม่แรง...ตรวจเชคลมยางอะไหล่ให้พร้อม และต้องแน่ใจว่า แม่แรง และด้ามขัน ใช้งานได้ปกติ
แตร...ลองกดดู ต้องมีเสียงดังเป็นปกติ
แผงควบคุม และอุปกรณ์...ตรวจเชคสวิทช์ไฟเลี้ยว สวิทช์ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ให้แน่ใจว่าสามารถทำงานได้ปกติ
ฟิวส์...ตรวจเชคฟิวส์ต่างๆ รวมถึงฟิวส์สำรอง ต้องมีขนาดค่ากระแสตามกำหนดที่แผงฟิวส์
ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า
ระดับน้ำหล่อเย็น...ตรวจดูบริเวณหม้อพักสำรอง ควรมีน้ำอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพัก
กรองอากาศ...ตรวจเชคกรองอากาศให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ถ้าสกปรกมากให้เปลี่ยน ถ้ายังพอใช้ได้ให้เป่า
แบทเตอรี...ตรวจเชคระดับน้ำกลั่น ให้อยู่ในค่าที่กำหนด (ดูได้จากเส้นวัดข้างตัวแบทเตอรี) รวมถึงขั้วต่อแบทเตอรีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้
หม้อน้ำ และท่อยาง...ตรวจดูบริเวณหน้าหม้อน้ำ ไม่ให้มีสิ่งใดมาขวางหน้าหม้อน้ำ และตรวจดูท่อยางว่าอยู่ในสภาพดี และแน่นหรือไม่
สายพานต่างๆ...ต้องไม่มีรอยแตกลายงา และเลอะน้ำมันหล่อลื่น ความตึงของสายพานต้องตึงกำลังดี ไม่มีเสียงดัง
ระดับน้ำมันต่างๆ...ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรค คลัทช์ และน้ำมันเพาเวอร์ อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ระดับน้ำมันเครื่อง...ตรวจเชคเมื่อเครื่องเริ่มเย็นแล้ว ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่าง F กับ L (ควรเติมให้ถึง F จะดีที่สุด)
ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง...ตรวจดูว่าท่อน้ำมันว่ามีรอยแตกลายงา เปื่อย และแน่นพอหรือไม่
ความดันลมยางที่เหมาะสม ควรเติมเท่าใด ?
ความดันลมยาง ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการเดินทางไกล การเติมแรงดันลมยางให้ได้ระดับที่เหมาะสมนั้น ต้องนำค่าต่างๆ จากน้ำหนัก ความเร็ว และขนาดวงล้อคันนั้นๆ มาคำนวณ แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะรถทุกคัน ทางบริษัทผู้ผลิต จะมีตัวเลขบอกความดันที่เหมาะสมมาให้อยู่แล้ว (ส่วนใหญ่จะติดไว้บริเวณประตูด้านคนขับ) การเลือกเติมลมยางให้เหมาะสม จะทำให้รถมีเสถียรภาพ มีความนุ่มนวล และเกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่หากเดินทางไกล และใช้ความเร็วสูง อาจเติมลมมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์ ก็จะช่วยลดการบิดตัวของโครงยาง ทำให้เกิดความร้อนน้อยลง ความดันลมยางของรถเก๋ง อยู่ประมาณ 28-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ส่วนรถพิคอัพ อยู่ประมาณ 35-40 ปอนด์/ตารางนิ้ว (การขับขี่ทั่วไปไม่บรรทุกหนัก)
อุปกรณ์
1. เครื่องวัดลมยาง 2. ถุงมือ 3. กระดาษทิชชู
ขั้นตอนการตรวจเชคเบี้องต้น
1. เชคสภาพของดอกยาง ความดันลมยาง รวมถึงนอทล้อ ว่าขันแน่นดีหรือไม่ 2. ก้มดูใต้ท้องรถ บริเวณใต้ห้องเครื่อง ว่ามีร่องรอยน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ 3. เชคไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว หรือไฟอื่นๆ ว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่ 4. เชคใบปัดน้ำฝน ถ้าเห็นว่าเป็นเส้นๆ ปัดไม่สะอาด ให้เปลี่ยนใหม่ทันที 5. เชคลมยางของล้ออะไหล่ รวมถึงแม่แรง ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือไม่ 6. เชคสวิทช์ควบคุมต่างๆ เช่น ไฟเลี้ยว สวิทช์ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ให้แน่ใจว่าสามารถทำงานได้ปกติ 7. เชคระดับน้ำหล่อเย็นบริเวณหม้อพักสำรอง ควรมีน้ำอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพัก 8. เชคกรองอากาศให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ถ้าสกปรกมากให้เปลี่ยน ถ้ายังพอใช้ได้ให้เป่า 9. เชคระดับน้ำกลั่น ให้อยู่ในค่าที่กำหนด (ดูได้จากเส้นวัดข้างตัวแบทเตอรี) รวมถึงขั้วต่อแบทเตอรีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ 10. เชคระดับน้ำมันต่างๆ เช่น เบรค คลัทช์ และน้ำมันเพาเวอร์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 11. เชคระดับน้ำมันเครื่อง (ตอนเครื่องเย็นแล้ว) ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่าง F กับ L (ควรเติมให้ถึง F จะดีที่สุด) 12. เชคสายพานต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตกลายงา และเลอะน้ำมันหล่อลื่น ความตึงของสายพานต้องตึงกำลังดี ไม่มีเสียงดัง
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/88098
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
DIY...คุณทำเองได้
17 Apr 2022
เติมน้ำยาแอร์ ทำเองได้ ไม่จำกัดฤดู
DIY...คุณทำเองได้
17 Dec 2021
เปลี่ยน แบทเตอรี ด้วยวิธีติดเครื่องยนต์