เผยโฉม มาซดา 6 รุ่นใหม่

รัสเซีย/ญี่ปุ่น-ยักษ์เล็ก มาซดา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน (MAZDA MOTOR CORPORATION) ใช้งานมหกรรมยานยนต์มอสโกในรัสเซียเป็นที่เปิดตัวรถ มาซดา 6 (MAZDA 6) รุ่นใหม่ในตัวถังซีดาน และใช้งานมหกรรมยานยนต์ปารีสในฝรั่งเศสเป็นที่เปิดตัวรถอนุกรมเดียวกันในตัวถังตรวจการณ์ ทั้ง 2 ตัวถังจะออกจำหน่ายในยุโรปและญี่ปุ่นก่อนสิ้นปี 2012 โดยใช้โรงงานที่เมืองโฮฟู (HOFU) ในเกาะญี่ปุ่นเป็นที่ผลิต มาซดา 6 (MAZDA 6) รุ่นล่าสุด นับเป็นผลงานชิ้นที่สองของยักษ์เล็กเมืองยุ่น ที่ผสมผสานเทคโนโลยีการลดน้ำหนักและประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งค่ายนี้ตั้งชื่อว่า SKYACTIV TECHNOLOGY เข้ากับแนวทางการออกแบบตัวถังที่มีเป็นภาษาอังกฤษผสมญี่ปุ่นว่า KODO-SOUL OF MOTION หรือ "จิตวิญญาณของการเคลื่อนไหว" ตัวถังของรถซีดานซึ่งยาว 4.865 ม. กว้าง 1.840 ม. สูง 1.450 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.26 มีช่วงยื่นหน้าและยื่นหลังที่ค่อนข้างสั้น และมีช่วงฐานล้อที่ยาวถึง 2.830 ม. คือ ยาวกว่ารถรุ่นเดิมถึง 10.5 ซม. ผลลัพธ์ คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวางและยืดแข้งยืดขาได้สบายกว่ารถรุ่นเดิมอย่างรู้สึกได้ชัด มีพื้นที่สำหรับวางเข่าซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า KNEE ROOM กว้างขึ้นถึง 4.3 ซม. ขณะเดียวกันความกว้างของห้องโดยสารก็เพิ่มขึ้นถึง 2.0 ซม. ในญี่ปุ่นทั้งตัวถังซีดานและตัวถังตรวจการณ์จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า กับเครื่องเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 2,488 ซีซี 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า และมีระบบเกียร์รวม 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนในยุโรปซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถเก๋งติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องดีเซลที่จะเสนอให้ลูกค้าเลือกใช้เป็นเครื่องเทอร์โบฉีดตรง 2.2 ลิตร 148 แรงม้า ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ มีอัตราส่วนกำลังอัดค่อนข้างต่ำกว่าปกติ คือ 14:1 มีค่าไอเสียตามเกณฑ์ของมาตรฐาน EURO 6 ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2013 และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่น่าพอใจมาก คือ แค่ 105 กรัม/กม. ยักษ์เล็กเมืองยุ่นบรรจุรถเก๋งขนาดกลางติดป้ายชื่อ มาซดา 6 เข้าสู่สายการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2002 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2008 รถสองรุ่นนี้ติดป้ายชื่อ มาซดา อเทนซา (MAZDA ATENZA) เมื่อจำหน่ายในญี่ปุ่น ส่วนรถรุ่นที่ 3 ซึ่งมีกำหนดออกจำหน่ายก่อนสิ้นปี 2012 ได้เริ่มการผลิตที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮฟู (HOFU) ในจังหวัดยามากูชิ (YAMAGUCHI) ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2012 โดยตั้งเป้าหมายการผลิตไว้ที่ระดับ 120,000 คัน/ปี รถคันแรกที่หลุดจากสายการผลิต เป็นรถตรวจการณ์ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง 2.0 ลิตร ที่ผลิตเพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดยุโรป