รถยุ่นที่ซื้อไม่ได้ในเมืองยุ่น

ผลงานอีกชิ้นหนึ่งของยักษ์ใหญ่ โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ ไม่ใช่รถไฮบริดติดโลโก "สามห่วง" ของ โตโยตา แต่ใช้โลโก "วงกลมล้อมอักษร L" อันเป็นสัญลักษณ์ของ เลกซัส (LEXUS) รถระดับพรีเมียมที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นเริ่มผลิตเมื่อปี 1989 โดยมีอเมริกาเหนือเป็นตลาดเป้าหมาย ปัจจุบันมีรถเก๋งอยู่รวม 7 อนุกรม ที่ออกขายโดยติดป้ายชื่อ LEXUS คือ LEXUS CT-LEXUS HS-LEXUS IS-LEXUS ES-LEXUS GS-LEXUS LS-LEXUS LFA ทุกอนุกรมเป็นรถผลิตในญี่ปุ่นไม่มีการผลิตในที่อื่น และมีอยู่เพียงอนุกรมเดียวเท่านั้นที่เป็นรถผลิตในญี่ปุ่นแต่ไม่เคยมีขายในญี่ปุ่น คือ LEXUS ES รถเก๋งระดับหรูขนาดกลาง ที่ใช้พแลทฟอร์มชุดเดียวกับรถ โตโยตา แคมรี (TOYOTA CAMRY) ยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นบรรจุรถ เลกซัส อีเอส (LEXUS ES) เข้าสู่สายการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1989 และเปลี่ยนรุ่นรถอนุกรมนี้ไปแล้วรวม 4 ครั้ง เมื่อปี 1991 1996 2001 และ 2006 จนกระทั่งที่งานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์คครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง รถรุ่นที่ 6 จึงปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก เป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง และเป็นครั้งแรกในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษ ที่รถหรูอนุกรมนี้มีรถที่ขับเคลื่อนแบบไฮบริดให้เลือกใช้ด้วย เพราะยักษ์ใหญ่เมืองยุ่นประกาศยืนยันในงานว่า รถรุ่นใหม่นี้จะออกสู่โชว์รูมทั่วเมืองมะกันในฐานะรถรุ่นปี 2013 โดยมีรถให้เลือก 2 โมเดล คือ เลกซัส อีเอส 350 (LEXUS ES350) กับ เลกซัส อีเอส 300 เอช ไฮบริด (LEXUS ES300H HYBRID) เลกซัส อีเอส 300 เอช ไฮบริด ในตัวถังยาว 4.895 ม. กว้าง 1.820 ม. และสูง 1.450 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.27 จะออกจำหน่ายในเมืองมะกัน โดยติดป้ายค่าตัว MSRP เริ่มต้นที่ 38,850 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือเท่ากับประมาณ 1.24 ล้านบาทไทย และจะมีสีตัวถังให้เลือกรวม 9 สี คือ สีเงิน SILVER LINING METALLIC สีขาว STARFIRE PEARL สีเทาเข้ม NEBULA GRAY PEARL สีน้ำตาล FORE AGATE PEARL สีดำ OBSIDIAN สีแดงเข้ม MATADOR RED MICA สีทอง SATIN CASHMERE METALLIC สีน้ำเงิน DEEP SEA MICA และสีฟ้า CERULEAN BLUE METALLIC อ่าน SPECIFICATION หรือข้อมูลจำเพาะอย่างละเอียดแล้วก็ไม่รู้สึกประหลาดใจอันใด เมื่อพบว่าระบบขับไฮบริดที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นนำมาใช้ในรถรุ่นนี้ ไม่ใช่ระบบที่พัฒนาขึ้นใหม่ แต่ยกมาทั้งกระบิจากรถ โตโยตา แคมรี ไฮบริด (TOYOTA CAMRY HYBRID) ที่คนรักรถในบ้านเราคงคุ้นเคยกันดี เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบเรียง 2,493 ซีซี 116 กิโลวัตต์/156 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ 2AR-FXE) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า PERMANENT MAGNET AC SYNCHRONOUS MOTOR ขนาด 105 กิโลวัตต์/140 แรงม้า ได้กำลังรวมสูงสุด 150 กิโลวัตต์/200 แรงม้า และส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่องควบคุมการทำงานด้วยระบบอีเลคทรอนิค (ECVT) ส่วนแบทเตอรีที่ใช้ เป็นแบทเตอรีนิคเคิล-เมทัลไฮดไรด์ (NICKEL-METAL HYDRIDE) ขนาด 244.8 โวลท์ 6.5 แอมพ์ชั่วโมง เป็นระบบขับไฮบริดที่ผู้ขับสามารถเลือกการทำงานได้ 4 แบบ คือ NORMAL SPORT ECO EV ตามตัวเลขของผู้ผลิต รถไฮบริดสุดหรูแบบนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลา 8.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.0 กม./ลิตร เมื่อขับในเมือง และเปลี่ยนไปนิดเดียว คือ 16.6 กม./ลิตรเมื่อขับบนทางหลวง ตัวเลขนี้วัดตามมาตรฐานของ EPA หรือ องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา รถยุ่นที่ซื้อไม่ได้ในเมืองยุ่นหมายเลขสอง