ชีวิตอิสระ(4wheels)
คาราวาน อีซูซุ ประหยัดน้ำมัน
"ชีวิตอิสระ" ฉบับนี้ พาผู้อ่านท่องเที่ยวไปในสาธารณรัฐประชาชนจีน กับกิจกรรม คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน "อีซูซุ อินไซจ์ท์ น้ำมันถังเดียวเที่ยว 3 มณฑล" ระยะทาง 1,230 กม. เส้นทาง ยูนนาน-กุ้ยโจว-เสฉวน ตระการตากับทัศนียภาพแห่งธรรมชาติ และเต็มอิ่มกับสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานกับทริพ คาราวานประหยัดน้ำมันกับ อีซูซุ ระยะทางกว่า 1,200 กม. ผ่าน 3 มณฑล ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ยูนนาน กุ้ยโจว และเสฉวน ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง รถยนต์ในรายการนี้เป็นรถกระบะ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ทุกรุ่น จำนวน 8 คัน ประกอบด้วย ไฮ-แลนเดอร์ 2 และ 4 ประตู, วี-ครอสส์ 2 และ 4 ประตู, สเปศแคบ และสปาร์ค เครื่องยนต์ซูเพอร์คอมมอนเรล ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขนาด 2.5 และ 3.0 ลิตร ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ โดยผู้ขับใช้รถตัวจริงจากสมาชิกของ "ISUZU DRIVING CLUB" ที่คัดเลือกมาจากทั่วประเทศ
กติกาสากล
โปร่งใสไร้คำครหา
การแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากเป็นการบันทึกสถิติของความประหยัด ยังเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์ ซึ่งใช้กฎกติกาสากล คือ เปิดแอร์ตลอดการเดินทาง และใช้งานบนสภาพเส้นทางจริงในสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่การจราจรติดขัด และแออัดยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก
กติกาที่ใช้นอกจากที่กล่าวไว้ ยังมีการการันตีความโปร่งใส ด้วยสติคเกอร์ที่ติดบริเวณฝาถังน้ำมัน ฝากระโปรงหน้ารถ และที่สวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร ที่มีลายเซ็นของอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และของคณะสื่อมวลชนที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งมีข้อบังคับว่า จากจุดเริ่มต้น จนถึงเส้นชัย ห้ามมีการแกะออก หรือมีร่องรอยใดๆ ปรากฏทั้งสิ้น
"อีซูซุ อินไซจ์ท์"
ประเมินผลการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
งานนี้ทีมช่างจากบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เดินทางเข้าสมทบ เพื่อช่วยเหลือในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง และรถที่ใช้ในการแข่งขันทุกคัน ได้บรรจุเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ชื่อว่า "อีซูซุ อินไซจ์ท์" จะทำหน้าที่บันทึก และประเมินผลพฤติกรรมการขับขี่ของนักขับแต่ละท่าน เพื่อวิเคราะห์วิธีการใช้งานรถแต่ละคัน ในเรื่องของความเร็ว และอัตราสิ้นเปลือง การใช้รอบเดินเบา การใช้เบรค และการเหยียบคันเร่ง โดยประมวลผลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่นำไปจากประเทศไทย ซึ่งติดตั้งไว้ในรถเซอร์วิศ จะได้มีการปรับปรุงการขับขี่ เพื่อความประหยัด
คุนหมิง-ตงจื้อ ระยะทาง 701.5 กม.
เผชิญอุปสรรคหลากหลายรูปแบบ
เริ่มต้นการเดินทางจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ปลายทางสำหรับวันแรกอยู่ที่ เมืองตงจื้อ มณฑลกุ้ยโจว ระยะทาง 701.5 กม. เทียบได้กับการขับรถจากกรุงเทพ ฯ-เชียงใหม่ ใช้เวลาการขับขี่ประมาณ 7-8 ชม. แต่ตัวแปรที่สำคัญมีมากมาย อย่างเช่น อุบัติเหตุของผู้ใช้รถใช้ถนนชาวจีน และพื้นผิวถนนที่ปิดซ่อมแซม รวมถึงอุปสรรคที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ ฝนฟ้าคะนอง ซึ่งทำให้เสียเวลาในการเดินทางไปมาก
ออกสตาร์ทกันตั้งแต่เช้ามืด กว่าจะถึงปลายทางก็พลบค่ำพอดี ใช้เวลาเดินทางไปกว่า 10 ชม. ซึ่งรถทั้ง 8 คัน ก็สามารถมาถึงที่หมายปลายทางด้วยความปลอดภัย
ตงจื้อ-เฉินตู ระยะทาง 532.2 กม.
ทัศนียภาพเพลินตา แต่จราจรแออัด
เส้นทางอีก 532.2 กม. ที่ต้องพิชิต ดูแล้วก็ชิลล์ๆ เหลือระยะทางเพียงไม่เท่าไร ออกเดินทางกันแต่เช้า บ่ายๆ ก็น่าจะถึง สองข้างทางสวยงาม บวกกับวิวทิวทัศน์ และการวางผังเมืองของรัฐบาลจีน ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะถนนหลวงที่ใช้ในชนบท สามารถสัมผัสและมองเห็นกลิ่นอายหมอก พร้อมขุนเขาที่สูงใหญ่ อาเฮียก็ขุดอุโมงค์ทะลุ แทบจะไม่เห็นถนนที่ต้องตัดลัดเลาะขอบเขาสักเท่าไรนัก อุโมงค์บางแห่งมีความยาวหลายสิบกิโลเมตร ทำให้ผมมองย้อนกลับมาว่า ทำไมบ้านเราไม่เอาแนวคิดอย่างนี้มาพัฒนาบ้าง การวางผังเมือง ก็ดูดี เพราะมีบ้านพักอาศัยบริเวณที่ราบแอ่งกระทะ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ งดงามไปอีกแบบ
ดูเหมือนว่าการเดินทางของวันสุดท้ายจะสะดวกสบาย แต่กว่าจะหลุดพ้นการจราจรที่หนาแน่นตามจำนวนประชากรที่แออัดของเมืองเฉินตู ทำให้ขบวนรถแข่ง และชาวคณะ มาถึงปลายทางก็เกือบพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ณ พิพิธภัณฑ์เสฉวน มีการต้อนรับอย่างเอิกเกริก และยิ่งใหญ่ ซึ่งรถแข่งทั้ง 8 คัน ก็สามารถขับเข้าเส้นชัย โดยใช้น้ำมันเพียง 1 ถัง ตามวัตถุประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้
[table]
ข้อบังคับให้ใช้น้ำมันเพียง 1 ถัง กับระยะทางกว่า 1,200 กม. รถยนต์ อีซูซุ สามารถทำได้สบายๆ แถมยังมีน้ำมันในถังเหลืออีกมาก โดยรถแข่งทั้ง 8 คัน สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตลอดการเดินทางไปเพียง 40 กว่าลิตร
[/table]
เที่ยว "ถนนคนเดิน"
แหล่งชอพพิงของชาวจีนสมัยใหม่
หลังจากเสร็จภารกิจสำคัญ ยังพอมีเวลาเหลือให้เพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวอีกเพียบในเมืองเฉินตู เริ่มต้นกันด้วย "ถนนคนเดิน" ที่นี่เป็นแหล่งชอพพิงของวัยรุ่นหนุ่ม-สาวชาวจีนอย่างแท้จริง ผู้คนเรือนหมื่นเดินปะปนอยู่บนถนนสายนี้ ท่ามกลางตึกใหญ่ อาคารสูงมากมาย
ร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ก็ถูกจัดระเบียบให้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ รวมถึง เสื้อผ้าบแรนด์เนมหลากหลาย เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้ากีฬา และยังมีลานแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย ให้นักเดินทางอย่างผมได้ผ่อนคลายจากการเดินทางกว่า 1,200 กม.
ชมศาลเจ้า "สามก๊ก"
หลุมฝังศพของ เล่าปี่
"สามก๊ก" วรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นเหตุจูงใจให้นักเดินทางทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ แวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย นอกจากศาลเจ้ากวนอู และศาลเจ้าขงเบ้ง สถานที่แห่งนี้ ยังมีรูปปั้นตัวละคร และบรรดาขุนศึกต่างๆ ตั้งตระหง่านอยู่ทั่วบริเวณ และยังมีร้านขายของที่ระลึกอีกเพียบ
เค้าโครงของเรื่องจริงที่ยังมีหลงเหลือให้เห็น คือ หลุมฝังศพของ เล่าปี่ ขุนพลเอก ที่อยู่ด้านในและเป็นสถานที่ต้องห้าม ผู้ที่สามารถเข้าไปได้ คือ คนใหญ่คนโตในคณะรัฐบาล หรือ ลูกหลาน "แซ่เล่า" ที่วนเวียนมาเคารพสักการะกันตลอดทั้งปี
เยี่ยมญาติ หลินปิง
ณ ศูนย์เพาะพันธุ์หมีแพนด้า
ก่อนเดินทางกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ยังมีสถานที่อีกหนึ่งแห่ง ปิดทริพ ณ เมืองเสฉวน นั่นคือ ศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงหมีแพนด้า ที่กว้างขวาง มีหมีแพนด้าอาศัยอยู่หลายตัว เจอหน้ากันแบบตัวเป็นๆ ตาต่อตา ไม่ต้องดูผ่านกล้องซีซีทีวี แบบบ้านเรา ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็ไม่เคยได้ดูผ่านเคเบิลที่มีช่องทางเฉพาะ หรือเสียเงินซื้อตั๋วเขาไปดูในสวนสัตว์ แต่ดูไปดูมา มันก็น่ารักและขี้เล่นดีเหมือนกัน แต่กลิ่นตัวแรงไปนิด
นอกจากหมีแพนด้าแล้ว ยังมีแพนด้าแดง ซึ่งมีลักษณะเดียวกับแรคคูน สัตว์กลิ่นตัวแรงของประเทศแถบตะวันตก แต่ต่างกันที่สีของลำตัว ซึ่งเป็นสีน้ำตาลแดง แพนด้าแดงที่นี่อาศัยอยู่กันหลายชีวิต ซุกซนพอๆ กับญาติสนิทของหลินปิง แต่ตัวเล็กกว่ากันเยอะ
ทริพนี้เป็นอีกครั้งที่ผมเดินทางไปยังเมืองจีน ซึ่งต่างจากครั้งก่อนพอสมควร กาลเวลาที่เปลี่ยนไป ทำให้วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของประชากรที่นี่ดูต่างไปจากเดิมมาก เริ่มมีความศิวิไลซ์ และแสงสี ตามยุคสมัย สมกับเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชียของโลกใบนี้
รวมถึงการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในเมืองไทย ที่ อีซูซุ ได้จัดทริพคาราวานประหยัดน้ำมัน ซึ่งผลออกมาน่าทึ่งเป็นอย่างมากกับตัวเลขความสิ้นเปลืองที่ผู้ใช้จริงทำได้ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ธรรมดา
ขอขอบคุณ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สำหรับการเดินทางต่างแดนในครั้งนี้
เรื่องโดย : ณัฐเทพ เผ่าจินดา
ภาพโดย : ณัฐเทพ เผ่าจินดา/บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/87776