นิสสัน เซเรนา เอส-ไฮบริด

หลังจาก นิสสัน เปิดตัว เซเรนา เอมพีวี 8 ที่นั่ง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 147 แรงม้า มาได้ประมาณปีครึ่ง และสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับหนึ่งในประเภทมีนีแวน (ประเทศญี่ปุ่น) ก็มีการวางเกรดใหม่ "เซเรนา เอส-ไฮบริด" (SERENA S-HYBRID) เพิ่มในซีรีส์ของ เซเรนา เพื่อบ่งบอกความหมายของ "SMART & SIMPLE HYBRID" หรือไฮบริดที่เรียบง่ายและชาญฉลาด นั่นหมายถึง มันคงไม่ใช่แค่ไฮบริดธรรมดาๆ แล้วถ้าจะถามว่าอะไรล่ะที่ชาญฉลาดและเรียบง่าย ? โดยสรุปก็คือ ระบบที่แสนจะเรียบง่ายจากการนำเอากำลังส่งของอีโคมอเตอร์ ที่ใช้ในระบบไอดลิง สตอพ (IDLING STOP) ซึ่งมีการบรรจุมาตั้งแต่ตอนเปิดตัว และมีการเพิ่มสมรรถนะในการฟื้นฟูพลังงาน มาใช้เป็นตัวช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อนด้วยนั่นเอง อีโคมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อผ่านสายพานกับเพลาข้อเหวี่ยง จึงสามารถเดินเครื่องได้รวดเร็วและเงียบกว่าการใช้เซลล์ นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นไดชาร์จ (ALTERNATOR) ที่ทำการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าในการลดความเร็วอีกด้วย และไม่ใช้พลังงานเป็นพลังขับเคลื่อน มันจึงเป็นระบบง่ายๆ แม้เมื่อใช้เป็นระบบ ไฮบริด พลังขับของมอเตอร์ไม่มากนัก โดยกำลังสูงสุด 2.4 แรงม้า หรือประมาณ 1.8 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 5.5 กก.-ม. (53.6 นิวตัน-ม.) และเนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่สามารถฟื้นฟูมาได้มีปริมาณไม่มากนัก ดังนั้น นิสสัน จึงเพิ่มแบทเตอรีแบบตะกั่วเป็นตัวเสริมอีก 1 ลูกเท่านั้น จุดนี้น่าจะทำให้ระบบทั้งมวลรวมอยู่ในห้องเครื่องได้ การวางระบบไฮบริดเข้าไปในห้องเครื่องยนต์เพียงจุดเดียวมันก็ไม่ง่าย ทั้งนี้ นิสสัน ต้องพยายามจัดสรรพื้นที่โดยขยับคอนทโรลยูนิทของซีวีที ไปอยู่ด้านหน้าฝั่งล้อหน้าซ้าย เป็นต้น ขยับที่นั่งตรงกลางไปจนถึงแถวที่ 1 และเลื่อนที่นั่งแถวที่ 2 ไปทางซ้าย/ขวา ผลจากการนำเอาระบบไฮบริดเข้ามา ทำให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงในโหมด JC08 เพิ่มขึ้นจาก 14.6 กม./ลิตร เป็น 15.2 กม./ลิตร ค่านี้ทำให้มันพลิกกลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของคลาสส์แทนค่า 15.0 กม./ลิตรของ ฮอนดา สเตพ แวกอน ที่มีการปรับปรุงซีวีทีกับบรรจุระบบไอดลิง สตอพ และไล่จี้ เซเรนา มาเมื่อฤดูใบไม้ผลิ ยิ่งกว่านั้น ในฐานะที่นับเป็นรถยุคใหม่ มันยังได้รับการยกเว้นภาษีจากการครอบครองรถ รวมทั้งภาษีตามน้ำหนักรถอีกด้วย อย่างไรก็ดี แม้ เอส-ไฮบริด จะเข้ามาแทนรถที่บรรจุระบบไอดลิง สตอพ ในยุคก่อน แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว มันมีราคาเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 20,000 บาท และนั่นเกือบจะหักกลบลบส่วนยกเว้นภาษีไปหมด แต่มันก็เป็นชัยชนะของฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง