X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค(car)
1 Aug 2012
ปรับปรุงระบบไฟ
ในฉบับนี้ลงข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคปรับปรุงระบบไฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบเสียงติดรถยนต์ มีรายละเอียดอย่างไรมาติดตามกัน การเลือกขนาดสายไฟให้กับระบบเสียงภายในรถยนต์เป็นหัวใจหลัก เพื่อเค้นคุณภาพเครื่องเสียงให้สำแดงอิทธิฤทธิ์ออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันระบบเสียงรถยนต์แบบ SPL (ความดังเสียง) หรือ SQ (คุณภาพเสียง) และเสียงดัง แถมไพเราะอีกต่างหาก (ESQL) ทุกสิ่งที่กล่าวมาต่างให้ความสำคัญในเรื่องระบบไฟทั้งสิ้น ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ 2 ประเภทคือ แบทเตอรี และอัลเทอร์เนเตอร์ (บางครั้งเรียกไดชาร์จ) ซึ่งแรงดันไฟฟ้ารถยนต์ปกติ จะมีแรงเคลื่อนคงที่ 12 โวลท์ DC และในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน แรงเคลื่อนไฟฟ้าของแบทเตอรีอาจอยู่ที่ 13..8-14.5 โวลท์ DC
เพิ่มประสิทธิภาพระบบไฟ
ส่วนการปรับปรุงระบบไฟฟ้าจะมีอยู่ 3 วิธี คือ การเบิลอัลเทอร์เนเตอร์เพิ่มเข้าไป หรือเพิ่มแบทเตอรีทุกๆ การขยาย 500 วัตต์ และสุดท้ายติดคาพาซิเตอร์ สำหรับการเพิ่มคาพาซิเตอร์ มีคำแนะนำคร่าวๆ ดังนี้ ถ้าระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ มีกำลังวัตต์โดยรวม 1,000 วัตต์ แนะนำให้ติดคาพาซิเตอร์ขนาด 1,000,000 ไมโครฟารัด (1 ฟารัด) ต่อชุดเครื่องเสียง 1,000 วัตต์
หน่วยของสายไฟ
การเลือกสายไฟให้เหมาะสมกับระบบเสียงติดรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสายไฟที่ได้มาตรฐาน และมีขนาดที่เหมาะสมกับระบบเครื่องเสียงรถยนต์ สามารถช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้ อย่างเช่น ความร้อนภายในสายไฟ ซึ่งทำให้ฉนวนละลาย และติดไฟได้ ซึ่งสายไฟมาตรฐานจะมีขนาดเป็น AWG (AMERICAN WIRE GAUGE) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า เกจ (GAUGE) ถ้าจะติดตั้งระบบสายไฟชุดใหม่ แต่ไม่ทราบว่าควรจะใช้ขนาดเท่าไร แนะนำให้ดูจากคู่มือสินค้านั้นๆ เช่น สายไฟ และสายกราวน์ดขนาด 10 GAUGE ให้ใช้ขนาดเดียวกัน หรือขนาดใหญ่กว่าได้ และไม่ควรจะใช้เบอร์ที่เล็กกว่า และสายกราวน์ดของเพาเวอร์แอมพ์ที่จะต่อกับตัวถังรถยนต์ไม่ควรยาวเกิน 3 ฟุต
วิธีหาขนาดสายไฟ
การใช้สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีขนาดไม่เหมาะสม สามารถทำให้เกิดปัญหากับระบบเสียง เช่น เสียงร้องถูกบีบ เสียงดนตรีขาดความชัดเจน รายละเอียดดนตรีไม่ระยิบระยับ หรือเสียงเบสส์ไม่กระชับ และหนักแน่น ส่วนวิธีหาสายไฟที่เหมาะสม สามารถคำนวนได้จากสูตร AMPS (กระแส) เท่ากับ TOTAL POWERx2 และหารด้วย VDC ตัวอย่าง เพาเวอร์แอมพ์ CLASS D ขนาด 1,000 วัตต์x2 และหาร 13 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 153.84 สำหรับความยาวสายไฟ สามารถเทียบได้จากตาราง ถ้าต้องการสายไฟยาว 15 ฟุต เมื่อดูภาพประกอบ ในตารางระบุ AMPERAGE 20, 30, 40, 50, 60, 75, 100, 150, 200, 500 และ 750 ให้นำผลลัพธ์ 153.84 ไปเทียบ AMPERAGE ที่ค่าใกล้เคียงที่สุด คือ 150 ให้ใช้ขนาด 3 GAUGE ส่วนเพาเวอร์แอมพ์แบบ CLASS AB ให้ใช้สูตรเดียวกัน
สรุป
การปรับปรุงระบบไฟ จุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบเสียง จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่ง เนื่องจากระบบไฟเป็นหัวใจหลักอีกประการหนึ่งของระบบเสียงภายในรถยนต์ การเค้นคุณภาพเครื่องเสียงให้สำแดงฤทธิ์ออกมาได้อย่างเต็มที่
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : อิมพอเตอร์
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/87341
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิค(car)
เทคนิค(car)
3 Dec 2015
หาค่าความถี่ CABIN GAIN เพื่อความดังเสียงอัตโนมัติ
เทคนิค(car)
2 Nov 2015
ตู้ลำโพงแบบปิด และเปิด เลือกให้โดนหูตัวเอง
เทคนิค(car)
1 Oct 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (จบ)
เทคนิค(car)
31 Aug 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (ตอน 1)
เทคนิค(car)
3 Aug 2015
เพิ่มเสียงด้านหลังให้ระบบเสียงรถยนต์
เทคนิค(car)
30 Jun 2015
ติดตั้งลำโพงเซนเตอร์ เพิ่มเสียงกลางให้ชุด OEM
เทคนิค(car)
2 Jun 2015
สเปคของแอมพ์
ดูต่อในคอลัมน์ เทคนิค(car)