X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค(car)
1 May 2012
ปรับ GAIN อย่างไร ?
สำหรับเทคนิคการปรับ GAIN ผู้อ่านคงได้อ่านกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าในบทความจากนิตยสาร คาร์ สเตริโอ หรือเล่มอื่นๆ ครั้งนี้นำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ที่อาจจะไม่เคยได้อ่าน หรือเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน มาติดตามกัน 1. เล่นแผ่น CD เพลงทั่วไปที่คุ้นเคยกับเครื่องเล่นวิทยุรถยนต์ โดยปรับวอลูมที่วิทยุประมาณ 75 % และใส่อุปกรณ์ป้องกันหู 2. ปรับ GAIN เพาเวอร์แอมพ์ที่ตำแหน่งต่ำสุด หลังจากนั้นค่อยๆ ปรับ GAIN อย่างช้าๆ จนกระทั่งได้ยิน CLIPPING จากลำโพง โดยให้พอได้ยินความเพี้ยนของเสียง 3. เมื่อพบจุด CLIPPING ให้ปรับลด GAIN ลง จนกระทั่งไม่ได้ยินความเพี้ยนอีกต่อไป 4. ทำขั้นตอนซ้ำสำหรับการปรับ GAIN ให้กับเพาเวอร์แอมพ์ตัวอื่นๆ 5. ตั้งวอลูมที่จุดสูงสุดบนวิทยุรถยนต์ที่ 75 % ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อการฟังทั้งหมดนี่เป็นเพียงแค่ 80 % ในการตั้งค่าที่เหมาะสม เนื้อหาต่อจากนี้เป็นส่วนที่เหลืออีก 20 %
GAIN คืออะไร ?
เป็นที่รู้กันว่า GAIN คือ ความไวอินพุท เป็นปุ่มปรับเสียงที่อยู่ระหว่างลำโพง และเฮดยูนิท เพาเวอร์แอมพ์ส่วนใหญ่จะมี รวมถึงอีควอไลเซอร์ ตัวแปลงสัญญาณขาออก และครอสส์โอเวอร์
มีไว้เพื่อทำอะไร ?
ทำให้สัญญาณเอาท์พุทแมทช์กันจากความแตกต่างของอุปกรณ์แต่ละชิ้น เพื่อให้ได้สัญญาณที่สะอาด ผลที่ได้รับ คือ ประสิทธิภาพสูงสุด และเสียงรบกวนน้อยที่สุด ลดความเสี่ยงในการที่จะได้รับความเสียหาย
CLIPPING คืออะไร ?
CLIPPING คือ ตัวกำหนดความเพี้ยน เมื่อเพาเวอร์แอมพ์ทำงานเกินความสามารถของมัน ในแง่ความเพี้ยนของเสียงที่ดนตรี PEAKS สูงสุด ตัวอย่างเช่น เสียงกลองเกิด MUDDY (ไม่ชัดเจน) หรือความเพี้ยน เมื่อปรับเสียงเพิ่มขึ้น แต่ยังคงสะอาด เมื่อปริมาณความดังเสียงอยู่ระดับต่ำ นั่นคือ อาการ CLIPPING (คลื่นสัญญาณเสียงที่ส่วนปลายด้านบนถูกตัด) และเกิดอะไรขึ้นเมื่อเพาเวอร์แอมพ์ขับเสียงในช่วงกำลังขับที่ฉับพลัน ให้เข้าใจว่า นั่นคือ ความแตกต่างระหว่างพลังงานคงที่ (RMS) และพลังงานสูงสุด (PEAK) ที่เพาเวอร์แอมพ์สามารถผลิตได้ เนื่องจากมีมาตรฐานการวัดบางอย่างในไม่กี่มาตรฐานที่มี แต่เนื่องจากคลื่นเสียงมีลักษณะที่เป็น PEAKS และ VALLEYS (ปลายยอด และแอ่ง) เอาท์พุทของแอมพ์ไม่คงที่ แต่เป็นการเพิ่มขึ้น และลดลงโดยสัญญาณดนตรี พลังสำรองของเพาเวอร์แอมพ์ คือ สิ่งที่ใช้จัดการกับ PEAKS ของดนตรี หรือที่เรียกกันว่า PEAK POWER หรือ HEADROOM ซึ่ง HEADROOM เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับกำลังขับ RMS ของแอมพ์ที่เพิ่มเป็น 2 เท่า แต่คงที่อยู่ได้เพียงไม่กี่มิลลิวินาที ดังนั้น เพดานข้อจำกัดของ HEADROOM ก็คือ อาการ CLIPPING โดยไม่ทำให้ลำโพงได้รับความเสียหาย ซึ่งก็หมายถึง การปรับความสูง (โดยใช้ GAIN) อย่างเหมาะสม และการตั้งค่าที่ถูกต้อง จะช่วยให้แอมพ์ได้รับกำลังขับสูงสุดโดยไม่เกินกำลังของเครื่อง
ทดสอบอย่างถูกต้อง
แผ่นทดสอบ CD ด้วยการเซทคลื่นสัญญาณเสียงไว้ที่ 0 ดีบี ในย่าน 50-80 HZ มันเที่ยงตรงมากกว่าใช้แผ่น CD เพลง ที่คุณสั่งซื้อ หรือดาวน์โหลดพโรแกรมด้วยตัวเอง แผ่นพวกนี้ไม่แนะนำให้นำมาใช้ทดสอบด้วยตัวเอง เพราะมันอาจมีผลกระทบผลกับผลิตภัณฑ์ได้ ถ้าคุณมีครอสส์โอเวอร์ 3 ทาง คุณต้องปรับอย่างเหมาะสม ให้แน่ใจว่าในการทดสอบความถี่จะไม่เกินขอบเขตย่านลำโพง และต้องทดสอบแยกแต่ละความถี่
การขยายของปุ่มควบคุมเสียง
ถ้าหากคุณมีวิทยุ/อีควอไลเซอร์ ให้ปรับไว้ที่ฟแลทตามพื้นฐานปกติ เซททุกอย่างให้แน่ใจก่อนที่จะลงมือทดสอบ เพื่อเป็นการดีที่สุด ให้ปรับฟแลท ถ้าเลือกปรับควบคุมเสียง ให้แน่ใจว่าทุกปุ่ม และปุ่มเฟเดอร์ บาลานศ์ ปรับไว้เป็นศูนย์
ปุ่มควบคุมวอลูมซับวูเฟอร์
แอมพ์จำนวนมากจะมีปุ่มปรับเสียงซับวูเฟอร์ ถ้าคุณต้องใช้ ควรจะปรับปุ่มควบคุมวอลูมซับวูเฟอร์ให้สูงสุด ก่อนที่จะตั้ง GAIN ขยายสัญญาณแอมพ์ ถ้าไม่ใช้ก็ควรจะยกเลิกการใช้งานปรับตั้ง GAIN แอมพ์ทั้งหมดให้อยู่ในจุดต่ำสุด ก่อนจะเริ่มต้น โดยปรับย้อนเข็มนาฬิกา
สวิทช์ความไวอินพุท
ถ้าแอมพ์มีสวิทช์เลือกความไวอินพุทที่แตกต่างกัน โดยเริ่มต้นการตั้งค่าสูงสุด ซึ่งแสดงเป็นแรงดันไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น 0.2-1 โวลท์, 1-3 โวลท์, 3-8 โวลท์ เริ่มต้นด้วยตัวเลขที่สูงกว่า (ตัวอย่าง 3-8 โวลท์) ถ้าไม่สามารถปรับแอมพ์ให้ CLIP ได้ ให้ลองต่อไปจนพบจุดตัด มันไม่มีมาตรฐานตายตัวอะไรมาวัด ว่าระบบเสียงที่ดีจะอยู่ที่อะไร นี่เพียงแต่เป็นแนวทางที่ดีที่สุด
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : ฝ่ายภาพ/อินเตอร์เนท
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/87245
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิค(car)
เทคนิค(car)
3 Dec 2015
หาค่าความถี่ CABIN GAIN เพื่อความดังเสียงอัตโนมัติ
เทคนิค(car)
2 Nov 2015
ตู้ลำโพงแบบปิด และเปิด เลือกให้โดนหูตัวเอง
เทคนิค(car)
1 Oct 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (จบ)
เทคนิค(car)
31 Aug 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (ตอน 1)
เทคนิค(car)
3 Aug 2015
เพิ่มเสียงด้านหลังให้ระบบเสียงรถยนต์
เทคนิค(car)
30 Jun 2015
ติดตั้งลำโพงเซนเตอร์ เพิ่มเสียงกลางให้ชุด OEM
เทคนิค(car)
2 Jun 2015
สเปคของแอมพ์
ดูต่อในคอลัมน์ เทคนิค(car)