ใส่สีใส่สัน
ลูกสาว ไรอัน
หนึ่งในบรรดาหนังคลาสสิคแห่งยุคทศวรรษ 1970 ผมยก 10 นิ้วให้กับ "ลูกสาว ไรอัน" RYANS DAUGHTER ผลงานของ เดวิด ลีน ร่วมกับนักเขียนบทประจำตัวคือ โรเบิร์ท บอลท์ เดวิด ลีน และโรเบิร์ท บอลท์ เป็นปรมาจารย์ทางภาพยนตร์ของผมเป็นการส่วนตัว 2 คนนี้สร้างงานมาทำให้ผมเกิดความทึ่ง
"ลอว์เรนศ์แห่งอาระเบีย" LAWRENCE OF ARABIA เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ ควีนส์ วังบูรพา ว่าด้วยประวัติการต่อสู้ของนายทหารชาวอังกฤษ บนดินแดนประเทศตะวันออกกลาง หนังเรื่องนี้โดนใจผม เพราะทำให้ผมรู้สึกร้อนจัดจ้าน เมื่อเห็นนักแสดงเดินอยู่กลางทะเลทราย สู้กับความร้อนแรงของพระอาทิตย์ เป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดดวงอาทิตย์เท่าที่ผมเคยดูหนังมา
ผลงานที่ทำให้พระอาทิตย์เป็นพระเอก ตามด้วยผลงานที่ เดวิด ลีน กับโรเบิร์ท บอลท์ ทำให้หิมะสวยสดงดงามจนลืมความหนาวเย็นยะเยือกจากการสร้าง "ดอคเตอร์ ซีวาโก" DOCTOR ZHIVAGO เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์ เชิงสะพานกษัตริย์ศึก ผมทึ่งความสามารถของคน 2 คนนี้ ไม่รู้ทำได้ยังไง ให้พระอาทิตย์มีชีวิตขึ้นมาได้บนจอภาพยนตร์ และทำให้หิมะสวยงามขึ้นมาได้ จากการสร้างผลงานทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว
ครั้นแล้ว เดวิด ลีน กับ โรเบิร์ท บอลท์ ก็สร้างความสวยงามทางมวลน้ำขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอผลงานสร้าง ลูกสาว ไรอัน ในปี 1970 ผมคิดถึงหนังเรื่องนี้ และระลึกถึงในขณะครอบครัวผมต้องอพยพหนีมวลน้ำถล่มกรุงเทพ ฯ ในเดือนตุลาคม 2554 เรื่องนี้มีเนื้อหาเกิดขึ้นบนเกาะหนึ่งของ ไอร์แลนด์ ความสวยงามของทะเล ชายหาดที่ผู้กำกับการแสดง (เดวิด ลีน) และผู้เขียนบทภาพยนตร์ (โรเบิร์ท บอลท์) สร้างมันให้ปรากฏบนจอภาพยนตร์ ทำให้แฟนหนังลืมความยาว 195 นาทีสิ้นเชิง
"ลูกสาว ไรอัน" ภายใต้การจัดจำหน่ายของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์สุขุมวิท ปากซอย 41 ดาราแสดงนำเป็นลูกสาว ไรอัน คือ ซาราห์ ไมล์ส ส่วนพระเอกที่รับบทนายทหารหนุ่มเชื้อสายชาวเมืองผู้ดีก็คือ โรเบิร์ท มิทชัม ตามด้วย ทเรเวอร์ ฮอเวิร์ด รับบทเป็นคุณพ่อ คอลลินส์ และจอห์น มิลล์ส์ รับบทเป็น ไมเคิล ห้วงเวลาที่เรื่องราวนี้อุบัติขึ้นนั้น โลกกำลังอยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 สภาวะของสงครามจะระอุร้อนแรงสักเท่าไร ก็ดูจะห่างไกลกับมวลชีวิตของผู้คนไม่มากบนแหลมดิงเกิลของไอร์แลนด์
ความสวยงามของชายหาดริมทะเลอยู่ในระยะลอง ชอท เห็นภาพคนขี่ม้าเหยาะย่างมาด้วยกันบนชายหาดนั้นคนหนึ่งคือลูกสาว ไรอัน (โรซี ไรอัน) อีกคนก็คือ ชาร์ลส์ ชอห์เนสซี ซึ่งพระเอกตาโรแมนติค โรเบิร์ท มิตชัม เป็นผู้แสดง
แน่นอนตามบทภาพยนตร์ ทั้ง โรซี และ ชอห์เนสซี มี แอฟแฟร์ลับระหว่างกันอย่างรวดเร็วฉากที่พระเอกนางเอกเสพอารมณ์ทางเพศกันนั้น ผมจำได้ติดตา ผู้กำกับและผู้เขียนบทให้แฟนหนังกลับไปดูภาพแมกไม้เบาบางที่ซ่อนตัวอยู่กับหยักไย่เส้นเล็กๆ แล้วถูกกระแสลมพัดจนขาดวิ่น บ่งบอกถึงความสุขที่ลูกสาว ไรอันพึงได้จากนายทหารหนุ่มนั้นเอง
ชาร์ลส์ ชอห์เนสซี เพิ่งจะเดินทางมาถึงดินแดนอันห่างไกลสงครามแห่งนี้ และเพิ่งจะเป็นลูกค้าคนเดียวของผับ ที่พ่อของ โรซี เป็นเจ้าของ โรซี ไรอัน ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หล่อนมีสามีเรียบร้อยแล้วกับครูบ้านนอกคนหนึ่ง ใช้เวลาว่างเข้ามาช่วยพ่อทำงานในผับ ที่ไม่ค่อยจะมีลูกค้ามากนัก และแล้วพายุก็เดินทางมาถึงที่นั่น ในคืนหนึ่ง.....ชาวไอริช ผู้รักชาติประเทศกำลังรอการขนส่งอาวุธปืนที่จะมาถึงผับแห่งนี้
ความระทึกใจที่แฟนหนังได้รับก็อยู่ที่การกระทำของนางเอกและพระเอก เพื่อนายทหารหนุ่มสัญชาติอังกฤษ โรซี ไรอัน จะยอมรับบทเป็นผู้ทรยศในคืนที่มีพายุนั้นหรือ ? และสำคัญเท่ากับความเป็นความตาย ชาร์ลส์ ชอห์เนสซี จะรับฟังคำแนะนำจากคุณพ่อ คอลลินส์ไหม ? งานของ เดวิด ลีน อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอด ทุกครั้งของผลงานเขามักเน้นถึงความสำคัญของตัวละครตามชื่อเรื่อง และด้วยการเขียนบทภาพยนตร์ที่ถูกใจโดยฝีมือของ โรเบิร์ท บอลท์ น่าจะมีส่วนทำให้งานของ ลีน ถึงขั้นที่วงการภาพยนตร์ยอมรับ
ผมเองก็ยอมรับว่า "ลอว์เรนศ์แห่งอาระเบีย" เป็นใครไม่ได้ นอกจากความเป็นสิงห์ทะเลทรายเช่นเดียวกับที่ผมยอมรับ ดอคเตอร์ ชิวาโก โดยมีความประทับใจอย่างแรงที่ เดวิด ลีน สามารถทำให้พระอาทิตย์ในฉากภาพยนตร์มีชีวิต ทำให้หิมะขาวโพลนทั้งจอภาพยนตร์กลายเป็นความสวยงาม
สติปัญญาของผู้สร้างผลงานแห่งศิลปะก็คงอยู่ตรงนี้ เช่นเดียวกับความปรีชาสามารถของ เจมส์ คาเมรอน ผู้ฝากงานแต่ละเรื่องให้ติดความทรงจำของผมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น "คนเหล็ก" หรือ "ไททานิค" มาจนถึง "อวตาร"
งานศิลปะอย่าง "อวตาร" ทำให้ผมแสดงความนับถือ เจมส์ คาเมรอน อย่างสิ้นข้อสงสัย คนอะไรทำให้ "คนมีหาง" สนุกเพลิดเพลินแถมยังสวยงามวิจิตรไม่น่าเชื่อกับสารพันสิ่งทั้งหลายบนดาวนพเคราะห์ที่มีแร่ธาตุที่มีค่ามหาศาลประเด็นสำคัญของหนังเรื่องนี้ก็คือ เจมส์ ได้รับความสำเร็จจากระบบ 3 มิติ อย่างที่ผมไม่คาดฝัน เนื่องด้วยภาพยนตร์ในระบบ 3 มิตินั้น อยู่กับโลกภาพยนตร์มาหลายปีแต่ไม่ได้รับความชื่นชมจากแฟนเท่าที่ควร
เจมส์ จุดประกายระบบ 3 มิติ ด้วย "อวตาร" และทำให้ระบบกลับมาอยู่ในความนิยมสุดยอดของผู้คน ทั้งภาพยนตร์และสื่อต่างๆ รวมทั้งมือถือและเครื่องรับโทรทัศน์...ผู้สร้างงานแห่งศิลปะที่เต็มไปด้วยการจุดประกายเบื้องต้นให้กับวงการ ผมถือว่าเป็นปรมาจารย์ควรค่าแก่การสร้างความฝัน ผลิตจินตนาการของตัวเองให้กับโลกใบนี้...........!!
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/85245