มุมมองนักออกแบบ
มีนี คูเป ใหม่ แต่ไม่สด !?!
มีนี คูเป รุ่นล่าสุดมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในสายตาของ ฟอร์มูลา ด้วยรูปทรงของหลังคาที่มองจากด้านหลังแล้วคล้าย หมวก สวมลงไปที่ตัวรถ เสาเอที่มีความลาดเอียงแบบเดียวกับรถสปอร์ท รวมถึงสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟ แต่มุมมองของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสองของเราจะเป็นเช่นไร ต้องติดตาม
ฟอร์มูลา : ตัวนี้เป็นตัวคอนเซพท์ เห็นมาตั้งแต่ประมาณปี 2009 แล้ว สวยดีนะครับ
ภัทรกิติ์ : ฟังทีแรกนึกว่าพูดผิดนะครับ คนคงจะสับสนกันไม่น้อย เพราะคนส่วนใหญ่จะชินกับชื่อ มีนี คูเพอร์ แต่คันนี้ มีนี คูเป
อภิชาต : ตามพแลทฟอร์มของมัน มี 2 ประตู แสดงว่า บีเอมดับเบิลยู ต้องการทำตัวรถให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ฟอร์มูลา : ประมาณว่าไหนๆ ทำแล้ว ก็ทำหลายๆ แบบไปเลย ชวนให้คิดว่ามีเรื่องการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเต็มๆ
อภิชาต : ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเราถอดโลโกออก ไม่สนใจว่าคันนี้ยี่ห้ออะไร ใครทำ คอร์สมันจะลดลงไหมครับ ถ้ามองในแง่ของเศรษฐศาสตร์นะ ?
ฟอร์มูลา : ลดลงเยอะครับ ผมว่าได้เป็นกอบเป็นกำเลยล่ะ
ภัทรกิติ์ : ลองคิดดูสิครับ เครื่องยนต์ก็เล็ก เนื้อเหล็กก็น้อย ล้อเล็ก เนื้อกระจกน้อย แต่ทำไมแพงกว่ารถปกติ เกือบ 4 เท่าตัวเลย
ฟอร์มูลา : ได้ข่าวว่าจะเปิดราคาที่ 3 กลางๆ เลยทีเดียว
อภิชาต : มีนี เขามองเกมขาดมากๆ ลองดูพแลทฟอร์มกันแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าวีลเบส (WHEELBASE ระยะห่างระหว่างฐานล้อหน้า/หลัง) เท่ากับ คูเพอร์ เดิมไหม ?
ภัทรกิติ์ : เท่ากันครับ ของเดิม แค่เปลี่ยนกระดอง
อภิชาต : จบเลยครับ กำไรมหาศาล ผมว่าด้านข้างเขาน่าจะขยับให้เล็กกว่านี้ เพื่อให้ดีไซจ์เนอร์เพิ่มลูกเล่นเข้าไปได้อีก
ภัทรกิติ์ : 2 ที่นั่งด้านหลังนั่งไมได้ DOG SEAT แท้ๆ เลย
ฟอร์มูลา : จริงครับ เท่าที่ดูคร่าวๆ ผมเห็นว่า เป็นช่องเก็บถุงกอล์ฟอย่างเดียว แบบ เอมอาร์ทู
อภิชาต : ใช้วีลเบสเดิม แล้วทำให้เป็น 2 ที่นั่ง ควรจะให้ประตูกว้างออกมากกว่านี้อีกหน่อย แต่ผมกำลังคิดว่า เขาใช้ประตูเดิมหรือเปล่า ?
ภัทรกิติ์ : ประตูเดิมครับ ทำเฉพาะแต่ด้านบน ด้านท้ายนิดหน่อย ภาษาการตลาดเขาเรียกว่า เราจะมอบทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค
อภิชาต : นี่คือข้อได้เปรียบ อยากได้เงินมากขึ้น ก็ใช้ของเก่า ปรับปรุงรูปแบบใหม่ก็ขายได้แล้ว แต่ผมว่ารูปทรง มันแปลกๆ นะครับ ?
ภัทรกิติ์ : มองแวบๆ รูปทรงหลังคาเหมือน เอาดี ทีที รุ่นแรก แต่หลังคาของ เอาดี เขากลมกลืนทั้งคันนะ
ฟอร์มูลา : หมายความว่า รถคันนี้เลียนแบบ เอาดี มาสิครับ ?
ภัทรกิติ์ : ก็ไม่นะครับ แค่ลายเส้นคล้ายๆ กัน หลังคาชุดนี้เขามีความสดในเรื่องแอโรไดนามิค คือ ด้านบนมีช่องดักอากาศเพื่อส่งไปหาสปอยเลอร์ด้านท้าย เพิ่มความเก๋ไก๋ มีสปอยเลอร์ 2 ชุด เพื่อให้อากาศไหลได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ผมไม่รู้ว่ามีความจำเป็นจริงหรือเปล่า ที่ต้องทำซูเพอร์ไดนามิคขนาดนี้ เพราะรถขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่จำเป็นต้องสร้างแรงกดท้ายมากขนาดนั้น น่าจะไปสร้างแรงกดที่ด้านหน้ามากกว่า เพื่อล้อหน้าจะเกาะถนนได้ดี
ฟอร์มูลา : งั้นถ้าจะเรียกว่า ไม่เอาสักทางจะได้ไหมครับ ทั้งเรื่องดีไซจ์น และเรื่องแอโรไดนามิค ?
ภัทรกิติ์ : พูดยาก บางคน ชอบก็คือชอบ บางคนไม่ชอบ ก็คือไม่ชอบ แต่เชื่อว่าคนชอบมากกว่าคนไม่ชอบ เพราะเป็น มีนี ไงครับ มีนี ทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้าไม่เวอร์จนเกินไป
ฟอร์มูลา : รถคันนี้แม้รูปทรงจะแปลก แต่แฟนๆ บแรนด์นี้ ก็ยังจงรักภักดีอย่างเหนียวแน่น ?
ภัทรกิติ์ : แข็งแรงมากครับ เขาไมได้ขายรถยนต์อย่างเดียว ขายไลฟ์สไตล์ด้วย ด้วยความที่เป็นรถขนาดเล็ก แต่ราคาสูง ทำให้ผู้ครอบครองมีความภาคภูมิใจ ตัวนี้ผมว่าเขาไม่ไดตั้งใจจะทำยอดขายอะไรมากมาย แต่เหมือนกับว่าเป็นช่วงปลายของ มีนี แล้ว ขอทำอะไรเด็ดๆ สักหน่อย ก่อนที่จะเปลี่ยมโฉมใหม่ทั้งหมด
ฟอร์มูลา : อาจารย์มองว่า รุ่นนี้เป็นบั้นปลายของ มีนี แล้วหรือครับ ?
ภัทรกิติ์ : ครับ ดูจากการออกแบบแล้วไม่เกิน 2 ปี คงฟูลล์โมเดลเชนจ์แน่นอน
อภิชาต : แต่ผมว่า เขาน่าจะมีอะไรเด็ดๆ มากกว่านี้อีก ยังไม่สุดแค่นี้ ผมเห็นต่างไปนิดว่า การนำเสนอเขาโอเค แต่ดีไซจ์นยังไม่โดนใจเท่าที่ควร ในความคิดของผม เมื่อรถยนต์ช่วงสั้นดีไซจ์เนอร์เขาน่าจะแก้ปัญหาด้วยการใส่สปอยเลอร์เข้าไป หน้าที่ของมัน คือ ให้รถเกาะถนนยิ่งขึ้น ไม่ใช่ให้รถวิ่งเร็วขึ้น ทำให้คนซื้อตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นกับรถเล็กราคาเกือบ 3 ล้านบาท บีเอมดับเบิลยู พยายามจับกลุ่มตลาดเฉพาะ เราไม่เคยเห็น มีนี ที่มีหลังคารูปทรงแบบนี้เลยว่าไหม ซึ่งถ้าผมเป็นคนอังกฤษผมจะไม่ยอม
ภัทรกิติ์ : พวกอนุรักษนิยมก็คงไม่ยอม มีนี ไม่ได้ขายรถอย่างเดียว ขายเพื่อนด้วย เพราะมีกิจกรรมหลังการขายอย่างต่อเนื่องทั่วโลก แต่ผมจะคิดว่า คนที่ซื้อ มีนี จะซื้อ มีนี เป็นคันแรกหรือเปล่า ผมคิดว่า ไม่ใช่ ผมว่าสำหรับนักสะสมมากกว่า คนที่ซื้อ มีนี เป็นคันแรก ผมว่าน่าจะซื้อ มีนี รุ่นปกติมากกว่า ตัวนี้ เสาเอเอียงมาก ซื้อมาแล้วเหมือนรถสปอร์ทมากกว่า ข้างบนเป็นรถสปอร์ท ข้างล่างเป็น มีนี ทำนองนั้น คันนี้อาจจะเหมาะกับคนแปลก คือ คนที่มี มีนี คูเพอร์ แล้ว มีนี คลับแมน แล้ว ซื้อคันนี้อีกคันจะครบเซทเลย
อภิชาต : แต่ผมมองอีกมุม ตัวที่ บีเอมดับเบิลยู จะทำ พยายามโยนหินไปเรื่อยๆ ว่าแบบไหนตรงใจคนบ้าง ถ้าถามว่า คลับแมน ประสบความสำเร็จไหม เราก็เคยวิจารย์แล้ว มีนี คลับแมน เหมือนรถ มีนี ที่พยายามเบ่งให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่
ฟอร์มูลา : อาจารย์ว่าจะประสบความสำเร็จไหมครับ ?
ภัทรกิติ์ : ไม่นะ ผมว่ารุ่นนี้ผลิตปริมาณน้อย แน่นอน คงผลิตออกมาไม่กี่คัน เหมือนจำนวนจำกัด ทำขึ้นมาสนุกๆ เป็นของเล่นของคนมีเงิน พื้นฐานรุ่นนี้มาจาก กาบริโอเลต์ รุ่นเปิดหลังคา อัดด้านล่างแข็ง พอมาเป็นบอดี คูเป ก็จะแกร่งมากขึ้น คันนี้หนักกว่าเดิม 20 กก. มุมกระจกหน้าเอียงกว่าเดิม 15 องศา หลังคาอลูมิเนียมแผ่นเพื่อต้องการลดค่า ซีจี ให้ต่ำกว่าเดิม เตี้ยกว่าเดิม 20 มม. สรุปแล้วน่าจะขับมันกว่าเดิม ทุกอย่างเหมือนน้ำหนักจะลดลง แต่ทำไมหนักกว่าถึง 20 กก.
อภิชาต : รถสปอร์ทขับเคลื่อนล้อหน้า อาจารย์ว่าขับสนุกหรือเปล่า สำหรับผม โอเคนะ
ภัทรกิติ์ : คันนี้ขับสนุก คล่องตัว ไม่มีอาการย้วย ไม่นุ่ม แต่ก็ไม่แข็งมาก เอาง่ายๆ คือ ขับไม่นุ่มแต่สนุก ถ้าคุณเป็นพวกชอบมองกระจก ดูความสวยของรถตัวเอง ไม่แคร์ใคร คันนี้เหมาะมาก
อภิชาต : จริงครับ แล้วภายในเป็นอย่างไรบ้าง เหมือนเดิมไหม ?
ฟอร์มูลา : เหมือน มีนี ตัวเดิม ออพชันเต็ม เปลี่ยนวัสดุนิดหน่อยครับ
ภัทรกิติ์ : รถคันนี้เหมาะสำหรับพวกหลงตัวเอง
อภิชาต : สรุปว่า สิ่งที่ใหม่ในคันนี้ คือ หลังคาอลูมิเนียม สปอยเลอร์ท้ายดีไซจ์นรับกับหลังคาใหม่ แค่นั้น?
ภัทรกิติ์ : แค่นั้นล่ะครับ แต่รุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกือบ 200 กม./ชม.
อภิชาต : ถ้ามีรุ่นนี้ควรขับไม่ต่ำกว่า 180 กม./ชม.
ภัทรกิติ์ : สรุปว่า ถ้าของเดิมยังขับมันไม่พอ ก็หันมาเล่นรุ่นนี้ได้ เพราะคันนี้ ไม่ใช่รถใช้งาน เป็นรถที่ขับเล่นๆ ขับสนุก 2 ที่นั่ง
อภิชาต : แต่สำหรับผม คันนี้เขาเน้นดีไซจ์นสวยงาม เพิ่มอีกนิดกับหลักแอโรไดนามิคที่ดีขึ้น กับราคาเหยียบ 3 ล้านบาท คุ้มไหม?
ฟอร์มูลา : ไม่แน่ว่า บีเอมดับเบิลยู จะขายที่ 3 ล้านบาทปลายๆ เหยียบ 4 ล้านบาท หรือเปล่านะครับ ผมไม่แน่ใจ ?
ภัทรกิติ์ : นั่นไง แลกกับความ เอกซ์คลูซีฟ คนซื้อต้องรวยจริงครับ ไม่รวยจริงขับไม่ได้
อภิชาต : นอกจากมีเงิน แล้วต้องมีอย่างอื่นด้วยนะ
ฟอร์มูลา : ?!?
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84488