ประสาใจ
เขาคือพเลย์บอย
อเมริกันชนคนนี้ ทำหนังสือปลุกใจเสือป่าเล่มแรกเมื่อ 58 ปีก่อน ชื่อหนังสือ PLAYBOY ด้วยเงินลงทุนต่ำสุดไม่ถึง 10,000 เหรียญสหรัฐ ฯ รวมที่ขอแม่มา 1,000 เหรียญสหรัฐ ฯ หนังสือไม่มีวันเดือนปีปรากฏบนหน้าปก เพราะไม่แน่ใจว่าจะขายได้ภายในเวลาขวบเดือน ซึ่งถ้าขายไม่หมดก็จะวางขายต่อไปได้อีก โดยอาศัยไม่มีวันเดือนปี และเล่มที่
เขาคนนี้ คือ ฮิวจ์ มาร์สตัน เฮฟเนอร์ วันนี้อายุ 85 ปี นี่ก็แปลว่าตอนที่เริ่มเข็น PLAYBOY วางตลาดเล่มแรก อายุ 27 ปี เป็นคนที่เกิดในนครชิคาโก
ในชั้นแรกหนังสือจะมีชื่อว่า STAG PARTY แต่ที่สุดก็เปลี่ยนชื่อเป็น PLAYBOY วางจำหน่าย 50,000 เล่ม ในเดือนธันวาคม ปี 1953
หนังสือของ เฮฟเนอร์ ฉีกแนวออกจากหนังสือทั้งหลายทั้งปวงในประเทศ หน้ากลางของเล่มเป็นภาพเปลือยของดาวยั่ว มาริลีน มอนโร ซึ่งถ่ายในปี 1949 ภายในเล่มยังมีนิยายสั้นเรื่อง THE CROOKED MAN เขียนโดย ชาร์ลส์ โบมอนท์
อเมริกันชนทั้งประเทศแห่กันซื้อเกลี้ยงตลาด เรียกว่าพรึบเดียวหมด แรงต้านเป็นกระแสตามมา และก็ดูเหมือนจะยิ่งสร้างความสำคัญให้กับนิตยสารรายเดือนของ เฮฟเนอร์ มากขึ้น
10 ปีต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน ปี 1963 เขาถูกจับกุมข้อหาผลิตหนังสือลามก ภายหลังที่หนังสือเล่มนั้นพิมพ์ภาพเปลือยของดาวยั่ว เจย์น แมนส์ฟีลด์ แต่ศาลต้องยกฟ้องเพราะคณะลูกขุนจับผิด เฮฟเนอร์ ไม่ได้
เมื่อเขาอายุ 23 ปี ก็แต่งงานกับนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ชื่อ มิลเดรด วิลเลียมส์ มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ คริสตี และเดวิด อายุสมรสอยู่ยงคงกะพันได้ 10 ปี หย่าขาดจากกันในปี 1959
หลังจากนี้ เฮฟเนอร์ ก็เริ่มใช้ชีวิตพเลย์บอย หนุ่มเจ้าสำราญ เพื่อพโรโมทหนังสือ พร้อมออกรายการโทรทัศน์ที่เขาออกอากาศเป็นประจำ 2 รายการ คือ รายการ PLAYBOYS PENTHOUSE ออกอากาศระหว่างปี 1959-1960 และรายการ PLAYBOY AFTER DARK ซึ่งออกอากาศระหว่างปี 1969-1970
เขายอมรับว่า สาวๆ ที่มาลงภาพหน้ากลางในชุดพเลย์เมท ประจำแต่ละเดือนนั้น ส่วนใหญ่เขาฟันเรียบร้อยแล้ว
คู่นอนของเขามีทั้ง ดอนนา มิเชลล์, มาริลีน โคล, ลิลเลียน มูลเลอร์, แชนนอน ทวีด, บแรนด์ โรเดอริค, บาร์บี เบนทัน, คาเรน คริสตี, ซอนดรา ธีโอดอร์ และแคร์รี ไลจ์ ซึ่งรายนี้ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูแม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นเงิน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
เฮฟเนอร์ ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักที่ลอสแองเจลิส เมื่อปี 1971 หรือเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
เมื่ออายุ 59 ปี เขามีอาการโรคหัวใจอย่างอ่อนๆ ทำให้ต้องทบทวนชีวิตพเลย์บอย รายการหนึ่งที่เขาจัดเป็นประจำ คือ พาร์ทีตลอดคืน ถูกเปลี่ยนคอนเซพท์ใหม่ให้อ่อนตัวลงมาอยู่ระดับปานกลาง ไม่กระแทกกระทั้นเหมือนเก่า ลูกสาวของเขา-คริสตี เริ่มเข้ามามีบทบาทในการบริหารนิตยสาร
ในปีต่อมา เฮฟเนอร์ ก็แต่งงานเป็นครั้งที่ 2 กับ คิมเบอร์ลีย์ คอนราด ซึ่งเป็นสาวจากภาพชุดหน้ากลาง ให้กำเนิดบุตรชาย 2 คน คือ มาร์สตัน กเลนน์ และคูเพอร์ บแรดฟอร์ด
ใช้ชีวิตสามีภรรยากันนาน 9 ปีก็ถึงวาระหย่าร้าง เมื่อถึงช่วงชีวิตนี้ คอนราด ก็ย้ายออกจากคฤหาสน์พเลย์บอย แมนชัน มาเช่าบ้านอยู่ติดกันนั่นแหละ
การหย่าขาดของคนทั้งสองเป็นผลในปี 2009 ซึ่งหมายความว่า คอนราด เป็นภรรยาของ เฮฟเนอร์ ได้นานถึง 20 ปี หลังจากนั้น เธอกับมารดาก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เมืองรีโน เพราะเป็นพื้นที่ใกล้ชิดกับวงศ์ตระกูลของฝ่ายหญิง
เมื่อไม่มี คอนราด พ่อเจ้าประคุณ เฮฟเนอร์ แกก็สนุกกับชีวิตโสดเป็นว่าเล่น ภายในอาคารพเลย์บอย แมนชัน พาผู้หญิงมาสนุกสนานไม่ซ้ำหน้า บางคืนไม่มาคนเดียว แต่ทำตัวเป็นพระเอกหนัง ชาร์ลทัน เฮสตัน ในเรื่อง BEN HUR ควบม้าทีเดียว 8 ตัว
เฮฟเนอร์ ไม่ได้ควบม้า 8 ตัวครับ แต่รายงานเปิดเผยข้อมูลว่า คืนนั้นคืนเดียว ราชันพเลย์บอย เฮฟเนอร์ มีอีหนู 7 คน
ในปี 2008 ก่อนการหย่าขาดจาก คอนราด อย่างเป็นทางการ ความรักของชายหนุ่มวัย 82 ปี ก็ปะทุร้อนแรงอีกครั้งกับสาวอเมริกันวัย 23 ปี ชื่อ คริสตัล แฮร์ริส ถึงกับยกระดับให้ แฮร์ริส เป็น เบอร์ 1 เพราะแกยังมีสาวแฝดโดนใจอีก 2 นาง คือ คริสตินา และคาริสซา แชนนอน วัย 20 ปี ร่วมเป็น 3 ม้าเทียมให้ขับขี่
สาวแฝด 2 คนเป็นนางแบบ ในขณะที่ แฮร์ริส เป็นพเลย์เมทของหนังสือ เหตุที่ เฮฟเนอร์ มีผู้หญิงสาว 3 คนดังกล่าว ก็เพราะมี 3 สุภาพสตรีของเขาในแมนชันเดินออกไป เขาจึงต้องหา ตัวแทน ใหม่...อะไรจะง่ายปานนั้น
ชีวิตหนึ่งต่อสามของ เฮฟเนอร์ ยามนี้จะเป็นยังไงไม่ทราบ แต่ชั่วเวลา 2 ปีต่อมา สาวแฝด 2 คนก็หลุดวงโคจร ผันตัวเองออกไปจากแมนชันเป็นที่เข้าใจว่า เฮฟเนอร์ หลงใหลสาวรายใหม่ คริสตัล แฮร์ริส แบบว่า
...ก็คนนี้แหละ คือ เมียของเขาคนต่อไป...!"
เพื่อให้ความฝันเป็นความจริง เฮฟเนอร์ หันมาเอาใจใส่กับงานที่ค้างอยู่ และนั่นคือ จัดการฟ้องหย่ากับ คอนราด หลังจากการหย่าร้างมีอายุยืนยาวถึง 11 ปี โดยเขาแถลงต่อศาลว่า เหตุที่ต้องรักษาสถานภาพสมรสเพราะเห็นแก่ลูกชายคนเล็ก ซึ่งตอนนี้ก็อายุ 18 ปีแล้วจึงมาขอศาลหย่าขาด
ศาลมีคำสั่งให้หย่าขาดได้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2010
นั่นเป็นข่าวที่หอมหวานที่สุดของเขา เพราะมันหมายถึงอิสรภาพที่เขาจะสามารถเข้าพิธีแต่งงานได้อีก...โดยเฉพาะกับผู้หญิงวัย 24 ปี ชื่อ คริสตัล แฮร์ริส
วันที่ 24 ธันวาคม ปี 2010 เป็นรัตติกาลคริสต์มาสอีฟอันหวานเจี๊ยบของชายวัย 84 ปี เป็นวันที่เจ้าประคุณพเลย์บอยกระฉ่อนโลก หมั้นอย่างเป็นทางการกับ แฮร์ริส ด้วยแหวนเพชร 3 กะรัตครึ่ง ราคา 90,000 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 2,700,000 บาท
ใครไม่อิจฉาผู้ชายคนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมอิจฉาอ่ะ...แล้วก็อยากเห็นเฒ่าพเลย์บอยแต่งงานอีกครั้งตามกำหนด คือ วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน ปี 2011 ซึ่งนั่นก็คือ พิธีสมรสระหว่างเจ้าบ่าววัย 85 ปี กับเจ้าสาววัย 25 ปี ซึ่งผมมันขี้สงสัย นึกภาพไม่ออกว่า...แล้วมันจะยังไงต่อกันล่ะคู่นี้...?!?
เฮฟเนอร์ เชิญแขก 300 คน โดยทั้ง 300 คนที่มาในงานสมรสซึ่งจัดที่อัครสถานแมนชันของเขานั้น ห้ามนำของขวัญมาเด็ดขาด แต่ต้องบริจาคเงินเพื่อการกุศล
ภาพที่ผมวาดไม่ถูกกลับไม่เป็นไปตามฝัน 5 วันก่อนถึงวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน ปรากฏว่า คริสตัล แฮร์ริส ล้มเลิกการแต่งงาน
ข่าวใหญ่ปรากฏในวันอังคารที่ 14 มิถุนายน ว่าทั้ง 2 คน ตกลงกันด้วยดี โดยสาว แฮร์ริส ย้ายตัวเองออกไปจากแมนชันในลอสแองเจลิส ฝ่ายเฒ่าเจ้าประคุณพเลย์บอยของผมแกตีหน้าระรื่น ยืนกรานเหตุผลเดียวว่า แฮร์ริส เปลี่ยนใจ
แฮร์ริส เจอหน้า เฮฟเนอร์ เป็นครั้งแรกในงานพาร์ทีประจำปีของ เฮฟเนอร์ คือ คืนวันฮาโลวีน 2008 เมื่อเจอหน้ารู้จักกันแล้ว อีกไม่นาน แฮร์ริส ก็เข้ามาอยู่ในพเลย์บอย แมนชัน และได้ถ่ายภาพชุดหน้ากลางพเลย์เมท ลงเป็นเวอร์ชันแรกในหนังสือ PLAYBOY ประจำเดือนธันวาคม ปี 2009
ซึ่งภาพชุดหน้ากลาง เวอร์ชันที่ 2 ของเธอ มีกำหนดลงหนังสือประจำเดือนกรกฎาคม ปี 2011
เมื่องานแต่งวันเสาร์เลิกล้ม พอถึงวันอาทิตย์ แฮร์ริส ก็มาที่พเลย์บอย แมนชัน ธุระสำคัญของหล่อน ก็คือ เอาแหวนเพชรราคา 2,700,000 บาท มาคืน เฮฟเนอร์
"มันสมควรเป็นเช่นนั้นค่ะ" แฮร์ริส ตอบสื่อในความพยายามคืนแหวนเพชร 3 กะรัตครึ่ง
พ่อเจ้าประคุณอกหักคาเตียงของผมว่ายังไงทราบไหมครับ ? โน พรอบเลม...ยังกะ "น้าชาติ" มาดพเลย์บอยของผมเลยครับ แฮร์ริส สามารถเป็นเจ้าของแหวนเพชรนั้นต่อไปได้เลย รวมทั้งรถยนต์ เบนท์ลีย์ อีก 1 คัน ที่เขายกให้เจ้าหล่อน
รุ่งเช้าวันจันทร์ เฮฟเนอร์ ก็ทวิทข้อความไปทั่วโลก
วันใหม่มาถึงแล้ว เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วย และ...ผมรู้สึกมีความสุขที่กลับมาเป็นหนุ่มโสด...อิอิ...กลับมาเป็นพเลย์บอยอ่ะ...!!
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84003