DIY...คุณทำเองได้
ตรวจเชค/เติมน้ำยาแอร์ ทำได้ตลอด ไม่จำกัดฤดู !
DIY...คุณทำเองได้ฉบับนี้ ขอเสนอวิธีตรวจเชคแอร์ รวมถึงวิธีการเติมน้ำยาแอร์อย่างถูกต้อง เพื่อให้ภายในห้องโดยสารรถคุณเย็นสบาย ตลอดการเดินทาง
ทำไมแอร์ถึงเย็น ?
ระบบปรับอากาศทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ โดยวิธีการดูดเอาความร้อนจากภายในห้องโดยสารออกไปทิ้งภายนอก ด้วยหลักการ คายความร้อน และ รับความร้อน ของสารที่สามารถเปลี่ยนสถานะจากแกสเป็นของเหลว และจากของเหลวเป็นแกสได้ เรียกโดยรวมว่า "ความร้อนแฝง" ยกตัวอย่าง เช่น ความร้อนแฝงให้เห็นภาพง่ายๆ คือ เมื่อเราหยดแอลกอฮอล์ลงบนผิวหนัง เราจะรู้สึกว่าเย็นในช่วงที่แอลกอฮอล์ยังเป็นของเหลวอยู่ แต่เมื่อใดที่มันระเหยกลายเป็นไอ เราจะรู้สึกเหมือนปกติ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะดูดความร้อนจำนวนหนึ่งจากผิวไป ความเย็นที่เรารู้สึกนั่นแหละ คือ ความร้อนแฝง ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับแอร์รถยนต์
แอร์รถยนต์ทำงานอย่างไร ?
เริ่มต้นด้วยคอมเพรสเซอร์ (COMPRESSOR) โดยจะใช้พลังงานส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์มาหมุนสายพาน เพื่อหมุนพูลเลย์หน้าคอมเพรสเซอร์ ที่มีคลัทช์แม่เหล็กไฟฟ้าเป็นตัวตัดต่อ ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์ จะอัดไอน้ำยาซึ่งอยู่ในสถานะแกส ให้มีอุณหภูมิและความดันที่สูงขึ้น ต่อจากนั้นน้ำยาความดันสูง จะไหลเข้าสู่คอนเดนเซอร์ (CONDENSER) ที่อยู่บริเวณส่วนด้านหน้ารถเพื่อรับลม เมื่อรถวิ่ง หรือจากพัดลมไฟฟ้าเพื่อนำพาความร้อนออก ซึ่งในนั้นจะมีลักษณะเป็นขดลวดคล้ายรังผึ้งหม้อน้ำ เมื่อไอน้ำยาคายความร้อน จึงทำให้อุณหภูมิลดลงจนกลายเป็นของเหลว และไหลออกจากคอนเดนเซอร์เพื่อเข้าสู่รีซีเวอร์ต่อไป
รีซีเวอร์เป็นกระบอกโลหะภายใน จะมีสารดูดความชื้น เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า รีซีเวอร์/ดไรเออร์ (RECEIVER/DRIER) หรือจะเรียกว่าเป็นหม้อพักน้ำยาแอร์ก็ได้ ส่วนนี้ในระบบแอร์จำเป็นต้องมี เพราะเป็นระบบปิด และสัดส่วนการเป็นของเหลวและแกสของน้ำยาแอร์ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาวะการใช้งาน จึงต้องมีหม้อพักไว้รองรับ เป็นส่วนสำรองน้ำยาในสถานะของเหลว ต่อจากนั้นน้ำยาที่มีสถานะของเหลว ความดันและอุณหภูมิสูง จะไหนผ่านไปยังลิ้นเพื่อลดความดัน หรือเรียกว่า เอกซ์เปนชันวาล์ว (EXPANSION VALUE) น้ำยาที่ไหนผ่าน เอกซ์เปนชันวาล์วจะทำให้ของเหลวมีอุณหภูมิ และแรงดันต่ำลง ผสมกันเป็นฝอยละออง จากนั้นจะไหลไปสู่ อีแวพอเรเตอร์(EVAPORATOR) หรือที่ช่างชอบเรียกว่าตู้แอร์
น้ำยาที่เป็นฝอย จะระเหยเป็นไอในท่อที่คดเคี้ยวกลับไปกลับมาของอีแวพอเรเตอร์ โดยน้ำยาจะดูดความร้อนเข้าตัวมันเองจากเนื้อท่อ และครีบรังผึ้งของอีแวพอเรเตอร์ ท่อน้ำยาที่เย็นเฉียบก็จะดูดความร้อนจากอากาศที่ไหนผ่าน ซึ่งก็คืออากาศภายในห้องโดยสารที่นำพาโดยพัดลมไฟฟ้าในตู้แอร์ที่เราปรับระดับความแรงของพัดลมกันในรถนั่นเอง ทำให้น้ำยาเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไออีกครั้ง ซึ่งมีอุณหภูมิและความดันต่ำ และน้ำยาก็จะเข้าสู่คอมเพรสเซอร์อีกครั้ง เพื่อนำพาความร้อนไประบายออกที่คอนเดนเซอร์ ซึ่งเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
สาเหตุหลักๆ ที่แอร์ไม่เย็น
น้ำยาแอร์ขาด วิธีแก้: ช่างต้องเชครอยรั่วในระบบก่อน เพราะระบบแอร์นั้นเป็นระบบปิด น้ำยาแอร์ไม่สามารถหายไปได้เอง เมื่อแก้ไขรอยรั่วเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ตู้ตัน วิธีแก้: ตู้แอร์ที่สกปรกเกิดจากการอุดตันของเศษฝุ่นละอองต่างๆ ที่ถูกพัดลมดูดผ่านอีแวพอเรเตอร์ หรือคอยล์เย็นภายในตู้แอร์ ซึ่งเปียกอยู่เสมอขณะทำงานจากการกลั่นตัวของไอน้ำในอากาศ สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ ค่อยๆ ปลิวมาติดทีละเล็กทีละน้อย ถ้าสะสมเป็นแรมปี แบบนี้ต้องถอดมาล้างสถานเดียว
แอร์เป็นน้ำแข็ง วีธีแก้: รถที่แอร์เป็นน้ำแข็ง จะมีกลิ่นเหมือนน้ำแข็งแห้ง ออกมาทางช่องแอร์ พัดลมแอร์จะไม่ค่อยแรง ลักษณะนี้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า น้ำยาแอร์น้อยเกินไป ทำให้ท่อภายในตู้แอร์กลั่นตัวมากจนเกาะเป็นน้ำแข็ง จึงไม่สามารถแลกเปลี่ยนความร้อนได้ทัน วิธีแก้เบื้องต้น ให้ปิดสวิทช์การทำงานของคอมเพรสเซอร์เสียก่อน และเปิดระดับความแรงของพัดลมในรถระดับสูงสุด เพื่อให้แรงลมนำพาความร้อนไปละลายน้ำแข็งออก ถ้าน้ำแข็งละลายหมดแล้วแอร์ก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติดังเดิม ส่วนช่างจะแก้ไขด้วยการเชคน้ำยาแอร์ และระบบแอร์ทั้งหมด โดยเฉพาะรอยรั่ว
อุปกรณ์
1. เครื่องวัดแรงดันน้ำยาแอร์
2. ถังน้ำยาแอร์ R134 A
ขั้นตอนเชคระบบแอร์
1. เปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วตั้งไม้ค้ำอย่างแข็งแรง
2. หาจุกกันฝุ่น ที่มีสัญลักษณ์ตัว "L" (LOW/แรงดูด) แล้วหมุนออก
3. นำเครื่องวัดแรงดันออกมา แล้วนำสายแรงดูด (อยู่ด้านซ้ายสุดของเครื่องวัด) มาใส่ท่อ L
4. หาจุกกันฝุ่น ที่มีสัญลักษณ์ตัว "H" (HIGH/แรงดัน) แล้วหมุนออก
5. นำสายแรงดูด (ที่อยู่ด้านขวาสุดของเครื่องวัดแรงดัน) มาประกบใส่ท่อตัว H
6. เมื่อใส่สายจากเครื่องมือวัดแรงดันเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดวาล์วที่สายสีแดง
7. ต้องเชคระบบน้ำยาแอร์โดยการสตาร์ทเครื่อง แล้วเปิดแอร์ให้เรียบร้อย
8. ตรวจดูมาตรวัดด้านซ้าย คือ ระดับน้ำยาแอร์ ต้องอยู่ระหว่าง 30-40 ปอนด์ ถึงจะปกติ
9. ตรวจดูมาตรวัดด้านขวา คือ ระดับแรงดันอากาศ ต้องไม่เกิน 250 ปอนด์ ถึงจะปกติ
10. ถ้าระดับน้ำยาแอร์ต่ำ ต้องเติมน้ำยาแอร์เข้าไป โดยใช้สายสีน้ำเงิน ติดเข้ากับถัง
11. หมุนเปิดน้ำยา ที่บริเวณส่วนบนสุดของของถังน้ำยาแอร์ โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา
12. คลายวาล์วด้านตัวดูด แล้วดูที่มาตรวัด ให้น้ำยาไหลเข้าไปจนถึงระดับ 40 ปอนด์เป็นอันเสร็จ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/83992