มุมมองนักออกแบบ
แมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค ใหม่ ย้อนอดีต อย่างมีชั้นเชิง
ถ้าให้นึกถึงรถสปอร์ทประจำค่าย "ดาวสามแฉก" คงต้องนึกถึง เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้ตรานี้ มาตั้งแต่เจเนอเรชันแรก เมื่อปี 1996 จนถึงเจเนอเรชันล่าสุด ในปีนี้ จุดเด่นที่ยากจะลืมเลือน คือ เป็นรถสปอร์ทเปิดประทุน มีรูปลักษณ์ที่สวยงามลงตัว แต่เมื่อมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 นี้ กลับมีดีไซจ์นที่แปลกออกไป เหมือนย้อนกลับไปยุคก่อน (คล้าย เอสแอลเอส เอเอมจี) ทีมนักออกแบบของเราจะมีความคิดเห็นอย่างไร ต้องไปติดตามกัน
ภัทรกิติ์ : ตัวใหญ่เลยครับคันนี้ เหมือนย้อนอดีตกลับไปหารุ่นพี่อย่าง เมร์เซเดส-เบนซ์ พาโกดา ทั้งคันเลยนะ แต่เด่นชัดสุด คือ ภายใน จะไปคล้าย พาโกดา รูฟ 250 เอสเเอล ซึ่งผมว่าลงตัวเป๊ะเลย เคยลองนั่งแล้ว มันดูไม่เป็นผู้หญิงเหมือนรุ่นที่แล้ว
ฟอร์มูลา : รุ่นนี้เข้าไปอยู่ในกลุ่มของรถโบราณได้เลยนะครับ
ภัทรกิติ์ : ก็ย้อนยุคไงครับ ดูภายในห้องโดยสารรุ่นพี่สิ อาจจะไม่เหมือนมาก แต่ก็ใกล้เคียงสุดๆ และลองไปดูภายในของ เอสแอลเค สิครับ ช่องแอร์ทรงกลมตาวัว มีกากบาท แผงหน้าปัดเป็นจอ 2 จอแยก มีฝาครอบตรงๆ เลย นี่คือการย้อนอดีตกลับไปหาความคลาสสิค ให้อารมณ์แบบ เอสแอล 250 ตัวเล็ก
ฟอร์มูลา : พวงมาลัยดูไม่กลมเท่าไรนะครับ
ภัทรกิติ์ : จริงๆ ภายใน เอสแอลเอส ก็คล้ายๆ อย่างนี้นะ มันเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าย้อนอดีตจ๋า แต่จะพูดว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับ เอสแอลเอส ก็ได้เหมือนกัน
อภิชาต : แนวคิด คอมมอนพาร์ท เป็นแนวคิดที่ใช้มากที่สุด แต่เขานำมาเฉพาะตัวแพง แอบมีนาฬิกาเข็มด้วย ซึ่งปกตินาฬิกาอยู่ที่น่าปัด แต่รุ่นนี้แยกออกมาชัดเจน
ภัทรกิติ์ : ดูเป็น เอสเเอลเค ที่คลาสสิคที่สุดที่เขาเคยทำมา ฝรั่งชอบพูดว่า เอสแอลเค เป็นรถของช่างทำผม มันดูฟเรชี แต่คันนี้ดูดีกว่ามาก และถ้าเทียบกับ บีเอมดับเบิลยู เซด 4 คันนี้ดูเข้าใจง่ายกว่า ดูสะอาดสะอ้าน อาจไม่ตื่นตามาก แต่กลมกล่อมมากกว่า
ฟอร์มูลา : นั่งได้ 2 คนเหมือนเดิม
อภิชาต : ภายนอกผมว่าย้อนยุคแตกต่างจากของเดิม ของเดิมดูอวกาศนิดๆ แต่คันนี้เหมือนย้อนกลับไปจุดดั้งเดิม เน้นแนวนอนมากขึ้น
ภัทรกิติ์ : บางคนเขาไม่ได้บอกว่าย้อนยุค แต่มองว่าเป็นการนำเอา เอสแอลเอส มาย่อให้เล็กลง มองอย่างนั้นก็ไม่ผิด เพราะมันเหมือนกัน และ เอสแอลเอส ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 300 เอสแอล เหมือนกัน ก็ไม่ผิดอะไรเช่นกัน
ฟอร์มูลา : สรุปว่า ย่อส่วนรุ่นพี่มาทั้งคัน
ภัทรกิติ์ : แต่น่าแปลก เอสแอลเอส ถูกกว่า เอสเเอลอาร์ มือ 2 นะ เซอร์เฟศพอเทียบกับ บีเอมดับเบิลยู คันนี้ธรรมดากว่ามาก และก็ไม่ผิดอะไร ดูสบายตาดี
ภัทรกิติ์ : ภายใน เอสแอลเค ดูลงตัวนะ หลังคาแบบสมัยนิยม หัวยาว ตัวสั้น หลังสวย ดูดีกว่ารุ่นที่แล้วเยอะเลย
ฟอร์มูลา : ภายในเป็นเคฟลาร์ มีช่องเสียบทั้งไอโฟน และบีบี แต่ไม่มี ไอโมบาย
ภัทรกิติ์ : เปิดประทุนของเขาดีนะครับ ฝนตกไม่เปียก เคยลองแล้ว คือ จริงๆ ผมปิดประทุนไม่ทัน แล้ววิ่งมันทั้งเปิดประทุน แต่มันก็ไม่เปียกนะ เจ๋งดี แต่รถอย่าติดอย่าหยุด ไม่งั้นคงท่วมแน่
ฟอร์มูลา : แล้วมีจุดติงบ้างไหมครับ ?
ภัทรกิติ์ : ผมว่าจากพรอโพร์ชัน มันยังเหมือนรุ่นเดิม แต่มีการปรับสัดส่วนให้มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะภายใน จากรุ่นที่แล้วมันดูสับสนไปหมด อะไรก็ไม่รู้ รุ่นใหม่ดูสะอาดตา
อภิชาต : ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ ป้อง ตรงภายในของ เอสแอลเค ตัวใหม่เหมือน เอสแอลเอส คาแรคเตอร์ เอสแอลเค ดูล้ำๆ ดูอวกาศนิดๆ ทุกตัวเขามีความพิถีพิถันกับงานของเขา
ภัทรกิติ์ : ตัวเก่าดูเป็น เมร์เซเดส-เบนซ์ สำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ เอสแอลเค ตัวใหม่ ดูเป็น เมร์เซเดส-เบนซ์ที่สุขุม ลูกค้าแท้ๆ จะชอบรุ่นใหม่มากกว่า เพราะมันดูดีมีราคากว่า ดูแพงกว่า ไม่แฟชันจัดเกินไป
อภิชาต : ถ้าจะถามว่าตัวไหนสวยกว่าตัวไหน พูดค่อนข้างยาก ตัวเก่ามีคาแรคเตอร์ชัดเจน แต่ตัวใหม่ดูย้อนอดีตกลับไป ถ้าถามว่าทำดีไหม เขาทำดีมากนะครับ ดูยังไงก็สวย เป็นการดีไซจ์นแปลก ดูน่าสนใจ แต่สำหรับผม ผมชอบเวอร์ชันเก่า
ภัทรกิติ์ : ผมว่านาทีที่ เอสแอลเค ออกมา มันดูล้ำที่สุดแล้วครับ ลองดู เอสแอลอาร์ แมคลาเรน สิครับเหมือน เอสแอลเค อย่างกับแกะ รถคันนี้มันสุดทุกอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นภายนอก เส้นสายการออกแบบ หรือภายในที่ดูลงตัว แทบจะไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มแล้ว เรียกว่า เอสแอลเอส ย่อส่วน หรือ PULL MAN SLS ก็ได้ แต่คำว่าจนของเขา ก็ยังรวยอยู่ดีนะครับ...
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ