รู้ทันเทคนิค
เครื่องยนต์กับช่วงล่าง ต้องไปพร้อมกัน
ปัจจุบันเทคโนโลยีของเครื่องยนต์นั้นก้าวหน้าไปมาก เห็นได้จากเครื่องยนต์ความจุเท่าเดิม แต่มีกำลังสูงกว่าเครื่องยนต์เมื่อ 10 กว่าปีก่อนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ในรถกระบะขนาด 1 ตัน เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร จากเดิมที่เคยมีกำลังเฉลี่ยเพียง 87-95 แรงม้า ในยุคนั้น ปัจจุบันมีกำลังมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเครื่องยนต์นั้นก้าวล้ำหน้าไปมากทีเดียว เมื่อก่อนนั้น รถกระบะเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร กำลังราวๆ 90 แรงม้า ไม่สามารถไล่ทันรถเก๋งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ได้ทัน ถ้าไม่ผ่านการโมดิฟายด์ ในส่วนของเครื่องยนต์ แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นว่ารถยนต์นั่งที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แทบไล่รถกระบะสมัยนี้เกือบจะไม่ทันเลยด้วยซ้ำไป
เมื่อเครื่องยนต์แรง ช่วงล่างก็ต้องดีด้วย
การพัฒนารถยนต์ ใช่ว่าจะพัฒนาเฉพาะเครื่องยนต์ หรือรูปลักษณ์เท่านั้น การพัฒนารถยนต์ต้องพัฒนาควบคู่กันไปทุกๆ ส่วน เมื่อเครื่องยนต์แรงขึ้น ก็สามารถทำความเร็วได้มาก สิ่งที่จะทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย คือ เรื่องของการทรงตัว ยิ่งกำลังเครื่องยนต์มาก ช่วงล่างก็ต้องสามารถตอบสนองได้ตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัย การพัฒนาช่วงล่างนั้น สิ่งที่ถือว่ามีความสำคัญมาก คือ "ชอคอับ" เพราะมีหน้าที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน และมีส่วนช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่และการทรงตัวในโค้ง รถหลายรุ่นแม้พื้นฐานการออกแบบระบบช่วงล่างมาดีแค่ไหน แต่ถ้าชอคอับประสิทธิภาพต่ำ การทรงตัวของรถก็ยิ่งแย่กว่าที่ควรจะเป็น รถหลายรุ่นเมื่อเปลี่ยนชอคอับใหม่ จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่ดีขึ้นอย่างทันที
เทคโนโลยีใหม่ ปรับได้อัตโนมัติ
ชอคอับ มอนโร เริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 2459 ด้วยกิจการปั๊มสูบลมยาง แล้วก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจชอคอับ เป็นเวลายาวนานกว่า 94 ปี การพัฒนาชอคอับต้องมีความทัดเทียมกับเทคโนโลยีของตัวรถ เพื่อให้รองรับกำลังและสมรรถนะได้อย่างเหมาะสม ลองมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีแบบทวินดิสค์ (TWIN DISC TECHNOLOGY) กันดีกว่า ว่าชอคอับในปัจจุบันนี้มีความก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว เทคโนโลยีนี้ จะมีระบบวาล์วภายในชุดลูกสูบเพื่อทำงานให้สอดคล้องตามความเร็วของลูกสูบขณะเคลื่อนที่ ส่งผลให้ชุดวาล์วแบบพิเศษ 2 ตัว มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อเสถียรภาพการทรงตัวของรถยนต์ และสามารถควบคุมตัวถังของรถไม่ให้โคลงตัว โดยวาล์วจำนวน 2 ตัว ที่วางซ้อนกันจะยอมให้ปริมาณน้ำมันไหลผ่าน แปรผันตามแรงดันที่เกิดขึ้นขณะนั้น ทำงานภายใต้แรงดันภายใน (DAMPING FORCED) สูงในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่น้อย ซึ่ง DAMPING FORCED ที่เกิดในช่วงที่ลูกสูบมีการเคลื่อนที่น้อย จะเป็นผลดีต่อการขับขี่ในขณะที่มีการเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน รวมถึงการเบรคในระยะกระชั้นชิด ทำให้ล้อยังคงสัมผัสกับผิวถนนตลอดเวลา การทำงานของระบบดังกล่าวส่งผลให้การทำงานของชอคอับมีประสิทธิภาพดีขึ้น ตอบสนองได้ทันทีตามลักษณะการขับขี่ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการตอบสนองในโค้ง ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการบังคับควบคุม ส่งผลในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากขึ้น เทคโนโลยีทวินดิสค์เป็นชอคอับแกสที่ปรับระดับอัตโนมัติ จะทำหน้าที่ปรับระดับทันที ตามสภาพพื้นผิวถนน ซึ่งผ่านการทดสอบ SCIENTIFIC DRIVE TESTS เป็นการขับทดสอบตามหลักทฤษฏีแบบสากล โดยสมมติสถานการณ์ขณะขับทดสอบ เช่น การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การเข้าโค้งที่ความเร็วสูง เป็นต้น เทคโนโลยีนี้สามารถรักษาเสถียรภาพได้ดีกว่าโดยเฉลี่ย 44 %
การเลือกชอคอับให้เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากรถสแตนดาร์ดถูกออกแบบเพื่อการใช้งานทั่วไป ไม่ได้มุ่งเน้นลักษณะการขับขี่ทางใดทางหนึ่ง หลายคนใช้งานบนถนนทั่วไปและต้องการประสิทธิภาพการทรงตัวในความเร็วสูง ก็ควรเลือกชอคอับให้เหมาะกับความเร็วสูง บางท่านที่ใช้รถบนสภาพเส้นทางทุรกันดาร ก็ควรเลือกให้เหมาะสม เพราะการตอบสนองจะแตกต่างกันไป รถหลายรุ่นที่ออกมาจากโรงงาน อาจตอบสนองไม่ดีนัก ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้มีการตอบสนองที่ดีขึ้นได้ไม่ยาก
ABOUT THE AUTHOR
พ
พหล ฯ 30
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : รู้ทันเทคนิค