ญี่ปุ่นสะท้าน ไทยสะเทือน ! แผ่นดินไหวทางโน้น เขย่าตลาดรถยนต์ทางนี้

11 มีนาคม 2554 เกิดเหตุแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้8.9 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางอยู่ห่างจากชายฝั่งของเกาะฮอนชู 150 กม. เกิดสึนามิสูงกว่า 10 ม.และตามด้วยอาฟเตอร์ชอคขนาด 7.4 ริกเตอร์ ถาโถมเข้าใส่ สร้างความเสียหายให้แก่ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในเมืองมิยากิ และเมืองอื่นๆ อย่างมากมายมหาศาล 4 WHEELS ประมวลข่าวความเสียหายของบริษัทรถยนต์ในญี่ปุ่นมาได้ดังนี้   โตโยตา โรงงานที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่เขตอิวะเตะ และมิยากิ เป็นโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วน และรับประกอบรถยารีส รวมถึงการส่งออก เลกซัส แอลเอส และปรีอุส ต้องล่าช้าออกไป ที่โรงงาน KANTO AUTO WORKS LTD. ทำหน้าที่ประกอบ ไซออน ในเซนได ที่รับหน้าที่ประกอบ ยารีสต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว ส่งผลให้รถที่จะส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ต้องล่าช้าออกไปยอดความเสียหายของ โตโยตา รวมกว่า 40,000 คัน   ฮอนดา สั่งหยุดโรงงาน 2 แห่งในเมืองโตชิจิ ประมาณ 136 กม. ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว และโรงงานในเมือง ซายามะ ที่อยู่ทางตอนเหนือเช่นเดียวกัน ซึ่งรถในไลน์การผลิตที่ได้รับผลกระทบ คือ ฮอนดา ฟิท/แอคคอร์ด ซีดาน และซีอาร์-วี รวมไปถึง อคูรา อาร์แอล และทีเอสเอกซ์ ส่วนศูนย์ R&D ที่โตชิกิ ทั้ง 3 โรงงานในซายามะ, อามามัตสึ และซูซูกะ ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน รถยนต์ได้รับความเสียหายกว่า 16,600 คัน ได้แก่ ฮอนดา ฟิท/อินไซจ์ท์ และอคูรา อาร์แอล ที่เตรียมส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา   นิสสัน โรงงานผู้ผลิตอยู่ในเขตอิวากิของจังหวัดฟูกูชิมะ ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีรายงานว่าเกิดเพลิงไหม้ที่โรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง หนึ่งในนั้นเป็นโรงงานผลิต อินฟินิที เอมและนิสสัน จีที-อาร์ ทำให้รถยนต์กว่า 1,300 คันที่จอดอยู่บริเวณท่าเรือฮิตาชิ ที่ส่วนใหญ่ คือ อินฟินิทีที่เตรียมส่งไปสหรัฐอเมริกา ได้รับความเสียหายอย่างหนัก   ซูบารุ ประกาศสั่งปิดโรงงาน 5 แห่งในประเทศญี่ปุ่น ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ในประเทศไทย ถึงผลกระทบที่จะเกิดในตลาดรถยนต์บ้านเรา   โตโยตา วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด “โตโยตา ได้ชะลอการผลิตในส่วนของโอที หรือคิดเป็น10 %ของกำลังการผลิตทั้งหมด ในส่วนของโตโยตา มีสตอคอะไหล่ ที่สามารถผลิตรถยนต์ได้ถึงเดือนเมษายนนี้ ดังนั้นระหว่างนี้อาจจะส่งมอบรถยนต์บางรุ่นให้ลูกค้าล่าช้าออกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย และเตรียมรับสถานการณ์ หากชิ้นส่วนอะไหล่จากญี่ปุ่นส่งมาล่าช้า ก็ต้องหาซัพพลายเออร์จากที่อื่น แต่ โตโยตา ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เพราะโรงงานผลิตอะไหล่อยู่ที่ไอจิ ห่างจากที่เกิดเหตุพอสมควร”   อีซูซุ ฮิโรชิ นาคางาวะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โรงงานรถยนต์หลายแห่ง รวมทั้ง อีซูซุ ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน ซึ่งภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้รุนแรงมาก แต่สตอคอะไหล่ของเราก็มีเพียงพอที่จะผลิตรถยนต์ได้ถึงเดือนเมษายนนี้ ที่เป็นปัญหา คือ บริษัทซัพพลายเออร์ผู้ส่งอะไหล่ผลิตรถพิคอัพให้เรา เพราะบริษัทเหล่านี้ได้สั่งวัตถุดิบบางอย่างมาจากญี่ปุ่น ซึ่งจากการสอบถามแล้ว ปัญหาเบื้องต้น คือ การติดต่อสื่อสาร จึงไม่สามารถทราบข่าวสารจากทางญี่ปุ่นได้ทั้งหมดในเวลานี้ แต่อะไหล่ที่ประกอบรถ อีซูซุ นั้น ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนของไทยเกือบทั้งหมด คงต้องยอมรับว่า ช่วงนี้การผลิตและส่งมอบรถให้ลูกค้าของ อีซูซุ คงดำเนินการได้ล่าช้าลงไปบ้าง เพราะต้องรอดูสถานการณ์ และเตรียมความพร้อม เพราะบริษัท หรือโรงงานที่ญี่ปุ่น ณ เวลานี้ ถึงจะเดินกำลังการผลิต แต่ก็ยังไม่เต็มที่ เพราะต้องดูแลพนักงาน และบุคลากรก่อนเป็นอันดับแรก”   มาซดา โยอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด “ในส่วนของรถ มาซดา ได้นำเข้าชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาประกอบดังนี้ รถพิคอัพ บีที-50 ใช้ประมาณ 20-30 %มาซดา 2ประมาณ40 %และมาซดา 3 ใหม่นำเข้าชิ้นส่วนมากกว่า 40 %แต่ลูกค้าที่จองมาซดา 3 ใหม่ จะได้รับรถในเดือนกรกฎาคม แต่จากนั้นต้องรอดูกันอีกครั้งหนึ่ง ยูจิ นากามิเน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง มาซดา มอเตอร์คอร์พอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น “มาซดา 3 โฉมใหม่ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวไป เป็นรถยนต์ที่ผลิต ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จ. ระยอง (รุ่นเก่านำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์) ซึ่งในช่วงแรกจะใช้ชิ้นส่วนการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก และจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ย่อมมีผลกระทบกับการผลิตบ้างแต่จะมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ทางบริษัท ฯ กำลังประเมินสถานการณ์อยู่"   มิตซูบิชิ เป็นแถลงการณ์จาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น แจ้งว่า การดำเนินงานของโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น ทั้ง 3 แห่ง อันได้แก่ โรงงานในเมืองนาโกยา จังหวัดไอจิ, โรงงานผลิต ปาเจโร ในเมืองทาคายามา จังหวัดกิฟู และโรงงานในเมืองมิซูซิมา จังหวัดโอกายามา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวซึ่งเกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โตโฮกุ แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนบางรายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย ดังนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน จึงประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ชั่วคราวในวันที่ 14-15 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย จึงประกาศในการปฏิบัติงานของพนักงานในโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาฝ่ายสรรหาชิ้นส่วน ก็ได้รับการยืนยันว่า โรงงานทั้ง 3 แห่ง จะสามารถดำเนินการผลิตรถยนต์ต่อได้ ตามปกติในวันพุธที่ 16 มีนาคม ส่วนการผลิตในวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม นั้นต้องรอการตรวจสอบและยืนยันอีกครั้งในวันอังคารที่ 15 มีนาคม หรือเป็นการยืนยันวันต่อวัน สำหรับโรงงานผลิตในประเทศไทยทั้ง 2 แห่ง ยังคงดำเนินการผลิตต่อไปตามปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร   ฮอนดา อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด “ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะการซัพพลายชิ้นส่วนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งผลกระทบมาสู่ประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเร็วหรือช้า ซึ่งถ้าหากล่าช้าก็จะส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันสตอคชิ้นส่วนที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สามารถผลิตได้ถึงช่วงกลางเดือนเมษายน เพราะชิ้นส่วนบางอย่างเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้าเมื่อถึงเวลานั้นต้องทบทวนอีกครั้งว่าจะสามารถใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตจากประเทศอื่นได้หรือไม่ ซึ่งต้องมีการพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง”   นิสสัน ประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขณะนี้ นิสสัน อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสาร แต่ที่ผ่านมา นิสสัน สั่งอะไหล่ชิ้นส่วนจากประเทศญี่ปุ่นไม่มากนัก เพราะได้มีการกระจายไปในหลายประเทศ ซึ่งหากประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถส่งให้ได้ ก็สั่งจากประเทศอื่นมาทดแทนกันได้ อีกส่วนหนึ่ง นิสสัน ได้สั่งสตอคอะไหล่ชิ้นส่วนสำหรับการผลิตในช่วงเดือนเมษายน เนื่องจากว่าประเทศไทยจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีชิ้นส่วนการผลิตที่สามารถผลิตรถได้ถึงเดือนเมษายน”