เจมส์ บอนด์ เจเนอเรชัน 6

ถ้าถามว่า "เดิมพันระห่ำโลก" เป็นเบ้าหลอมสายลับอังกฤษคนใหม่-แดเนียล คเรก และ"ทวงแค้นระห่ำโลก" ก็คือ การตอกย้ำความเป็น เจมส์ บอนด์ 007 ของนักแสดงคนที่ 6ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอน "พยัคฆ์ร้ายเดินพันระห่ำโลก" (CASINO ROYALE) อันเป็นเรื่องแรกของ บอนด์แดเนียล คเรก ในการสวมบทบาทสายลับชาวอังกฤษ รหัสประจำตัว 007 ซึ่งได้รับการตอบสนองจากบรรดาแฟนภาพยนตร์อย่างดีเกินคาด หลังจากฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2006 สามรถทำรายได้ ด้วยยอดเงิน 594 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ตอน "พยัคฆ์ร้ายเดิมพันระห่ำโลก" กลายเป็นเจมส์ บอนด์ ที่ทำเงินได้สูงสุดกว่าทุกตอน แฟนภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ ทั่วโลกต่างยอมรับ และนับถือความสามารถ แดเนียลคเรก ยกให้เป็นผู้สวมบท เจมส์ บอนด์ ที่เหมาะสม และตรงตามความฝันของ เอียน ฟเลมิงนักประพันธ์นวนิยายชุด เจมส์ บอนด์ แดเนียล คเรก เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ เกิดเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เขาเป็นนักแสดงทั้งหนังใหญ่และหนังชุดทีวี ในวงการหนังใหญ่ รวมทั้งการรับเล่นบท อเลกซ์ สมิธ กับ แองเจลินา โจลี เรื่อง LARA CROFT: TOMB RAIDER ในปี 2001 และปีต่อมาเขาก็ได้แสดงเป็น คอนเนอร์ รูนีย์ ลูกชายของ พอล นิวแมน ร่วมกับ ทอม แฮงค์ ในเรื่อง ROAD TO PERDITION และนักสร้างที่ยิ่งใหญ่ของฮอลลีวูด-สตีเวน สปีลเบิร์ก เลือก แดเนียล คเรก ได้แสดงบท "สตีฟ" ในเรื่อง MUNICH ปี 2005 ในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม แดเนียล คเรก ก็บรรลุข้อตกลงกับEON PRODUCTIONS สำหรับการแสดงภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ ทั้งหมด 5 ตอนและได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงคนที่ 6 ต่อจากนักแสดงที่สวมบทบาท เจมส์ บอนด์ ทั้ง 5 คนคือ ฌอน คอนเนอรี/จอร์จ ลาเซนบี/โรเจอร์ มัวร์/ทิโมธี ดัลทัน และเพียร์ศ บรอสแนน "เดิมพัน" เป็นภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ตอนที่ 21 ขณะที่ "พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก"(QUANTUM OF SOLACE) เป็นตอนที่ 22 และนั่นหมายถึง คเรก จะต้องเล่นตามสัญญาจนถึงตอนที่ 25 โดยตอนที่ 23 (ยังไม่มีชื่อเรื่อง) ถูกประกาศแล้วว่าจะออกฉายในปี 2010 "ทวงแค้น" เป็นความต่อเนื่องมาจากเรื่อง "เดิมพัน" ซึ่งสานต่อจากเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสายลับ 007 กับ เวสเพอร์ ลินด์ (แสดงโดย เอวา กรีน) ภารกิจแรกของ เจมส์ บอนด์เกี่ยวข้องถึงนายธนาคาร และขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ โดยฉากสำคัญของเรื่องเป็นบ่อนคาสิโน ซึ่ง เจมส์ บอนด์ ต้องคว่ำเกมของ เลอ ชิฟเฟอร์ ให้ได้ ผมติดตาม เจมส์ บอนด์ มาตั้งแต่ DR. NO เข้าฉายที่โรงหนัง กแรนด์ วังบูรพา เป็นบ้าไปกับแฟชันที่พระเอก บอนด์ ยัดเยียดผ่านจอมาให้ เริ่มตั้งแต่กระเป๋าเอกสาร ซึ่งนำผมไปสู่การซื้อกระเป๋ายี่ห้อแซมโซไนท์ และกระเป๋าเอกสารถูกเรียกว่ารุ่น "เจมส์ บอนด์" ปรากฏในตอน FROM RUSSIA WITH LOVE ปี 1963 อันที่จริงกระเป๋าเอกสารแบบนี้ เป็นกระเป๋าสำหรับสายลับ เก็บทุกอย่างที่เป็นอาวุธ ปืนพก .22มีดสวิส เงินสกุลต่างๆ แกสบอมบ์ และสารไซยาไนด์ เจมส์ บอนด์ ตอน THUNDERBALL ปี 1965 ผมก็ชอบใจเมื่อเห็นยานตัวใหม่ของสายลับ 007 สภาพการใช้เหมือนกับงัดเอาพนักพิงหลังจากเบาะนั่งมาสวมติดกับตัว ความสามารถก็คือ บินขึ้นได้ ผมประทับใจไปงั้นเอง เพราะยังไงก็ซื้อหาไม่ได้ แต่เกิดไอเดียส่วนตัวอยากเขียนเรื่องผู้ก่อการร้ายกักตัวประกันบน "ดุสิตธานี เทียรา" พระเอกก็น่าจะใช้ยานติดจรวดตัวนี้บินปฏิบัติการช่วยตัวประกัน และอาวุธลับของ เจมส์ บอนด์ มีหลากหลาย ถึงปี 1997 TOMORROW NEVER DIES บอนด์ ก็ใช้มือถือผิดประเภท แทนที่จะใช้เพื่อพูด-รับสาย หรือเล่นเกมส์ เขากลับเอามาใช้เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือ ลอคประตูและรีโมทรถยนต์คู่ใจ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว สายลับอังกฤษก็ใช้รถคันใหม่ แอสตัน มาร์ทิน ในตอน DIE ANOTHER DAY (ปี 2002) รถ เจมส์ บอนด์ คันนี้ถูกนำมาใช้กับนักแสดงสายลับคนที่ 6 ด้วย ทั้งในเรื่อง "เดิมพัน" และ "ทวงแค้น" ส่วนผมในฐานะที่ชอบการเขียนเรื่องราวภาพยนตร์ จึงสนใจการเขียนบทภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ และเพื่อหาคำตอบว่า เพราะเหตุใดภาพยนตร์ชุดนี้ จึงสามารถดึงเงินจากกระเป๋าแฟนๆ ภาพยนตร์อย่างยาวนานถึง 22 ตอนและท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ปรากฏว่า เซบัสเตียน ฟอล์คส์ ใช้เวลาเขียนบทภาพยนตร์ "พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก" แค่ 6 อาทิตย์ ฟอล์คส์ เป็นนักประพันธ์ชาวอังกฤษ อายุ 54 ปี กำลังเขียนหนังสือเล่มล่าสุดของเขาเกี่ยวกับชีวิตของ เอียน ฟเลมิง กำหนดวางแผงปีหน้า อันเป็นวาระครบ 100 ปีชาตกาล เอียน ฟเลมิง รสชาติของ เจมส์ บอนด์ จากตอนล่าสุด ผมเห็นว่าได้พัฒนาไปตามความเปลี่ยนแปลงของโลกตั้งแต่ไทเทิล และฉากรักพิศวาส ส่วนสาระความตื่นเต้นในฉากการต่อสู้ก็ยังคงเป็นสไตล์เจมส์ บอนด์ ทุกกระเบียดนิ้ว สาว เจมส์ บอนด์ คนใหม่ของเรื่องนี้ คือ ออลกา คูรีเลนโก นักแสดงชาวยูเครนรับบท คามิลล์ ตัวอันตราย แต่เสน่ห์เร้าใจ ผมเห็นจะต้องยอมรับ ถ้าพวกเขาประกาศว่าเป็น เจมส์ บอนด์ อีกตอนหนึ่งที่ทำเงินรายได้สูงสุด