โลกติดล้อ
ปี 2015 พิสูจน์ความสำเร็จของ กีลี (GEELY)
รถยนต์ญี่ปุ่น และเกาหลี ประสบความสำเร็จมาแล้วในตลาดสหรัฐอเมริกา ทำไมรถยนต์จากจีนจะทำไม่ได้ ?
ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นผู้พิสูจน์ และตัดสินว่า สิ่งที่รถยนต์จากโลกตะวันออกนำเสนอให้นั้น ถูกใจพวกเขาหรือเปล่า
ไม่น่าเชื่อว่า รถญี่ปุ่นจะทำได้ เมื่อ 40 ปี ก่อนโน้น แต่ โตโยตา และ ฮอนดา ก็เจาะเข้าตลาดสหรัฐอเมริกา ได้ด้วยสิ่งที่รถยุโรปมี และแถมเพิ่มอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ในราคาที่ถูกกว่า
รถ โตโยตา แคมรี ราคาล้านกว่าบาท แต่มีความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอยเพียบ ก็ทำให้รถเมร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอมดับเบิลยู ต้องสะเทือน
ดังนั้นถ้าหากรถยนต์จากจีนของ กีลี จะเข้าไปบุกตลาดสหรัฐอเมริกาบ้าง ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ว่าจีนมีอะไรจะเสนอให้ต่างหาก
เจ้าของ และผู้ก่อตั้ง กีลี แซ่ลี้ ชื่อว่า ชูฟู เป็นเด็กบ้านนอก ยากจน จากครอบครัวชาวนา เขาบอกว่าเขาจะแข่งกับรถจากค่ายตะวันตกด้วยดีไซจ์น วิศวกรรม และการผลิต ที่เปลี่ยนกระบวนการใหม่ทำให้เกิดรถยนต์ซีดานคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยขายในราคาที่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ ฯ (3 แสนกว่าบาท)
นี่เป็นกลยุทธ์เดียวกับ โตโยตา สมัยเข้าตลาดสหรัฐอเมริกาใหม่ๆ ไม่ใช่หรือ
ในโลกรถยนต์ ลี้ ชูฟู คือ ผู้ก้าวเข้ามาใหม่ ที่ใครๆ ต้องจับตามอง
อาณาจักร กีลี เริ่มต้นจากการผลิตตู้เย็น จักรยาน จักรยานยนต์ มาสู่การผลิตรถยนต์ 100,000 คัน/ปี สิ่งที่ทำให้ กีลี แตกต่างจากองค์กรธุรกิจอื่นๆ ของจีน ก็คือ รัฐบาลจีนไม่มีหุ้นในบริษัท ฯ นี้
กีลี ลอยเด่นอยู่บนเวทีโลกรถยนต์นานาชาติเป็นครั้งแรก เมื่อไปร่วมงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่สหรัฐอเมริกา โดยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เขาเริ่มผลิตรถยนต์ในปี 1996 และได้ผ่านความยากลำบากนานับประการ แต่ปีนี้ เขาภูมิใจที่จะประกาศว่า จะนำรถยนต์ของ กีลี มาสู่ผู้บริโภคคนอเมริกัน โดยเป็นรถยนต์ที่ปลอดภัย ให้ความเป็นกันเอง และราคาไม่แพง
ผู้เขียนคลิคเข้าไปดูในเวบไซท์ของ กีลี เห็นรถเก๋งหน้าตาสวยเท่ ให้ความรู้สึกประมาณรถ บีเอมดับเบิลยู และ โลโก ก็ให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน ยอมรับว่าจูงใจไม่เบา
ที่มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ กีลี นำรถซีดาน สำหรับผู้โดยสาร 5 คน รุ่น 7151 ซีเค ไปแสดง เจ้าหน้าที่ของ กีลี อธิบายว่ารถรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ของรถรุ่นหลักของ กีลี แต่รถที่จะนำเข้ามาในสหรัฐ ฯ จะเป็นรุ่นที่ 5 ซึ่งแน่นอน จะผ่านการปรับปรุงในด้านดีไซจ์น และวิศวกรรมอีกมาก และก็ไม่แน่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นมันจะยังคงใช้ชื่อนี้หรือไม่
ชูฟู นั้นแม้เป็นเด็กยากจน แต่มีความผูกพัน และใฝ่ฝันเกี่ยวกับรถยนต์มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เขาถึงกับเอาดินท้องนามาปั้นเป็นรถ และล้อรถ เอาไว้ดูเล่น ชูฟู ซึ่งบัดนี้อายุเพียง 44 ปี บอกว่า คนเราถ้ามีความพยายามเสียอย่าง ก็จะบรรลุถึงความฝันจนได้
ชื่อ กีลี มาจากภาษาจีนซึ่งแปลว่า ฉันโชคดี แต่โชคไม่ได้นำพา ชูฟู มาสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก สิ่งที่ส่งเขามาสู่วันนี้ คือ วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่น เขาเฝ้าศึกษาถึงความสำเร็จของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก รวมทั้งศึกษาข้อผิดพลาดของรถยนต์ที่พยายามเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา เพื่อจะได้ไม่ทำผิดแบบเดียวกัน
ในยุคที่น้ำมันแพงขึ้นอีก เวลานี้คนอเมริกันใช้น้ำมันแกลลอนละ 4 เหรียญสหรัฐ ฯ (ราว 120 บาท) ชูฟูจึงเห็นว่านี่คือโอกาส ที่คนอเมริกันจะต้องหันมาใช้รถยนต์ราคาประหยัดกัน
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่าง จีเอม ยังขาดทุนยับเยิน ปลดคนงาน ปิดโรงงาน กีลี ก็ใช้ความได้เปรียบของการเติบโตที่แข็งแรงในประเทศ เป็นฐานก้าวกระโดดออกสู่เวทีโลก
เดือนที่แล้ว ชูฟู ประกาศเปิดโรงงานใน เมกซิโก มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ (ราว 15,000 ล้าน บาท) เป็นฐานการผลิตรถออกสู่ตลาดสหรัฐ ฯ และละตินอเมริกา
นับว่าไม่เลวเลยสำหรับบริษัทรถยนต์ที่มีอายุแค่ 12 ปี นับว่าเป็นก้าวที่ไกลโข จากธุรกิจร้านถ่ายรูปสมัย เติ้ง เสี่ยว ผิง มาถึงธุรกิจตู้เย็น จนถึงรถยนต์ในวันนี้
เขาผลิตรถยนต์คันแรก ชื่อ กีลี เอช คิว ในปี 1998 เป็นรถ แฮทช์แบค ที่ฮิทในจีนมาจนกระทั่งทุกวันนี้
แน่นอนหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จ ก็คือ ราคาที่ถูก ทำให้คนจีนสามารถซื้อหารถมาขับได้ ตัวอย่างเช่นรถ ฟรี ครูเซอร์ 4 ประตู รุ่นที่ขายดีมาก โดยขายในราคาเพียงคันละ 6,300 6,900 เหรียญสหรัฐ ฯ (190,000-210,000 บาท) เท่านั้น
แต่ปัจจุบันคนจีนร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หันไปสนใจรถยนต์ราคาแพงอย่าง โฟล์ค สวาเกน กอล์ฟ เขาจึงต้องหันไปหาตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ กีลี มีโรงงานอยู่ในอินโดนีเซีย รัสเซีย และยูเครน
ในด้านผลิตภัณฑ์เขาบอกว่า พร้อมเข้าสู่ตลาด ไฮบริด ในปี 2010 และภายในปี 2015 เขาก็วางแผนไว้ว่าจะขายรถครบ 2 ล้านคัน ให้จงได้
ABOUT THE AUTHOR
เ
เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2551
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ