X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
โลกติดล้อ
1 Nov 2008
ปี 2015 พิสูจน์ความสำเร็จของ กีลี (GEELY)
รถยนต์ญี่ปุ่น และเกาหลี ประสบความสำเร็จมาแล้วในตลาดสหรัฐอเมริกา ทำไมรถยนต์จากจีนจะทำไม่ได้ ? ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นผู้พิสูจน์ และตัดสินว่า สิ่งที่รถยนต์จากโลกตะวันออกนำเสนอให้นั้น ถูกใจพวกเขาหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อว่า รถญี่ปุ่นจะทำได้ เมื่อ 40 ปี ก่อนโน้น แต่ โตโยตา และ ฮอนดา ก็เจาะเข้าตลาดสหรัฐอเมริกา ได้ด้วยสิ่งที่รถยุโรปมี และแถมเพิ่มอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ในราคาที่ถูกกว่า รถ โตโยตา แคมรี ราคาล้านกว่าบาท แต่มีความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอยเพียบ ก็ทำให้รถเมร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอมดับเบิลยู ต้องสะเทือน ดังนั้นถ้าหากรถยนต์จากจีนของ กีลี จะเข้าไปบุกตลาดสหรัฐอเมริกาบ้าง ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ว่าจีนมีอะไรจะเสนอให้ต่างหาก เจ้าของ และผู้ก่อตั้ง กีลี แซ่ลี้ ชื่อว่า ชูฟู เป็นเด็กบ้านนอก ยากจน จากครอบครัวชาวนา เขาบอกว่าเขาจะแข่งกับรถจากค่ายตะวันตกด้วยดีไซจ์น วิศวกรรม และการผลิต ที่เปลี่ยนกระบวนการใหม่ทำให้เกิดรถยนต์ซีดานคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยขายในราคาที่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ ฯ (3 แสนกว่าบาท) นี่เป็นกลยุทธ์เดียวกับ โตโยตา สมัยเข้าตลาดสหรัฐอเมริกาใหม่ๆ ไม่ใช่หรือ ในโลกรถยนต์ ลี้ ชูฟู คือ ผู้ก้าวเข้ามาใหม่ ที่ใครๆ ต้องจับตามอง อาณาจักร กีลี เริ่มต้นจากการผลิตตู้เย็น จักรยาน จักรยานยนต์ มาสู่การผลิตรถยนต์ 100,000 คัน/ปี สิ่งที่ทำให้ กีลี แตกต่างจากองค์กรธุรกิจอื่นๆ ของจีน ก็คือ รัฐบาลจีนไม่มีหุ้นในบริษัท ฯ นี้ กีลี ลอยเด่นอยู่บนเวทีโลกรถยนต์นานาชาติเป็นครั้งแรก เมื่อไปร่วมงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่สหรัฐอเมริกา โดยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เขาเริ่มผลิตรถยนต์ในปี 1996 และได้ผ่านความยากลำบากนานับประการ แต่ปีนี้ เขาภูมิใจที่จะประกาศว่า จะนำรถยนต์ของ กีลี มาสู่ผู้บริโภคคนอเมริกัน โดยเป็นรถยนต์ที่ปลอดภัย ให้ความเป็นกันเอง และราคาไม่แพง ผู้เขียนคลิคเข้าไปดูในเวบไซท์ของ กีลี เห็นรถเก๋งหน้าตาสวยเท่ ให้ความรู้สึกประมาณรถ บีเอมดับเบิลยู และ โลโก ก็ให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน ยอมรับว่าจูงใจไม่เบา ที่มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ กีลี นำรถซีดาน สำหรับผู้โดยสาร 5 คน รุ่น 7151 ซีเค ไปแสดง เจ้าหน้าที่ของ กีลี อธิบายว่ารถรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ของรถรุ่นหลักของ กีลี แต่รถที่จะนำเข้ามาในสหรัฐ ฯ จะเป็นรุ่นที่ 5 ซึ่งแน่นอน จะผ่านการปรับปรุงในด้านดีไซจ์น และวิศวกรรมอีกมาก และก็ไม่แน่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นมันจะยังคงใช้ชื่อนี้หรือไม่ ชูฟู นั้นแม้เป็นเด็กยากจน แต่มีความผูกพัน และใฝ่ฝันเกี่ยวกับรถยนต์มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เขาถึงกับเอาดินท้องนามาปั้นเป็นรถ และล้อรถ เอาไว้ดูเล่น ชูฟู ซึ่งบัดนี้อายุเพียง 44 ปี บอกว่า คนเราถ้ามีความพยายามเสียอย่าง ก็จะบรรลุถึงความฝันจนได้ ชื่อ กีลี มาจากภาษาจีนซึ่งแปลว่า ฉันโชคดี แต่โชคไม่ได้นำพา ชูฟู มาสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก สิ่งที่ส่งเขามาสู่วันนี้ คือ วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่น เขาเฝ้าศึกษาถึงความสำเร็จของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก รวมทั้งศึกษาข้อผิดพลาดของรถยนต์ที่พยายามเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา เพื่อจะได้ไม่ทำผิดแบบเดียวกัน ในยุคที่น้ำมันแพงขึ้นอีก เวลานี้คนอเมริกันใช้น้ำมันแกลลอนละ 4 เหรียญสหรัฐ ฯ (ราว 120 บาท) ชูฟูจึงเห็นว่านี่คือโอกาส ที่คนอเมริกันจะต้องหันมาใช้รถยนต์ราคาประหยัดกัน ในขณะที่ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่าง จีเอม ยังขาดทุนยับเยิน ปลดคนงาน ปิดโรงงาน กีลี ก็ใช้ความได้เปรียบของการเติบโตที่แข็งแรงในประเทศ เป็นฐานก้าวกระโดดออกสู่เวทีโลก เดือนที่แล้ว ชูฟู ประกาศเปิดโรงงานใน เมกซิโก มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ (ราว 15,000 ล้าน บาท) เป็นฐานการผลิตรถออกสู่ตลาดสหรัฐ ฯ และละตินอเมริกา นับว่าไม่เลวเลยสำหรับบริษัทรถยนต์ที่มีอายุแค่ 12 ปี นับว่าเป็นก้าวที่ไกลโข จากธุรกิจร้านถ่ายรูปสมัย เติ้ง เสี่ยว ผิง มาถึงธุรกิจตู้เย็น จนถึงรถยนต์ในวันนี้ เขาผลิตรถยนต์คันแรก ชื่อ กีลี เอช คิว ในปี 1998 เป็นรถ แฮทช์แบค ที่ฮิทในจีนมาจนกระทั่งทุกวันนี้ แน่นอนหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จ ก็คือ ราคาที่ถูก ทำให้คนจีนสามารถซื้อหารถมาขับได้ ตัวอย่างเช่นรถ ฟรี ครูเซอร์ 4 ประตู รุ่นที่ขายดีมาก โดยขายในราคาเพียงคันละ 6,300 6,900 เหรียญสหรัฐ ฯ (190,000-210,000 บาท) เท่านั้น แต่ปัจจุบันคนจีนร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หันไปสนใจรถยนต์ราคาแพงอย่าง โฟล์ค สวาเกน กอล์ฟ เขาจึงต้องหันไปหาตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ กีลี มีโรงงานอยู่ในอินโดนีเซีย รัสเซีย และยูเครน ในด้านผลิตภัณฑ์เขาบอกว่า พร้อมเข้าสู่ตลาด ไฮบริด ในปี 2010 และภายในปี 2015 เขาก็วางแผนไว้ว่าจะขายรถครบ 2 ล้านคัน ให้จงได้
อ่านต่อ
เรื่องโดย : เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2551
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/79024
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
โลกติดล้อ
โลกติดล้อ
29 Mar 2018
รถครอบครัว
โลกติดล้อ
7 Mar 2018
จีพลุยน้ำ
โลกติดล้อ
30 Jan 2018
รถ เวสปา อีกหนึ่งดีไซจ์นจากอิตาลี
โลกติดล้อ
9 Jan 2018
พิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่ยุโรป
โลกติดล้อ
1 Dec 2017
WOW...นี่แหละรถคนรวยจริง
โลกติดล้อ
1 Nov 2017
รถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียน
โลกติดล้อ
1 Oct 2017
ผู้ชายเบื้องหลัง งานดีไซจ์นของ ฟอร์ด
ดูต่อในคอลัมน์ โลกติดล้อ