ซีตรอง เซ-ครอสเซอร์

ซีตรอง เซ-ครอสเซอร์ (CITROEN C-CROSSER) เป็นรถครอสส์โอเวอร์ที่เกิดจากการร่วมมือพัฒนา ระหว่าง ซีตรอง เปอโฌต์ และ มิตซูบิชิ (โดยค่าย เปอโฌต์ ใช้ชื่อรุ่น 4007 และค่าย มิตซูบิชิ ใช้ชื่อว่า เอาท์แลนเดอร์) ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบพาร์ทไทม์ 4x4 รูปทรงภายนอกของ เซ-ครอสเซอร์ จัดว่าลงตัวที่สุดของทั้ง 3 คัน โดยเฉพาะด้านหน้า ที่ออกแบบอย่างประณีต ด้วยการจัดวางเครื่องหมาย "จ่าโท" ไว้ในชุดช่องดักลมด้านหน้าได้น่าประทับใจ จากด้านหน้าจรดด้านหลัง มีความกลมกลืน และโฉบเฉี่ยว แต่ไม่ก้าวร้าว รูปลักษณ์สัดส่วนลงตัวอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล 30 %   แต่ที่ผิดหวัง คือ ภายในห้องโดยสาร น่าจะมีการใช้วัสดุที่ดี สมกับเม็ดเงินที่จ่ายไป อย่างน้อยต้องควร อยู่ในระดับเดียวกับ ซีตรอง เซ ซิซ (CITROEN C6) ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของในแผงประตู หรือตกแต่งด้วยลายไม้ และช่องเก็บของบนแผงคอนโซลด้านหน้า   การออกแบบเบาะนั่ง ทำได้อย่างสวยงาม และกระชับ นั่งสบาย เสียแต่พวงมาลัยมีการปรับระยะได้ ค่อนข้างจำกัด ส่วนการจัดท่านั่ง ถือว่าลงตัว ใช้งานสะดวก และไม่เมื่อยล้าในการเดินทางไกล เบาะนั่งในแถวหลังปลอดโปร่งสบาย ที่นั่งแถวที่ 3 มีการใช้งานสะดวก แต่มีขนาดค่อนข้างเล็ก เหมาะกับเด็ก หรือผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ แต่ก็ทำให้มีเนื้อที่เหลือ สำหรับการเก็บสัมภาระได้มากถึง 510 ลิตร ส่วนประตูหลัง จัดว่าใช้งานสะดวกมาก   เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร วิศวกรของ ซีตรอง ได้ปรับระบบรองรับให้ค่อนข้างนุ่มนวล เพื่อ การเดินทางที่สบาย และเป็นการสร้างคุณค่าให้กับตัวรถ แต่ผลกลับทำให้เกิดอาการโยนตัวเล็กน้อยที่ความเร็วสูง หรือในเส้นทางขรุขระยังมีแรงสะเทือน และเสียงผ่านเข้ามาภายในห้องโดยสาร แต่ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการควบคุมการขับขี่ที่ดี ไม่โคลงมากนัก และโดดเด่นที่มีระบบบังคับทิศทางแม่นยำ อย่างไรก็ตามการตอบสนองการควบคุม ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับ แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ ได้   สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบเรียงของ PSA ความจุ 2.2 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังใช้ ได้ (เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ของ โฟล์คสวาเกน ที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรง มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ) โดยให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 2,000 รตน. แรงบิดสามารถเรียกใช้งานได้ตั้งแต่ 1,750 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. อย่างไรก็ตามสำหรับ เซ-ครอสเซอร์ ยังต้องปรับปรุงด้านการเก็บเสียง การทำงานของเครื่องยนต์ ที่ยังทำได้ไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงของ แลนด์ โรเวอร์   ส่วนระบบถ่ายทอดกำลัง เป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยการใช้งานปกติ แรงบิดจะถูกส่งไปสู่ล้อหน้า คนขับสามารถปรับเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งทำงานด้วยการถ่ายทอดแรงบิดผ่านชุดทรานสเฟอร์ และคลัทช์ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิค ที่จะรับข้อมูลจากความเร็ว มุมของพวงมาลัย ตำแหน่งปีกผีเสื้อ และความแตกต่างความเร็วล้อ เพื่อสั่งการให้ระบบคลัทช์ ทำการจ่ายแรงบิดไปยังล้อต่างๆ ตามความเหมาะสมของพื้นผิว นอกจากนั้นยังมีระบบที่ 3 ที่ส่งแรงบิดไปยังล้อหลังมากกว่า เพื่อให้มีการขับเคลื่อนในสภาพเส้นทางที่ลื่นมาก เช่น บนหิมะ และหล่มโคลน ได้ดีขึ้น   ในประเทศอังกฤษ จัดว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สร้างรายได้ให้กับ ซีตรอง เซ-ครอสเซอร์ ที่จะต้องเล่นจุดขาย ด้วยการเน้นคุณค่า และความคุ้มค่า