X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิคตีนโต
1 Oct 2007
VOLVO MULTI-FUEL&LAMBDA SOND
ปัญหาเรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องที่ถูกให้ความสนใจมากที่สุด รัฐบาลของนานาประเทศส่วนใหญ่ให้ความ สนใจกับเรื่องนี้เต็มที่ จะมีก็แต่บ้านเราที่ยังล่าช้ากับเรื่องนี้ โวลโว (VOLVO) เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีกค่ายหนึ่ง ที่มุ่งมั่นในเรื่องความปลอดภัยมาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ก็คือ เรื่องของการพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกให้กับรถในค่ายของตัวเอง ปัจจุบันหลายประเทศให้ความสำคัญเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทางเลือกมากขึ้น และมีใช้กันอย่างแพร่หลาย การนำมาใช้งานในหลายๆ แห่งก็เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ เพราะเครื่องยนต์รุ่นเก่านั้นไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเชื้อเพลิงหลายชนิด เมื่อนำเชื้อเพลิงทดแทน หรือเชื้อเพลิงทางเลือกมาใช้ร่วมกัน มักก่อให้เกิดปัญหาในส่วนของเครื่องยนต์ตามมา ในบ้านเราเองก็จะคุ้ยเคยกับเชื้อเพลิงทางเลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แกสโซฮอล ไบโอดีเซล แกสซีเอนจี (CNG) และ แกสแอลพีจี (LPG) เพราะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ แต่ปัญหาของการนำมาใช้งานนั้น มันก็มีตามมาบ้าง ยกตัวอย่าง เช่น เครื่องยนต์เบนซินที่ต้องใช้น้ำมันออคเทน 95 พอเปลี่ยนมาใช้แกสโซฮอล 95 เครื่องยนต์อาจจะไม่ส่งผลอะไรนัก แต่พอเปลี่ยนมาใช้แกสธรรมชาติอย่าง ซีเอนจี ปรากฏว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ นั่นเป็นเพราะว่า กำลังอัดของเครื่องยนต์ องศาการจุดระเบิดไม่เหมาะสม เพราะเวลาที่เราเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ จะไม่รู้เลยว่า เราเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงอะไร ? เช่น การเปลี่ยนจากน้ำมันเบนซินไปใช้แกสโซฮอล แต่ถ้าเปลี่ยนจากการใช้เบนซินไปเป็น ซีเอนจี ระบบจะไม่ทราบ เพราะจะต้องมี อีซียู (ECU) พ่วงเข้าไปอีก ชุด (สำหรับรถที่ติดตั้งแกสภายหลัง) เพราะใช้สัญญาณไปหลอก อีซียู เดิมโดยให้ อีซียู เดิม เข้าใจว่า ยังใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ตามปกติ เว้นแต่เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาจากโรงงานให้สามารถใช้แกส ซีเอนจี ได้ แบบนี้ อีซียู จะทราบว่ามีการเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง ก็จะมีการสั่งปรับการจุดระเบิดใหม่ให้เหมาะสมกับเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนไป การที่เครื่องยนต์ทำงานผิดเพี้ยน เพราะว่าเชื้อเพลิงแต่ละชนิด มีค่าความร้อนที่แตกต่างกัน มีอุณหภูมิ ที่ติดไฟต่างกัน และช่วงเวลาในการเผาไหม้ก็ต่างกัน ซึ่งเครื่องยนต์เองมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าเราจะยัดเชื้อเพลิงอะไรเข้าไป ถ้ามันจุดระเบิดได้มันก็จุด แต่เครื่องยนต์จะเดินเรียบดีหรือไม่นั้น มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความลับที่จะทำให้เครื่องยนต์ทราบได้ว่ามีการเปลี่ยนชนิดการใช้เชื้อเพลิงก็คือ ออกซิเจน เซนเซอร์ (OXYGEN SENSOR) ซึ่งปกติมันจะมีหน้าที่วิเคราะห์ส่วนผสมว่าเหมาะสมหรือไม่ ? แล้วรายงานให้ อีซียู ทราบ แต่วันนี้วิศวกรของ โวลโว พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ให้มีความสามารถมากขึ้น โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ๆ ที่ระบบมีความซับซ้อน เมื่อใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่น เครื่องยนต์จะมีอาการแตกต่างออกไป แม้เพียงเล็กน้อยเซนเซอร์ที่มีความละเอียดอ่อนก็จะส่งผลไปยัง อีซียู ทันที ส่วนใหญ่จะมีการปรับองศาการจุดระเบิด และการจ่ายน้ำมันใหม่ให้เหมาะสม แต่มีบางรุ่นที่ระบบก็ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เต็มร้อย เนื่องจาก อีซียู ไม่มีข้อมูลของเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ เลย เซนเซอร์หลักที่มีผล และมีหน้าที่โดยตรงต่อการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง คือ แลมบ์ดา เซนเซอร์ หรือเรามักเรียกกันว่า ออกซิเจน เซนเซอร์ ตัวนี้ จะมีหน้าที่วิเคราะห์ค่าจากการเผาไหม้ เพื่อให้ อีซียู ปรับการจ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสม ทาง โวลโว ได้พัฒนา แลมบ์ดา ซอนด์ (LAMBDA SOND) ขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้เชื้อเพลิงหลายชนิด กับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า มัลทิ-ฟิวเอล (MULTI-FUEL) เครื่องยนต์รุ่นนี้ สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ถึง 5 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นไบโอเอธานอล อี 85 แกสธรรมชาติ แก สไบโอมีเธน แกสฮีเธน ที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจน 10 % และสุดท้าย คือ น้ำมันเบนซิน ซึ่งการพัฒนาเครื่องยนต์ และ แลมบ์ดา ซอนด์ นี้ ทำให้ขจัดปัญหาเรื่องการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกที่ต่างกันออกไป ตามความเหมาะสม และทรัพยากรที่มีของแต่ละแห่ง คราวนี้ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงชนิดใด เครื่องยนต์ก็จะสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเดิมๆ ว่าเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงแล้ว เครื่องเร่งไม่ออก หรือเร่งแล้วเครื่องยนต์มีการทำงานผิดเพี้ยน ต่อไปนี้ เราลืมไปได้เลยกับปัญหาเก่าๆ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : พหล ฯ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : เทคนิคตีนโต
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/77475
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิคตีนโต
เทคนิคตีนโต
1 Oct 2007
VOLVO MULTI-FUEL&LAMBDA SOND