ไปเสริมบารมีกับ อีซูซุ

ตั้งแต่ทำ "ฟอร์มูลา" มากว่า 30 ปี ผมได้รับเชิญจากบริษัทรถยนต์ เพื่อไปดูงานต่างประเทศ หลายต่อหลายครั้ง   แต่ล่าสุดที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญไปญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสฉลอง 50 ปีทองของ การดำเนินงานในประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในการเดินทางที่ผมรู้สึกทั้ง "แปลก" และ "ประทับใจ" จริงๆ   ผมได้ไปดู และวักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขวด จากแม่น้ำ "อีซูซุ" ชื่อเดียวกับยี่ห้อรถของเจ้าภาพ ไป เยี่ยมชมวิหารโบราณ "อิเสะ" อันเลื่องชื่อ ที่สำคัญยังมีโอกาสได้ร่วมพิธีกรรมเสริมบารมีแบบ ญี่ปุ่น ที่ว่ากันว่า ใครชะตาชีวิตร้าย ก็จะกลายเป็นดี ใครดีอยู่แล้ว ก็จะดียิ่งขึ้น   จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่บรรยากาศดูขลังเอาการทีเดียวครับ   หลังจากนั้นไปดูภูเขาไฟ และทะเลสาบที่ฮอกไกโด ไปชมการแข่งขัน ซูโม ระดับชาติ (GRAND SUMO TOURNAMENT) ที่น่าตื่นเต้น ในโตเกียว รวมถึงได้ชิมอาหารที่อร่อยทุกวัน เข้าขั้นทุกมื้อ   นอกจากนี้ ยังได้ไปทดสอบพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเอง เพื่อให้ขับขี่รถเพื่อการพาณิชย์ ได้ถูก ต้อง และประหยัด ที่โรงงานฟูจิซาวะของอีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้สนามทดสอบยาว 2.4 กิโลเมตร กับเครื่องมือวัดประสิทธิภาพการขับขี่ที่ชื่อว่า FUEL ECONOMY "MIMAMORI" (MONITORING) REPORT ซึ่งติดตั้งอยู่ในรถบรรทุก เอลฟ์ (ELF) 6 ล้อ   การทดสอบนี้มีคะแนนเต็ม 100 ครับ   คนที่เก่งที่สุดได้ 82 น้อยที่สุด 20-30 ส่วนผมได้ 70 คะแนน   ในใบสรุปผลบอกว่า "SO-SO" แปลง่ายๆ ว่า "งั้น-งั้น"   เกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ คือ ต้องได้มากกว่า 80 คะแนน ถึงจะเรียกว่าเป็นคนขับรถได้ดี เข้าขั้นมาตรฐาน ปัจจุบัน เครื่องมือนี้ บริษัทขนส่งต่างๆ ในญี่ปุ่นได้ติดตั้งไว้ในรถบรรทุก อีซูซุ ของตน เพื่อตรวจ และประเมินพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถไว้ส่วนหนึ่งแล้ว   ในวันอิสระ ผม คุณปราจิน เอี่ยมลำเนา กับเพื่อนสื่อมวลชนหลายคน ไปเดินซื้อสินค้าพื้นเมืองกัน หลังจากนั้น ก็กลับขึ้นที่พัก จนวันรุ่งขึ้นมีชายวัยกลางคน มาดักรอหน้าโรงแรม แล้ววิ่งไปแย่งถุง จากคุณปราจิน แถมร้องเอะอะโวยวาย   ชายผู้นั้น คือ เจ้าของร้านสินค้าพื้นเมือง ที่พวกเราไปเดินซื้อกันเมื่อวานนี่เอง ถามไถ่ได้ความว่า มีพวกเราคนหนึ่งเซ็นจ่ายบัตรเครดิทเกินจริง คือ จาก 39,000 เยน (หมื่นกว่าบาท) เป็น 390,000 เยน (แสนกว่าบาท) เขาจำหน้าพวกเราไม่ได้ ก็เลยดูจากถุงหิ้วที่ตีตราร้านเขา ซึ่งตอนนั้นมีคุณ ปราจินถืออยู่คนเดียว จึงเข้ามาทัก   เชคกันไปมา ปรากฏว่าคนโชคดีที่เซ็นผิด คือ ผมเอง เขาพาผมไปที่ร้าน กล่าวขอโทษผมอย่างแรง ที่ทำผิดพลาด และทำให้เสียเวลา แล้วจัดการยกเลิกใบเสร็จนั้นทันที   ผมเลยขอบคุณเขา เพราะแทนที่เขาจะเอาไปขึ้นเงิน กลับเอามาคืน เขาบอกผมว่า เขาต่างหาก ที่ต้องขอบคุณผม เพราะเมื่อคืนเขาว้าวุ่นใจมาก นอนแทบไม่หลับ ผมเป็นคนทำให้เขาสบายใจ ก่อนแยกกันเขายังซื้อตุ๊กตาหินให้ผมอีกหนึ่งตัว   น้องๆ นักข่าวที่ไปด้วยกัน พอรู้เรื่องก็เขียนชมเขาไปหลายฉบับ   และป่านนี้ผมเชื่อว่า คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการของ ตรีเพชรอีซูซุ ฯ คงให้ คนเขียนจดหมายภาษาญี่ปุ่น ส่งไปยังสถานทูตเพื่อขอบคุณ และชมเชยเขาแล้ว   ไม่แน่นะ...นอกจากความซื่อสัตย์ของเจ้าของร้านแล้ว สิ่งที่ช่วยให้ผมรอดจากการเสียเงินแสนใน คราวนี้ อาจเป็นพิธีเสริมบารมีที่วิหารอิเสะ ก็เป็นได้