DIY...คุณทำเองได้
ทริคน่ารู้
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ มีบทบาทในบ้านเรามากขึ้น โดยเฉพาะในรถกระบะ นับตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา หลายค่ายได้เพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ด้วยเทอร์โบชาร์จ กับเครื่องบลอคเดิม อีกเหตุผลหนึ่งเพราะมาตรฐานมลพิษที่สูงขึ้น ทำให้ต้องออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อลดปริมาณไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ ทางออกที่ดีและง่ายคือ การติดตั้งระบบอัดอากาศ หรือเทอร์โบชาร์จ เข้าไป เพื่อให้ปริมาณอากาศเพียงพอกับความต้องการจริงของเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อินเตอร์คูเลอร์
ตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ในเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ยุคนั้น ยังไม่ทันสมัยนัก อุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ ก็มีน้อยเพราะต้องการบีบในเรื่องของต้นทุน ต่อมาการแข่งขันเริ่มรุนแรงมากขึ้น ทำให้หลายค่ายต้องยอมทำใจเพิ่มต้นทุน ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ เพื่อมาเป็นจุดขายให้กับตัวเอง อย่างแรกคือ อินเตอร์คูเลอร์ เพราะสามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อีกทางหนึ่ง หน้าที่ของเทอร์โบชาร์จ คือ อัดอากาศให้เกิดความดันทำให้อากาศไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้รวดเร็ว เพียงพอกับความต้องการของเครื่องยนต์จริง แต่การอัดอากาศให้เกิดความดันนั้น ผลที่ตามมาคือ เรื่องความร้อนของอากาศที่ถูกอัดแล้วจะเพิ่มสูงมากส่งผลให้ความหนาแน่นของมวลอากาศลดลง เนื่องจากการเสียดสีกันของโมเลกุลต่างๆ เมื่อความหนาแน่นลดลง ออกซิเจนก็จะลดลงด้วย ซึ่งออกซิเจนมีผลโดยตรงต่อการเผาไหม้ ถ้าออกซิเจนลดลงการเผาไหม้ก็จะไม่สมบูรณ์เต็มที่
แล้วจะทำอย่างไร ? ให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ทางออกคือ ต้องลดอุณหภูมิของอากาศที่ถูกเทอร์โบอัดมาแล้วให้เย็นลงก่อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ด้วยการใช้อินเตอร์คูเลอร์ ทำหน้าที่เหมือนหม้อน้ำ เมื่ออากาศร้อนผ่านตัวอินเตอร์คูเลอร์ ความร้อนจะถูกดึงผ่านครีบเล็กๆ แบบเดียวกับครีบหม้อน้ำ เมื่ออุณหภูมิของอากาศลดลง ความหนาแน่นก็จะเพิ่มขึ้น การเผาไหม้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเครื่องยนต์ผลิตกำลังได้อย่างเต็มที่ แต่รถในยุคนั้น ยังไม่มีให้ เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น อินเตอร์คูเลอร์ มี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ กับระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบหลังจะควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า แต่ระบบมีความซับซ้อน เพราะการระบายความร้อน จะใช้น้ำเป็นตัวช่วยถ่ายเท ทำให้ต้องมีหม้อน้ำเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาสำหรับระบายความร้อนของน้ำอีกตัวหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องเพิ่มท่อทางของน้ำเข้าไปยังหม้อน้ำอีกจุด การดูแลรักษาทำได้ยาก และอุปกรณ์มีราคาแพง
ส่วนอินเตอร์คูเลอร์ แบบระบายความร้อนด้วยอากาศนั้น แม้จะควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่า แต่มีการติดตั้งง่าย มีชิ้นส่วนน้อยและราคาต่ำกว่า เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาติดตั้งให้กับรถที่มีเทอร์โบอยู่แล้วทำไมถึงต้องติดตั้งอินเตอร์คูเลอร์เพิ่ม เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อนและมีสภาพการจราจรติดขัดความร้อนสะสมในห้องเครื่องจะสูงมาก เครื่องยนต์ก็แสดงพลังได้ไม่เต็มที่ หรือคนที่ชอบเดินทางไกลบ่อยๆ อินเตอร์คูเลอร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อีกทางหนึ่ง
เจ้าของรถที่อยากติดตั้งเพิ่ม สามารถหาซื้ออินเตอร์คูเลอร์มือสอง จากร้านอะไหล่เก่าที่มีมากมายโดยเลือกขนาดให้เหมาะสมกับตัวรถของคุณ ทั้งเรื่องของความจุกระบอกสูบและพื้นที่ว่างอย่างแรกที่ต้องคำนึง คือ ตำแหน่งติดตั้ง บริเวณที่เหมาะสม คือ หลังกระจังหน้าหรือกันชน ต้องเลือกพื้นที่ว่างให้บังหม้อน้ำน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นตำแหน่งรับลมเย็นได้ดี ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในห้องเครื่อง เพราะความร้อนสะสมในห้องเครื่องยนต์จะทำให้อินเตอร์คูเลอร์รับความร้อนไปสู่อากาศที่ผ่านตัวมัน กลายเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับอากาศไปโดยปริยาย แม้จะมีการติดตั้งสกูพดักลมมันก็ไม่ช่วยอะไรเลย ถ้ารถจอดอยู่นิ่งๆ ที่เห็นมีเพียงเจ้าเดียว คือ มิตซูบิชิ จะติดตั้งพัดลมระบายความร้อนใต้ตัวอินเตอร์คูเลอร์ ให้ด้วย จะช่วยได้มาก ตอนรถจอดหรือวิ่งความเร็วต่ำ ซึ่งอากาศเย็นจากภายนอกจะเข้ามาระบายความร้อนได้น้อย
พยายามติดตั้งที่ด้านหน้าจะดีกว่า และไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดใหญ่โตมากมาย ดูได้จากอินเตอร์คูเลอร์สแตนดาร์ดติดรถเป็นหลัก โดยมากขนาดจะอยู่ประมาณกระดาษ A4 ก็เพียงพอ แค่ขอให้อยู่ในตำแหน่งรับลมเย็นๆ ได้ก็พอแล้ว ราคาอินเตอร์คูเลอร์มือสอง ประมาณ 1,500-2,000 บาท สำหรับอินเตอร์คูเลอร์สแตนดาร์ด ติดรถซึ่งเพียงพอกับการใช้งานแล้ว ส่วนอินเตอร์คูเลอร์ของรถแรงๆ หรือสำนักแต่งต่างๆราคาจะสูงกว่าเท่าตัว ซึ่งไม่มีความจำเป็น ค่าติดตั้งและเดินท่อไอดี รวมท่อยางต่างๆ ประมาณ 2,500-3,500 บาท ขึ้นอยู่กับความยาวของท่อและความยากง่าย
ออยล์คูเลอร์
อีกทางเลือกในการยืดอายุการใช้งาน
ปกติรถรุ่นใหม่ จะมีการติดตั้งออยล์คูเลอร์ มาให้เสร็จสรรพจากโรงงาน ในรถกระบะมีใช้ 2 แบบใหญ่ๆคือ แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มีจุดระบาย คือ บริเวณฐานของกรองน้ำมันเครื่อง กับแบบระบายความร้อนด้วยอากาศ แบบนี้จะเป็นรังผึ้งระบายความร้อน หรือไม่ก็เป็นท่อที่มีครีบระบายความร้อนอยู่รอบๆ โดยติดตั้งอยู่ที่หลังกันชน ไม่ว่าจะแบบไหนก็มีหน้าที่หลัก คือ ช่วยระบายความร้อนให้กับน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องยนต์ เพื่อช่วยถนอมชิ้นส่วนภายในระบบเครื่องยนต์โดยเฉพาะ เช่นพวกซีลยางต่างๆ ไม่ให้เสื่อมก่อนเวลาอันควร รวมทั้งเป็นการรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องให้คงที่จะได้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูงสุดเต็มอายุการใช้งาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่จะเป็นไปตามปกติ เนื่องจากน้ำมันเครื่องถ้ามันเสื่อมสภาพจากความร้อนเมื่อไรประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและการระบายความร้อนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอสูงกว่าปกติ
โดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบขับรถเร็ว ใช้รอบเครื่องยนต์สูงๆ เป็นประจำ ผู้ที่ต้องบรรทุกหนัก หรือใช้เส้นทางลาดชันเป็นประจำ น้ำมันเครื่องจะทำงานหนัก เพราะเครื่องยนต์จะแช่อยู่ในรอบสูงเป็นเวลานานๆน้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว และเชื่อได้ว่าเจ้าของรถหลายๆ ท่านไม่ค่อยได้อ่านคำแนะนำข้างกระป๋อง หรือจากคู่มือประจำรถ ส่วนใหญ่จะบอกไว้ชัดเจนว่ากรณีที่บรรทุกหนัก หรือใช้เครื่องยนต์อย่างสมบุกสมบัน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะต้องทำเร็วขึ้น ด้วยความไม่รู้นี่เอง ทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอสูง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเป็นคนที่ดูแลรักษารถอย่างดี แต่ขาดความเข้าใจ หรือขาดการศึกษาคู่มืออย่างละเอียด
ที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีค่าย มิตซูบิชิ เพียงเจ้าเดียวที่ให้ออยล์คูเลอร์ ติดรถมา นับตั้งแต่กระบะรุ่น L200 สตราดา นั้น รุ่น 2,800 ออยล์คูเลอร์ จะเป็นแบบน้ำโดยท่อทางระบายความร้อนจะอยู่ที่ฐานกรองน้ำมันเครื่อง รุ่น 2,500 ยังใช้รังผึ้งระบายความร้อนที่หน้ากันชนเหมือนเดิม
การติดตั้งออยล์คูเลอร์ อาจจะไม่ง่ายเหมือนการติดตั้งอินเตอร์คูเลอร์ เพราะที่เครื่องยนต์จะไม่มีช่องทางสำหรับการต่อท่อทางมายังตัวออยล์คูเลอร์ ที่ด้านหน้ารถ อาจจะมีบางรุ่นมีรูที่เสื้อสูบอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้นอทปิดตายเอาไว้ กรณีแบบนี้ก็ง่ายและลงทุนน้อย ส่วนรถที่ไม่ต้องใช้อแดพเตอร์ สำหรับเพิ่มท่อทางออกและไหลกลับของน้ำมันเครื่อง ซึ่งอแดพเตอร์นี้จะติดตั้งที่กรองน้ำมันเครื่อง ส่วนตัวกรองน้ำมันเครื่องก็ยึดติดกับอแดพเตอร์อีกที อแดพเตอร์ตัวนี้อาจจะมีราคาสูงหน่อย ของใหม่ประมาณ 2-3 พันบาท ไม่รวม
ท่อทางส่วนออยล์คูเลอร์ ขนาดย่อมๆ ราคาประมาณ 1 พันบาทบวกลบเล็กน้อย การติดตั้งง่ายมากเพราะสามารถใช้ท่อทองแดงที่ดัดได้ง่ายๆ ไม่เหมือนท่ออินเตอร์ เพียงแต่การเลือกซื้อออยล์คูเลอร์ ต้องคำนึงถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อเข้าและออก ต้องมีขนาดเท่ากัน และมีขนาดใหญ่พอประมาณ เคยพบปัญหาหลังจากการติดตั้งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซื้อออยล์คูเลอร์ที่มีท่อเข้า/ออกเล็กเกินไป ทำให้แรงดันน้ำมันเครื่องมาดรอพที่ตัวออยล์คูเลอร์ ผลที่ตามมา คือ แรงดันในระบบตก น้ำมันเครื่องส่งไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดผลเสีย คือ การสึกหรอสูงผิดปกติ
ทั้ง 2 ส่วนนี้ สามารถช่วยยืดอายุให้กับเครื่องยนต์, ซีลยางต่างๆ และน้ำมันเครื่องได้ หลายคนอาจจะเถียงว่าถ้าจำเป็นทำไมบริษัทรถยนต์ไม่ติดตั้งมาให้ ง่ายๆ และชัดเจน คือ เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น อันเป็นผลให้ได้กำไรน้อยลง เช่นเดียวกับเทอร์โบไทเมอร์สำหรับตั้งเวลาดับเครื่องยนต์ ถ้าขั้นปฏิบัติจริงๆ แล้วยังจำเป็นน้อยกว่า 2 อย่างนี้อีก แต่บ้านเรากลับให้ความสำคัญมากโดยที่ไม่จำเป็นเลยการถนอมให้เครื่องยนต์เทอร์โบใช้งานได้นานนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วควรออกรถอย่างนุ่มนวล วิ่งด้วยความเร็วต่ำสักครู่จนความร้อนขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ แทนการวอร์มอยู่กับที่นอกจากกินน้ำมันแล้วยังก่อให้เกิดมลพิษด้วย และก่อนถึงที่หมายสักพักควรลดความเร็วมาอยู่ในระดับปกติที่รอบไม่สูงมาก เช่นประมาณ 80-90 กม./ชม. จะเป็นการลดอุหภูมิของเครื่องยนต์ลงอย่างช้าๆพอถึงที่หมายก็สามารถดับเครื่องได้เลยไม่ต้องเดินเบาให้เปลืองน้ำมันและก่อมลพิษอีก ซึ่งการจอด
เดินเบาเพียง 1-2 นาที แบบนี้ชิ้นส่วนโดยรวมยังไม่ทันได้ลดอุณหภูมิมาอยู่ในระดับปกติดีก็ดับเครื่องแล้วซึ่งการดับเครื่องตอนนี้จะทำให้อุณหภูมิสะสมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะระบบระบายความร้อนไม่มีการทำงานเลย นานไปชิ้นส่วนที่เป็นโลหะต่างชนิดกันก็จะเกิดการบิดเบี้ยวเสียรูป แม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลโดยตรงต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์
เรื่องโดย : พหล ฯ
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57497