X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Jun 2006
ค่าเสียหาย ที่น่าสนใจ
คดีนี้เป็นเรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายที่น่าสนใจโดยเฉพาะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการไม่ได้ขึ้นเงินเดือน เพราะบาดเจ็บต้องลางานเกินกำหนด "นายสะใจ" รู้สึกตกอกตกใจเป็นที่สุดเมื่อรถทัวร์ที่ตนเองโดยสารเพื่อไปยังทางเหนือทิ่มโครมเข้าไปที่ท้ายรถบรรทุกซึ่งจอดอยู่ไหล่ทางข้างซ้าย ไม่ใช่ตกใจอย่างเดียวแต่ปางตาย เพราะแรงเหวี่ยงแรงกระแทก ขาหักทั้งสองข้าง หัวเข่าซ้ายฉีกขาด ริมฝีปากทะลุ ฟันโยก 4 ซี่ ต้องนอนแบบรักษาที่โรงพยาบาล ต้องทำกายภาพบำบัดเป็นเวลา 4 เดือนเศษ จึงกระย่องกระแย่งได้ ที่สำคัญคือรถทัวร์ก็ดี รถบรรทุกที่จอดแล้วรถทัวร์ไปทิ่มตำก็ดี เจ้าของต่างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่จ่ายค่าเสียหาย มีการตกลงพูดจาก็จะให้แค่จิ๊บจ๊อยเท่านั้น ในที่สุดนายสะใจซึ่งถอดใจกับการนั่งรถทัวร์ไปอีกนาน จำเป็นต้องจ้างทนาย ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย ฟ้องบริษัทขนส่ง เป็นจำเลยที่ 1 ฟ้อง "นายทุ่มเท"เจ้าของรถบรรทุกซึ่งไม่ยอมทุ่มเทเหมือนชื่อเป็นจำเลยที่ 2 ระบุว่า ลูกจ้างของจำเลยทั้งสองกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้นายสะใจได้รับบาดเจ็บและได้รับความเสียหาย เรียกร้องหลายรายการ รวมแล้วเป็นเงินเกือบ 4 แสน ดอกเบี้ยอีกต่างหาก บริษัทขนส่งสู้คดีไว้ก่อนตามธรรมเนียม (ที่ไม่ค่อยดี) อ้างว่ารถบรรทุกต่างหากที่ประมาท จอดรถโดยไม่ติดตั้งสัญญาณเมื่อรถเสียให้รถทัวร์มองเห็นและหลบทัน จอดรถเข้าไปในช่องทางจราจรของรถทัวร์แถมยังมีรถสวนทางมา รถทัวร์ไม่มีทางหลบ เบรคก็ไม่ทัน จึงชนตูมเข้าให้ ค่าเสียหายเรียกมาเวอร์ขอให้ยกฟ้อง นายทุ่มเท เจ้าของรถบรรทุกสู้คดีแบบมั่วนิ่มว่า คนที่นายสะใจระบุชื่อมาในฟ้องไม่ได้ขับรถบรรทุกนายสะใจไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง รถบรรทุกไม่ได้ประมาท ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ตัดสินให้จำเลยที่ 1 คือบริษัทขนส่งจ่ายค่าเสียหาย 1 แสนบาทกับเศษเป็นร้อย พร้อมดอกเบี้ย แต่ยกฟ้องนายทุ่มเท จำเลยที่ 2 เพราะเหตุใดไม่แจ้งไว้ในคำตัดสินที่อยู่ในมือของผม เข้าใจว่ารถบรรทุกไม่ได้เป็นฝ่ายประมาทกระมัง บริษัทขนส่งคงพอใจที่ศาลชั้นต้นตัดสินให้จ่ายราว 1 ใน 4 ของจำนวนเงินที่นายสะใจเรียกร้องจึงนิ่งเสีย ไม่ยื่นอุทธรณ์ ขณะที่นายสะใจผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ทนายยื่นอุทธรณ์ แจกแจงว่าศาลน่าจะให้ค่าเสียหายในส่วนไหนบ้างจากที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้ ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษาแก้ ให้นายสะใจได้รับค่าเสียหายเพิ่มขึ้นอีกแสนกว่าบาทถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง แม้จะไม่คุ้มกับอาการบาดเจ็บ รักษาแล้วไม่เต็มคนเหมือนเดิม แต่จำเลยที่ 1 ไม่ยอมจ่ายง่ายๆ ดิ้นรนด้วยการยื่นฎีกา อ้างโน่นอ้างนี่เพื่อโต้แย้งค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์ให้จ่ายเพิ่ม โดยเฉพาะค่าเสียหายในส่วนที่นายสะใจรับราชการแล้วลาป่วยนานเกินเกณฑ์ จึงไม่ได้เงินเดือนขึ้นตามปกติ 1 ขั้น ตกเดือนละ 520 บาท เวลา 1 ปี เป็นเงิน 6 หมื่นกว่าบาท จำเลยที่ 1 หรือบริษัทขนส่งอ้างว่าเป็นเรื่องไกลกว่าเหตุ ไม่แน่ไม่นอนว่านายสะใจจะได้ขึ้นเงินเดือนแม้ไม่บาดเจ็บจากการนั่งรถทัวร์ ศาลฎีกาพินิจพิเคราะห์เจาะประเด็นตามข้อโต้แย้ง และชี้ขาดออกมาว่า อาการบาดเจ็บขาหักสองข้าง เอ็นเข่าซ้ายขาด ริมฝีปากทะลุฟันโยก 4 ซี่ ต้องรักษาตัวอยู่นานแล้วไม่ปกติเหมือนเดิม ทำให้เสียบุคลิก ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายแค่ 2 หมื่นบาท แต่ศาลอุทธรณ์ให้จ่าย 1 แสนบาท ถือว่าเหมาะสมแล้ว การไม่ได้ขึ้นเงินเดือน นายสะใจมีผู้บังคับบัญชามาเบิกความยืนยันว่า สาเหตุที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน เพราะลาป่วยเกินกำหนด ขณะที่จำเลยไม่สามารถโต้แย้งเป็นอย่างอื่น ไม่นำสืบให้เห็นว่านายสะใจไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเพราะเหตุอื่น ศาลอุทธรณ์บังคับให้จ่ายในส่วนนี้คือเดือนละ 520 บาท เป็นเวลา 1 ปี รวมแล้ว 62,400 บาท ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการสมควร ศาลฎีกาจึงพิพากษายืน จุดที่น่าสนใจในคดีนี้คือ การที่ศาลตัดสินให้จำเลยจ่ายเงินเดือนส่วนที่โจทก์ไม่ได้รับเพราะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน เนื่องจากบาดเจ็บเพราะรถ ต้องนอนแซ่วรักษาตัวเป็นเวลานาน ลางานเกินกำหนด ซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามองว่าเป็นความเสียหายโดยตรง เมื่อนำสืบได้ว่าผู้บาดเจ็บไม่ได้ขึ้นเงินเดือนจริงๆ เพราะลาหยุดงานเกินกำหนดจากการรักษาตัว ไม่ใช่มีเหตุอื่นแล้วไม่ได้ขึ้นเงินเดือน จำเลยคือบริษัทขนส่งโชคดีที่นายสะใจไม่ใช่ข้าราชการระดับบิก ขึ้นเงินเดือนแค่ 520 บาทถ้าเจอเข้าไปขั้นละสองสามพันบาท ต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นแสนๆ บาทเลยทีเดียว การขับรถจึงต้องระวัง เกิดอะไรขึ้นมาทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ถ้าเราผิดแล้วตกลงไม่ได้ ไม่รู้หรอกว่าเขาจะฟ้องเรียกร้องมากมายแค่ไหน อาจเป็นค่าเสียหายที่เราคาดไม่ถึง จุกอกก็แล้วกัน จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4018/2533
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/57358
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Aug 2015
โทษเบาไปนะ !!!
รู้ไว้ใช่ว่า
17 Jul 2015
เบรคแตก
รู้ไว้ใช่ว่า
24 Jun 2015
ลืมไม่เข้าคุก !
รู้ไว้ใช่ว่า
19 May 2015
"ไฟไหม้รถ/ค้ายา !"
รู้ไว้ใช่ว่า
20 Apr 2015
"ลูกหลานใช้รถ !"
รู้ไว้ใช่ว่า
16 Mar 2015
"รัดเข็มขัดประหยัดชีวิต"
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Feb 2015
"รถมีประกัน...เมา !"
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า