พินิจ งามพริ้ง

ถ้าพูดถึงรถกระบะ ที่มีความโดดเด่นด้านดีไซจ์น ตัวเลือกแรกๆ คงหนีไม่พ้น มิตซูบิชิ ทไรทัน ที่ฉีกแนวเปลี่ยนโฉมรถกระบะใหม่หมด…4 WHEELS สัมภาษณ์ พินิจ งามพริ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด   4 WHEELS : จุดเด่นของ มิตซูบิชิ ทไรทัน คืออะไร ? พินิจ : คือ อินโนเวทีฟ (INNOVATIVE) ด้านดีไซจ์น การออกแบบทั้งรูปทรง และการใช้งานที่โดดเด่นเป็นพิเศษ รวมถึงเรื่อง สมรรถนะ ที่ มิตซูบิชิ ถือว่าเป็นมรดกสืบทอดกันมา เห็นได้จากการทดสอบต่างๆ ผลลัพธ์และประสบการณ์ที่ได้จากสนามทดสอบ ทำให้ มิตซูบิชิ เป็นที่รู้จักในด้านสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ส่วนจุดเด่นอีกด้านหนึ่ง คือความทนทานของเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานมากๆ ความทนทานถือเป็นเรื่องสำคัญ จะเห็นได้จากรถรุ่นเก่าของ มิตซูบิชิ ที่ผ่านมาในอดีตผู้ที่เลือกใช้จะนิยมในเรื่องความทนทานในการใช้งาน   4 WHEELS : บางกระแสมองว่า ดีไซจ์น ทไรทัน ก้าวล้ำเกินไป มีความคิดเห็นอย่างไร ? พินิจ : เห็นด้วย ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ในตลาดรถกระบะทั่วโลก หลังจากที่ มิตซูบิชิ ได้เปิดตัว ทไรทันส่งออกลูกค้าในยุโรป ให้การตอบรับกลับมาดีมาก เพราะเราทำ โพรดัคท์ เทสต์ ในเรื่องของดีไซจ์นที่ล้ำสมัยซึ่งบางคนบอกว่าล้ำสมัยเกินไป ผมคิดว่า เราเป็นผู้นำ ที่กล้าออกแบบให้รถกระบะมีความแตกต่างจากค่ายอื่น ทำให้วงการรถยนต์มีการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งแง่ดีและไม่ดี ชอบและไม่ชอบ ถือเป็นเรื่องธรรมดาโมเดลกระบะมีอายุประมาณ 7-8 ปี ตรงนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่เราจะนำสิ่งใหม่ๆ มาสู่ตลาดต้องใช้เวลา และเมื่อถึงเวลานั้น คนจะยอมรับได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่ยอมรับ ทไรทัน คือสังคมเมือง เห็นได้จากยอดขายจากรุ่น ดับเบิล แคบแสดงให้เห็นว่า คนเมืองยอมรับสิ่งใหม่ๆ ง่ายกว่า รถกระบะของเรามีหลายรุ่น ได้แก่ ดับเบิล แคบ รองลงมา คือ เมกา แคบ และสแตนดาร์ด แคบรุ่นสุดท้ายนี้ ผู้ที่ซื้อไว้ใช้งาน ตอนนี้เริ่มมีการตอบสนองที่ดีขึ้น เชื่อว่าใช้เวลาประมาณปีเศษคนก็จะคุ้นเคย และไม่มีปัญหากับดีไซจ์น   4 WHEELS : ปีนี้วางแผนทางการตลาดของ ทไรทัน ไว้อย่างไร ? พินิจ : นอกจากเรื่องหน้าตาแล้ว เราเน้นเรื่องการใช้งาน และสมรรถนะ ซึ่งผูกกับสิ่งที่เรามี คือเรื่องมอเตอร์สปอร์ท มีด้วยกัน 2 ส่วน คือ การแข่งขันในแง่สมรรถนะ และการใช้งานในแง่ของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มรากหญ้า โดยเครื่องมือที่ทำการตลาดนอกจากการโฆษณาแล้ว จะมีการทำกิจกรรมตามจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี เราทำเรื่อง ทไรทัน โชว์ การแข่งขันโหลดดิง การแข่งขันบรรทุกของ การขับวิบากซึ่งเราสร้างสนามขึ้นมา ส่วนในครึ่งปีหลังมีกิจกรรม "ขับขี่ปลอดภัย ถวายในหลวง" กิจกรรมนี้ถือเป็นการสร้างบแรนด์ มิตซูบิชิ เข้าไปด้วย โดยร่วมกับตำรวจทางหลวง ถือว่าเอาโพรดัคท์ เข้าไปผูกกับเรื่องของบแรนด์   4 WHEELS : ตั้งเป้ายอดจำหน่าย ทไรทัน ไว้เท่าไร ? พินิจ : ในประเทศ เราตั้งเป้าหมายรวมไว้ที่ 50,000 คัน ประมาณ 80 % เป็นของ ทไรทันส่วนยอดส่งออกประมาณ 160,000 คัน ย้อนถึงเรื่องส่งออกเราถือว่าเป็นผู้ริเริ่ม ที่ผ่านมา สตราดา ทำให้ชื่อของ มิตซูบิชิ ติดหู โดยเฉพาะตลาดในยุโรป ปีนี้เราให้ความสำคัญกับการส่งออก และปีนี้เป็นปีฉลอง 800,000 คัน น่าจะเป็นจำนวนรถที่ส่งออกมากที่สุดในจำนวนผู้ผลิตรถในเมืองไทย   4 WHEELS : หลังจากที่มีเครื่องยนต์คอมมอนเรล เข้ามาในประเทศไทย มองตลาดรถพิคอัพ ในปัจจุบันอย่างไร ? พินิจ : คนจะมองหาคอมมอนเรล เหมือนเป็นสิ่งการันตี ส่วนแนวทางการแข่งขันถ้ามองถึงประวัติศาสตร์ คนจะให้ความสนใจกับเรื่องการประหยัดน้ำมัน แต่ปัจจุบันคนทั่วไป ไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง การทำตลาดในเรื่องประหยัดน้ำมัน ต้องมีรายละเอียด และข้อมูลรองรับ อย่างตัวเลขสูงๆ ก็ไม่ได้บอกว่าคนจะเชื่อทั้งหมด เพราะเมื่อซื้อไป การใช้งานไม่เป็นอย่างที่โฆษณา และก็เกิดปัญหา ทำให้มองว่าเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่คนเข้าใจตอนนี้ เป็นเรื่องของคอมมอนเรล ซึ่งให้ความประหยัดอยู่แล้ว และก็ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับด้วย เราเน้นเรื่องประหยัดจากการใช้งานจริงมากกว่า ส่วนสิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาในอนาคต คือ ความเป็นปัจเจกชนของคนจะมีมากขึ้น เอาความชอบส่วนตัวและความสบายใจเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเริ่มก่อนในตลาดระดับบน แม้แต่ตลาดรถกระบะ ต่อไปน่าจะมีสเปเชียล เวอร์ชัน เพิ่มขึ้น   4 WHEELS : มองเรื่องราคาของตลาดรถพิคอัพ อย่างไร ? พินิจ : ราคาอยู่ที่บแรนด์มากกว่า บางรายเป็นรถระดับเดียวกัน ราคาถูกกว่าจริง แต่เขาจะเสียบแรนด์ส่วนกลุ่มคนที่เห็นความสำคัญเรื่องบแรนด์ อาจจะไม่เยอะ แต่มันจะช่วยสร้างบแรนด์ให้เรา ซึ่งต่อไปคนกลุ่มนี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาของประเทศและการศึกษา และต่อไปคนจะมองที่บุคลิกของรถมากกว่า เราไม่ควรไปแข่งขันด้านราคา เพราะบแรนด์จะกลายเป็นราคาถูก กลายเป็น "ขวัญใจคนจน" ไป   4 WHEELS : ปีนี้จะมีรถพิคอัพรุ่นใหม่ ออกมาหรือไม่ ? พินิจ : ยังไม่มี อยู่ในช่วงการวางแผนเรื่องการดีไซจ์น เพราะโมเดลนี้ จะอยู่อีก 8 ปี เราอยากทำออกมาให้ดีที่สุด