เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2004 สนาม 2
ศึกสวีดิช แรลลี หนึ่งรายการแข่งขันที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเส้นทางคดเคี้ยวตลอดระยะทาง 348.8 กิโลเมตร แถมปกคลุมด้วยหิมะลื่นเหมือนกระจก ในอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสหนำซ้ำข้างทางยังเต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่ ซึ่งถ้านักแข่งพลาดทำรถ "หลุด" เพียงครั้งเดียวอาจต้องออกจากการแข่งขันไปทันที ผู้ชนะที่สนามนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วคือ เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG)
เลกแรกระยะทางกว่า 131 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 6 สเตจ มาร์คุส โกร์นโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) สังกัดทีม ฟอร์ด ออกตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำเวลาดีที่สุด 2 สเตจรวดขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเวลารวม 24 นาที 26.6 วินาที นักขับสัญชาติฟินแลนด์คนนี้เคยคว้าชัยที่นี่มากถึง 3 ครั้งในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ทำเวลานำหน้า เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) สังกัดทีม คโรนอส โททาล ซีตรอง (KRONOS TOTAL CITROEN) ที่โชคร้ายกระจกบังลมหน้าแตกตั้งแต่เริ่มถึง 19 วินาที ส่วน มิคโค ฮีร์โวเนน (MIKKO HIRVONEN) ชาวฟินแลนด์ ทำเวลามาเป็นที่ 3 ตามหลังเพื่อนร่วมทีม โกร์นโฮล์ม ผู้นำอยู่ 26.6 วินาที
"ทีมเซอร์วิศของผมรีบจนลืมใส่เซฟทีที่ตัวลอคฝากระโปรงหน้า ทำให้มันเปิดมากระแทกกับกระจกหน้าจนแตก โชคดีที่ยังเช้า มีแสงจากดวงอาทิตย์มาช่วยผมเอาไว้" โลบ์กล่าวสั้นๆ
ในสเตจที่ 3 และ 4 ผู้นำยังคงเป็น โกร์นโฮล์ม พอสเตจที่ 5 อันดับที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อรถของ ฮีร์โวเนน มีปัญหากับระบบระบายความร้อน จนต้องออกจากการแข่งขันไปส่งผลให้ กีกี กัลลี (GIGI GALLI) ควบรถ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ขึ้นมารับอันดับ 3 จบการแข่งขันในเลกแรก โกร์นโฮล์ม ควบ ฟอร์ด โฟคัส เข้าเส้นชัยด้วยเวลารวมดีที่สุด 1 ชั่วโมง 12 นาที 29.8 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 โลบ์ อยู่ 10.2 วินาที
เลกที่ 2 ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครหยุดฟอร์มร้องแรงของ โกร์นโฮล์ม ได้ โดยเฉพาะในสเตจที่ 7 และ 8 ระยะทางรวมกว่า 30 กิโลเมตร เขาทำเวลาทิ้งคู่ปรับเก่าอย่าง โลบ์ ออกไปอีกเกือบ 8 วินาที หลังจากพักในจุดเซอร์วิศอีก 30 นาที กลับมาแข่งต่ออีก 5 สเตจที่เหลือของวันแม้ว่า โลบ์ จะสามารถชิงตำแหน่งผู้ทำเวลาดีที่สุดประจำสเตจได้ในสเตจที่ 13 แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้อันดับผู้นำมีการเปลี่ยนแปลง
จบการแข่งขันในเลกที่ 2 โกร์นโฮล์ม เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ทำเวลารวมได้ทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 21 นาที 51.9 วินาที โดยมี โลบ์ ยังคงรั้งอันดับ 2 ทำเวลาช้ากว่าผู้นำ 25.1 วินาที ด้านเดเนียล คาร์ลส์สัน (DANIEL CARLSSON) นักขับดาวรุ่งสังกัดทีม มิตซูบิชิ ที่สามารถควบรถแลนเซอร์ แซงหน้า กัลลี เพื่อนร่วมทีม ขึ้นมารับอันดับ 3 ได้สำเร็จ
"ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเลกที่ผ่านมาผมขับแบบระวังมากไปหน่อย ขณะที่ โกร์นโฮล์ม ขับแบบเสี่ยงเต็มที่ เลกหน้าผมจะเร่งอีกนิดเพื่อกดดันเขาเพิ่มขึ้น แล้วค่อยมาดูกันว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร" โลบ์ กล่าวอย่างมีความหวัง
ด้าน โกร์นโฮล์ม ผู้ซึ่งมีเวลานำอยู่ในขณะนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่การแข่งขันในเลกที่ 2 เสร็จสิ้นลง "ผมต้องระวังเต็มที่ที่จะไม่ขับเร็วเกินลิมิทของรถ ที่ผ่านมามันก็เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้อยู่แล้ว และผมก็กำลังสนุกกับมันอยู่"
เลกที่ 3 ในสเตจที่ 14-16 โลบ์ ยังคงทำเวลาไล่บี้ขึ้นมา โดยทำเวลาเข้ามาใกล้ผู้นำอีกเกือบ 10 วินาที ขณะที่ คาร์ลส์สัน ยังคงรั้งอันดับ 3 ไว้ได้ต่อไป
เข้าสู่ช่วง 3 สเตจสุดท้าย คู่ที่ถูกกองเชียร์จับตามองมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคู่ของ โกร์นโฮล์ม และโลบ์ โดยกองเชียร์ทีม ฟอร์ด ต้องใจหายใจคว่ำ เมื่อรถ โฟคัส ของ โกร์นโฮล์ม เกิดปัญหาน้ำมันไฮดรอลิคของเกียร์เกิดรั่ว ในช่วงสเตจที่ 16 แม้จะเสียเวลาไปเล็กน้อย โชคดีที่ยังสามารถขับต่อไปได้โดยเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบธรรมดา
จบการแข่งขันในวันที่สาม มาร์คุส โกร์นโฮล์ม สามารถคว้าแชมพ์ประจำสนามได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยทำเวลารวมได้ทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง 9 นาที 1.9 วินาที ขณะที่ เซบัสเตียงโลบ์ แชมพ์โลกคนล่าสุด แม้ว่าจะขับดีแบบไร้ปัญหามาตลอด แต่ยังไม่เพียงพอที่หยุดฟอร์มร้อนของ มาร์คุส โกร์นโฮล์ม ได้ โดย เซบัสเตียง โลบ์ ทำเวลาตามหลังอยู่ถึง 30.9 วินาทีขณะที่ทีม มิตซูบิชิ เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้น โดยรั้งอันดับที่ 3 และ 4 ไปครองได้สำเร็จโดยเดเนียล คาร์ลส์สัน และกีกี กัลลี ตามลำดับ
จากการที่ มาร์คุส โกร์นโฮล์ม ได้ชัยชนะในครั้งนี้ ส่งผลให้เขามีคะแนนสะสมประเภทนักขับ 20 คะแนนเต็ม ทิ้งห่างคู่ปรับเก่า เซบัสเตียง โลบ์ ที่ทำได้เพียงแค่อันดับรองแชมพ์ทั้งสองสนามมี 16 แต้ม ด้าน โทนี การ์เดไมสเตอร์ สังกัดทีมสิงห์ผยอง แม้จะทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่ก็ยังคงมีคะแนนสะสมจากสนามที่แล้วอยู่ 6 แต้ม รั้งอันดับ 3 ต่อไป โดยมี เดเนียล คาร์ลส์สันที่เพิ่งได้ 6 คะแนนแรกมาหมาดๆ ตามมาเป็นที่ 4
น่าเสียดายสำหรับทีม ซูบารุ ที่พลาดโอกาสคว้าคะแนนติดมือกลับบ้าน โดยรถทั้งสองคันของทีมมีปัญหา คริส แอทกินสัน (CHRIS ATKINSON) รถลื่นไถลไปชนกับต้นไม้อย่างจังในสเตจที่ 3 และเพทเทร์ โซลเบร์ก มีปัญหากับระบบเกียร์จนเสียเวลาไปเกือบ 1 นาทีเต็ม
ด้านคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ฟอร์ด ยังคงมีคะแนนเฉือนทีม ซีตรอง อยู่ 2 แต้ม โดยมี 26 คะแนน ส่วน เปอโฌต์ และซุบารุ ยังคงรั้งอันดับที่ 3 และ 4 ด้วยคะแนน 10 และ 8 ตามลำดับ
สำหรับสนามต่อไปย้ายไปแข่งที่ประเทศเมกซิโก ในวันที่ 3-5 มีนาคม คงต้องตามดูกันว่าจะมีทีมใดดับความร้อนแรงของทีม ฟอร์ด ได้ เนื่องจากการแข่งขันเพิ่งจะผ่านไป 2 สนามเท่านั้นคะแนนแต่ละทีมก็ยังแตกต่างกันไม่มาก ดังนั้นผลแพ้ชนะในสนามถัดไป อาจเปลี่ยนอันดับผู้นำได้ทันที
[table]
สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 2 สนาม ประเภทผู้ขับ
อันดับ,ผู้ขับ,คะแนนรวม
ชนะเลิศ ,มาร์คุส โกร์นโฮล์ม ,20
รองอันดับ 1 ,เซบัสเตียง โลบ์ ,16
รองอันดับ 2 ,โทนี การ์เดไมสเตอร์ ,6
สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 2 สนาม ประเภททีมผู้ผลิต,,
อันดับ ,ทีม ,คะแนนรวม
ชนะเลิศ, ฟอร์ด ,26
รองอันดับ 1, ซีตรอง ,24
รองอันดับ 2, เปอโฌต์ ,10
[/table]
เรื่องโดย : สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57294