ฉบับที่แล้ว เราได้แนะนำเกี่ยวกับการเบรค แทพพิง ให้ทราบแล้ว แต่ยังมีเทคนิคการเบรคอีกแบบที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการขับบนพื้นที่วิบาก สำหรับนักขับมือใหม่มันเป็นการเบรคที่ยากมาก แต่ถ้ามีการฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ มันจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน   ใช้พาร์คิงเบรค คลุมอาการรถ ในกรณีที่ใช้รถเกียร์ธรรมดาไต่ลงมาตามทางที่เป็นโขดหิน ต้องใช้เท้าเหยียบทั้งคลัทช์ เบรค และคันเร่งสลับกันไปมาในเวลาเดียวกัน ในช่วงเวลานั้นเทคนิคที่ใช้ได้ผลดีก็คือ ต้องขับไปในขณะที่มีการใช้พาร์คิงเบรค แทนการใช้เบรคเท้า การใช้ พาร์คิงเบรค จะช่วยควบคุมอาการของรถได้ดีในระดับหนึ่ง และยังไม่ต้องไปพะวงกับการเหยียบแป้นเร่งและคลัทช์สลับกับการเหยียบแป้นเบรคด้วย   โค้งแคบหักศอก เป็นที่รู้ดีว่า ในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น วงเลี้ยวจะกว้างกว่าการขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ทำให้เมื่อเจอโค้งที่มีวงเลี้ยวแคบหรือเป็นโค้งในลักษณะหักศอก การขับเลี้ยวเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ค่อนข้างจะเป็นการยาก แต่หากรู้จังหวะของการเข้าโค้งโดยเบนหัวรถให้จิกเข้าไปในโค้งแล้วใช้เข้าเกียร์ต่ำจากนั้นให้เพิ่มรอบหมุนของเครื่องยนต์ขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วตัดใจถอนคลัทช์ทันที ล้อคู่หลังก็จะลื่นไถลไปพร้อมกัน เพื่อเหวี่ยงให้ท้ายรถเบนไปตามทางโค้ง ก่อนที่จะให้แนวของตัวถังรถตั้งตรงอยู่ในแนววิ่งแล้วจึงค่อยเร่งคันเร่งส่งออกจากโค้งไป เทคนิคการขับเข้าโค้งโดยใช้เทคนิคนี้ เป็นเทคนิคชั้นสูงที่ใช้สำหรับการแข่ง แรลลี ครอสส์คันทรี รถที่เหมาะสำหรับการใช้เทคนิคนี้ควรมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ และมีการติดตั้ง ดิฟเฟอเรนเชียล ลอค หรือแอลเอสดี ที่เพลาขับล้อหลัง   ไต่ลงตามทางโขดหิน ลำพังการขับไต่ลงมาตามทางลาดชันก็เป็นการยากอยู่แล้ว ยิ่งทางที่ขับไต่ลงมาเป็นทางที่เต็มไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่ การขับลงมาย่อมยากขึ้นเป็นเงาตามตัว ในการขับไต่ลงมาตามทางลาดชันธรรมดาอาศัยเพียงเอนจินเบรค ก็เพียงพอแล้ว หรือหากความเร็วรถเพิ่มมากเกินไป อาจต้องใช้เบรคเท้าช่วยประคองด้วย ยิ่งผสมผสานกับทางที่เป็นโขดหินด้วยแล้ว แรงโมเมนตัมของรถที่เคลื่อนที่ลงมา เมื่อต้องปะทะกับโขดหินขนาดใหญ่ แรงกระแทกอย่างรุนแรง อาจทำให้ช่วงล่างของรถเสียหายได้ โดยเฉพาะเสื้อเกียร์ดิฟเฟอเรนเชียลหลัง การขับไต่ลงมาตามทางที่เต็มไปด้วยโขดหินนั้น ต้องอาศัยความสุขุมในการควบคุมรถ แป้นทั้งสามแป้นไม่ว่าจะเป็นคลัทช์ คันเร่ง หรือเบรค คนขับจะพะวงจนเหยียบสลับกันไปมาจนวุ่น การเหยียบเบรคที่ผิดจังหวะ หรือเหยียบเบรคด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปในบางครั้งอาจทำให้รถพลิกคว่ำไปข้างหน้าได้ การตัดปัญหาการใช้ เบรคเท้าออกโดยเปลี่ยนมาใช้ พาร์คิงเบรค แทน จะช่วยให้ลดความเครียดจากการควบคุมแป้นบังคับต่างๆ ลง และยังช่วยให้ควบคุมอาการของรถได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ในการขับลงมาตามทางที่เป็นโขดหินนั้น จะมีลักษณะหนึ่งที่แตกต่างไปจากการขับลงมาตามทางลาดชันธรรมดา นั่นคือหากเป็นการขับลงมาตามทางที่เต็มไปด้วยโขดหิน ถ้ารถมีท่าทีว่าจะคะมำไปข้างหน้า ต้องแก้อาการของรถด้วยการใช้คันเร่ง แทนที่จะใช้การเหยียบเบรค เพราะถ้าในชั่วขณะนั้นคุณไปเหยียบเบรค ก็จะยิ่งเป็นการไปเพิ่มแรงเหวี่ยงโยนไปข้างหน้าให้เพิ่มขึ้นอีก แต่ถ้าแก้โดยการใช้คันเร่งแล้วจะเป็นการสร้างแรงหน่วงให้เกิดขึ้นทางด้านท้ายรถ ช่วยถ่ายน้ำหนักของรถมาทางด้านหลังแทนที่จะถ่ายไปยังด้านหน้ารถทั้งหมด แต่โดยปกติของคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่รถกำลังจะคะมำไปข้างหน้า ความกลัวจะทำให้คนขับส่วนใหญ่เลือกเหยียบเบรค แทนที่จะเหยียบคันเร่งดังนั้นเมื่อเรียนรู้เช่นนี้แล้ว ควรตั้งสติให้ดีแล้วตัดสินใจเหยียบคันเร่งแทน สำหรับการขับเลี้ยวเข้าโค้งแบบหักศอก นอกจากจะใช้เทคนิคที่บอกไปข้างต้นแล้ว ยังอาจใช้การดึงเบรคมือช่วยเพื่อเหวี่ยงด้านท้ายของรถให้สาดไปตามทางโค้ง แต่เทคนิคดังกล่าวต้องใช้ความชำนาญ และต้องมีความระมัดระวังให้ดี เพราะหากไม่มีความชำนาญ และไม่รู้จังหวะของรถอาจทำให้รถเหวี่ยงไปปะทะอุปสรรคข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ หรือภูเขาได้ เทคนิคการใช้เบรค ที่แนะนำนี้ จะมีประโยชน์ต่อเมื่อคุณใช้งานมันอย่างถูกต้อง และควรมีการฝึกฝนจนเกิดความคุ้นเคยก่อนที่จะนำไปใช้งานในสถานการณ์จริง การใช้งานเบรค ผิดไปจากหลักการที่แนะนำ อาจนำมาซึ่งความเสียหาย